7 ก.ย. 2021 เวลา 08:56 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Dangal
“โอ้โหนี่มันหนังมาตรฐานดิสนีย์ชัด ๆ” คือคำแรกที่วิ่งเข้ามาในหัวผมตอนรับชมหนังอินเดียความยาวร่วม 2 ชั่วโมงครึ่งเรื่องนี้จบ ไม่แปลกใจเลยที่ภาพยนตร์เรื่องนี้กล้าเปิดตัวในสหรัฐอเมริกาในปี 2016 ด้วยการเข้าฉายในโรงหนังถึง 320 โรง ก่อนหน้าที่จะเปิดฉายในอินเดีย 2 วันด้วยซ้ำ Dangal มีครบทุกอย่างที่ผู้ชมสามารถคาดหวังจากหนัง blockbuster ได้ ทั้งความสนุกวีดว้ายราวนั่งเครื่องเล่นสวนสนุก ทั้งเพลงประกอบที่ไพเราะเหลือเชื่อ ไหนจะงานภาพที่ถ่ายทอดกีฬามวยปล้ำออกมาได้เฟี้ยวซะไม่มี นี่ยังไม่รวมประเด็นปัญหาทางสังคมในอินเดียที่ทีมผู้สร้างอยากส่งสารถึงอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวนี้ยังเขย่าผสมผสานกันได้ลงตัวสุด ๆ อีกด้วย
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานที่อำนวยการสร้างโดย Aamir Khan Production ซึ่งตัว Khan เองยังรับบทนักแสดงนำของเรื่องอีกด้วย โดยเขายังลงทุนเพิ่มน้ำหนักตัวขึ้นกว่า 50 ปอนด์ เพื่อให้เหมาะสมกับตัวละครอีกต่างหาก Dangal ได้ Nitesh Tiwari มาทำหน้าที่ผู้กำกับภาพยนตร์ โดยหนังหยิบยกเอาเรื่องราวจริงของ Mahavir Singh Phogat คุณพ่อผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของลูกสาว 2 คน ในฐานะนักมวยปล้ำหญิงระดับแถวหน้าของโลก
ตัว Khan สวมบทเป็น Mahavir อดีตนักมวยปล้ำสมัครเล่นผู้สามารถพิชิตเหรียญทองในการแข่งขันระดับชาติ แต่จำต้องยุติเส้นทางบนสังเวียนไว้แค่นั้นโดยไม่ได้ก้าวเข้าสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ และพลาดโอกาสที่จะเป็นตัวแทนทีมชาติไปแข่งขันในเวทีระดับโลก เพราะความจำเป็นที่จะต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัว และเรื่องนี้เป็นปมที่ค้างคาในใจของเจ้าตัวเสมอมา
Khan นี่เอาอยู่ทั้งฉากแอคชั่น และ ซีนดราม่า เลยจริง ๆ
Mahavir มีความฝันที่จะเห็นทายาทของเขาประสบความสำเร็จบนสังเวียนมวยปล้ำในระดับที่เขาเองไม่มีโอกาสได้เดินไปถึง แต่ก็ต้องผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะเขาและภรรยาให้กำเนิตแต่บุตรสาวถึง 4 คน จนกระทั่งในวันหนึ่งเมื่อเขาถูกเพื่อนบ้านต่อว่าด้วยเรื่องที่ลูกสาวของเขา 2 คน คือ Geeta คนโต และ Babita คนรองได้ซ้อมลูกชายของเธอซะน่วม เขาก็”ปิ๊ง”ขึ้นมาได้ว่าไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชายก็สามารถเป็นนักกีฬามวยปล้ำได้นี้นา ณ จุดนี้การเดินทางอันยาวไกลผ่านบททดสอบอันหนักหน่วงของคุณพ่อและลูกสาวทั้ง 2 สู่สังเวียนมวยปล้ำระดับโลกจึงได้เริ่มต้นขึ้น
