7 ก.ย. 2021 เวลา 05:36 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ถ้าถามว่าเส้น Moving Average ที่ได้รับความนิยมสูง ก็คงไม่พ้นสองตัวนี้ นั้นคือ SMA และ EMA แต่หลายคนอาจจะ งง ว่า สองตัวนี้มันต่างกันอย่างไร และเราจะใช้ตัวใหนดี วันนี้เราก็จะมาไขข้อข้องใจนี้ไปพร้อมๆ กัน
โครงสร้างทางคณิตศาสตร์ต ของ SMA EMA
Simple Moving Average (SMA) คือ
เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย ตรงตามชื่อ (Simple Moving Average) เป็นเครื่องมือที่นิยมใช้กันแพร่หลาย มีลักษณะล้อไปตามการเคลื่อนไหวของราคา วิธีในการหาเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ จะถ่วงน้ำหนัก ให้ค่าทุกค่าที่นำมาคำนวณมีความสำคัญต่อราคาเท่ากันหมด โดยอาศัยหลักการเอาข้อมูลในช่วงเวลาหนึ่ง หรือวิธีการ “หาค่าเฉลี่ยเลขคณิต” ในทางคณิตศาสตร์นั่นเอง
Exponential Moving Average (EMA) คือ
หลักการคำนวณเส้นค่าเฉลี่ยจะแตกต่างกันออกไป โดยเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ EMA เป็นการคำนวณในลักษณะถ่วงน้ำหนักอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ให้ความสำคัญกับตัวแปร ที่ทำให้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาค่อนข้างเร็ว และ การถ่วงน้ำหนัก จะให้ค่าสุดท้ายมีความสำคัญเพิ่มขึ้น
ความต่างกันที่สำคัญ SMA กับ EMA
EMA จะมีความเร็วต่อการตอบสนองต่อราคาเร็วกว่า SMA โดยจากความชั้นของ EMA มีการเปลียนแปลเร็วกว่า SMA
พูดให้เข้าใจง่าย EMA เร็วกว่า SMA แต่การที่สัญญาณมาเร็วก็อาจจะมาพร้อมกับความผันผวนของราคา อาจเกิดสัญาณหลอก แต่ SMA แม่นกว่า EMA เนื่องด้วยสัญญาณช้ากว่า และสัญญาณก็จะมาน้อยกว่า แต่ก็มีความผันผวนก็น้อยลงไปด้วย
การเลือกใช้ SMA กับ EMA
ต้องบอกว่า ทั้งสองตัวมีข้อดีและข้อเสียทั้งคู้ การเลือก SMA กับ EMA ก็ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของเราว่าต้องสัญญาณเข้าเร็วหรือช้า ถ้าหากต้องการที่เข้าสัญญาณที่เร้วก็เลือกใช้ EMA แต่ถ้าต้องการเลือกความแม่นย้ำ ก็เลือก SMA หรืออาจจะประยุคต์ให้เข้ากับระบบของเรา
โฆษณา