8 ก.ย. 2021 เวลา 04:16 • หุ้น & เศรษฐกิจ
การแก้ปัญหาเชิงความคิดสร้างสร้าง
โดยเน้นแก้ปัญหาอย่างลึกซึ้ง
ให้เหมาะกับผู้ใช้งานจริง
ที่เรียกว่า Design Thinking
.
สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับ
ระบบการเทรดได้เช่นเดียวกัน
แม้จะเป็นนักลงทุนรายย่อย
หากเรามีความเข้าใจ
ถึงปัญหาและข้อจำกัด
ก็จะสามารถปรับกลยุทธ์พัฒนา
และทดลองให้เหมาะสมกับ
การเทรดของเราได้
.
แนวคิดส่วนหนึ่งของหนังสือ
#RobustTradingSystem
#31เคล็ดลับการเทรดเพื่อเอาชนะตลาดอย่างยั่งยืน
#เคล็ดลับที่10วิธีคิดเชิงออกแบบกับการพัฒนาระบบ
#DesingThinking
#TradingSystem
#แม่บ้านลงทุน
การคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking)
คือกระบวนการคิดที่เน้น เข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้ง
โดยใช้คน (ผู้ใช้ระบบ) เป็นศูนย์กลาง
นำความคิดสร้างสรรและประสบการณ์ของคนต่างๆ
มาสังเคราะห์ สร้างโมเดล ทดสอบ
เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหา
ที่เหมาะกับคนและสภาวการณ์จริงที่เกิดขึ้น
ระบบการเทรดที่ดีจะไม่ได้เน้นสร้างผลงานเพียงอย่างเดียว แต่จะเน้นการสร้างระบบงานที่เหมาะกับผู้ใช้งาน เนื่องจากผู้ใช้งานแต่ละคนจะมีปัจจัยและต้นทุนที่แตกต่างกัน
กรณีเทรดเดอร์ได้ทดลองการเทรดมาแล้ว
แต่ยังไม่ดี สามารถที่จะปรับปรุงและพัฒนา
ตามระบบ Design Thinking ได้ดังนี้
.
1. Emphasize : ทำความเข้าใจตัวเราเอง
ในฐานะผู้ใช้งาน พิจารณาความเหมาะสม
และอุปสรรคในการเทรด เช่น
เวลาไม่พอ เทรดแล้วเครียดกับผลขาดทุน
มีเงื่อนไขการเทรดที่ซับซ้อน
ให้เขียนปัญหาต่างๆของการเทรดปัจจุบันออกมา
.
2. Define : กำหนดเป้าหมายปัญหาที่ต้องการแก้ไข
และเรียงลำดับความสำคัญ
.
3. Ideate : ศึกษาแนวทางกลยุทธ์การเทรด
ความรู้จากหนังสือ อินเตอร์เน็ต เพื่อสะสมแนวทาง
ในการปรับปรุงพัฒนาระบบการเทรดเพื่อที่จะ
ตอบสนองการแก้ปัญหาในข้อ 2
.
4. Develop Prototype : ลงมือพัฒนา เช่น
ถ้าเรามีเวลาน้อยก็ทดลองการเทรดแบบ
Momentum Trading
ลดการใช้เครื่องมือเทคนิคอลหรือเงื่อนไข
การวิเคราะห์ที่มากเกินไป
ลดขนาดเงินเพื่อจำกัดการขาดทุน
แก้ปัญหาด้านอารมณ์และความเครียด
.
5. Testing : ทดสอบระบบที่พัฒนาขึ้นมา
สามารถทำได้โดยใช้ข้อมูลย้อนหลัง
หรือทดลอง paper trading ก่อนใช้เงินจริง
โฆษณา