Tiwari นำเสนอฉากการต่อสู้มวยปล้ำออกมาได้สนุกสนานมันส์สุดทางดีจริง ๆ เราคาดหวัง ฝุ่น เหงื่อ และเลือดได้หากนึกถึงมวยปล้ำ แต่เขาเลือกแทนที่เลือดด้วยจังหวะจะโคนที่รวดเร็ว การชิงไหวชิงพริบกันด้วยความเร็วถึงขีดสุดนี่เป็นอะไรที่เข้ากันได้ดีกับการแข่งขันมวยปล้ำหญิงมาก มิหนำซ้ำเรายังได้ร่วมลุ้นไปกับทุกฉากของการต่อสู้ด้วยใจระทึก จนแทบนั่งไม่ติด และเนื่องจากการนำเสนอในแบบที่ Tiwari เลือก เราจึงได้เห็นว่าการนำเสนอฉากแอคชั่นให้ดุเด็ดเผ็ดมันแบบไม่ฉายภาพความรุนแรงนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ มันทำให้ทุกคนในครอบครัวสามารถสนุกไปกับหนังได้ด้วยกันโดยไม่ต้องเป็นห่วงเด็ก ๆ
หากงานภาพคืออะไรที่ว่ายอดแล้ว งานเสียงก็ทำออกมาได้เยี่ยมไม่แพ้กัน เพลงทุกเพลงที่เลือกมาไพเราะเสนาะหูแถมเข้ากันได้ดีกับทุกฉากที่มันดังขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อ เอาจริง ๆ หนังของดิสนีย์เองยังมีน้อยเรื่องมาก ๆ ที่เราจะชอบทุกเพลง แต่ภาพยนตร์จากอินเดียเรื่องนี้กลับทำได้ และการเก็บวงออเคสตร้าชุดใหญ่ไฟกระพริบเอาไว้จัดหนักในฉากการต่อสู้สังเวียนสุดท้ายนี่เป็นอะไรที่สุดยอดมาก มันผลักอารมณ์ร่วมของผู้ชมไปถึงจุดสูงสุดพร้อมกับฉากไคล์แมกซ์ของหนังได้แบบที่เราจะประทับใจจนลืมไม่ลงเลยเชียวล่ะ
นอกเหนือจากความสนุกสนานที่ทำออกมาได้มาตรฐานเดียวกันกับหนังจากค่ายยักษ์ใหญ่ฝั่งฮอลลีวูดแล้ว Dangal ยังร้อยเรียงไปด้วยความสลับซับซ้อนของประเด็นทางสังคมมากมายในอินเดียไว้ให้เราตระหนักอีกด้วย ในเรื่องเราจะได้รับรู้ถึงเรื่องประเพณีการแต่งงานผู้เยาว์ที่เหล่าด็ก ๆ ในชมพูทวีปต้องเผชิญเอย, ได้ร่วมฟันฝ่าไปกับ Geeta และ Babita เพื่อให้ผู้หญิงสามารถเป็นที่ยอมรับของสังคมได้ในสถานะอื่น ๆ นอกจากเมียและแม่, เรายังจะได้ร่วมทวงถามถึงจิ๊กซอว์ที่ขาดหายไปจากการจัดการของรัฐเผื่อส่งเสริมนักกีฬาอาชีพกับ Mahavir เป็นต้น นี่ยังดีที่ว่าเรื่องราวของสองพี่น้องนักมวยปล้ำสาวสกุล Phogat ลงเอยได้งดงามนะ ไม่งั้นเราต้องมานั่งขบคิดกันอีกว่า เด็กมีสิทธิ์แค่ไหนที่จะปฏิเสธการใช้ชีวิตของตนให้เป็นไปตามความต้องการของพ่อ-แม่กันอีกเรื่องหนึ่งด้วย
โดยสรุป Dangal เป็นงานระดับมาสเตอร์พีซ ที่ตอบโจทย์ครบทุกเรื่องที่คุณจะถามหาจากการรับชมภาพยนตร์สักเรื่อง มันเป็นประสบการณ์การรับชมที่สนุกสนาน เร้าใจ ที่งานภาพก็สร้างสรรค์ งานเพลงก็เก็บหมดทุกความประทับใจแบบไร้ที่ติ แถมหากต้องการหยิบยกเอาเรื่องราวมาเป็นตัวอย่างเพื่อใช้พูดคุยถึงประเด็นต่าง ๆ ในสังคม ก็มีให้เลือกหยิบใช้กัยเหลือเฟือ เพื่อน ๆ คนไหนอยากดู ทาง Netflix เค้ามีเรื่องนี้ไว้รอท่าอยู่แล้วขอรับ
โฆษณา