8 ก.ย. 2021 เวลา 04:38 • กีฬา
โอกาสสุดท้ายของ Russell Westbrook ?
ติดตามเรื่องราวดีๆ และวิเคราะห์บาสเก็ตบอลแบบเจาะลึกได้ที่
3
#hoopdifferent
Russell Westbrook ถือเป็นหนึ่งนักบาส NBA ที่มีสปอตไลท์ส่องอยู่ตลอดเวลาด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน และความมั่นใจที่เกินร้อย ไม่แปลกเลยที่สื่อจากสำนักต่างๆ รวมไปถึงแฟนบาสทั่วโลก (และ Haters) จะคอยติดตามเค้ามาเรื่อยๆตั้งแต่เข้าลีคมาในปีแรกๆ
Point Guard ป้ายแดงของ LA Lakers ปัจจุบันรับค่าเหนื่อย 44 ล้านเหรียญต่อปี ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของการเซ็นสัญญาระดับ Super-Max Contract ตั้งแต่สมัยอยู่กับ OKC ผลงาน และสถิติส่วนตัวของ Russell บอกได้เลยว่าไม่มีข้อสงสัย เจ้าของ MVP 1 สมัย พ่วง All Star Game MVP อีก 2 สมัยเป็นข้อพิสูจน์ให้เหล่า Haters ลึกๆแล้วก็ต้องยอมรับว่าเค้าถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีคุณภาพมากคนนึง
ผลงานทีม ที่สวนทางกับผลงานส่วนตัว
ตลอดระยะเวลากว่า 13 ปีที่เค้าโลดแล่นอยู่ใน NBA เจ้าตัวไม่เคยได้สำผัดคำว่าแชมป์เลยแม้แต่ครั้งเดียว ทำได้ดีที่สุดก็คือรอบชิงชนะเลิศที่ไปแพ้ Miami Heat 1-4 เกมส์เมื่อปี 2012 (Heat ในปีนั้นก็ต้องยอมรับว่าจัดจ้านจริงๆนะครับ นำทีมโดยเพื่อนร่วมทีมคนใหม่อย่าง Lebron James และ เพื่อนร่วมทีมระดับเทพอย่าง D.Wade และ Chris Bosh)
ถึงแม้ว่าปีที่ผ่านมา Westbrrok มีค่าเฉลี่ย 22.2 แต้มต่อเกมส์ และกด Triple Double ไปอีก 38 ครั้ง ต้องยอมรับว่าผลงานเหล่านั้นไม่สามารถลบข้อกังขา และคำสบประมาทที่สื่อ และ Haters คอยโจมตีตลอดมาได้เลยในข้อหาที่ว่า "เค้าเล่นเพื่อตัวเอง"
ผมเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ Russell Westbrook Considers Himself As One Of A Kind
"ไม่มีผู้เล่นคนไหนในลีคเหมือนกับผม และถ้าใครไม่เห็นด้วย ผมก็ต้องขอโทษด้วย แต่มันคือความจริง ถ้าไอ้การที่ผมแสดงให้เห็นมาตลอด 10 กว่าปีเนี่ยมันง่ายที่จะทำตาม คนอื่นก็ต้องทำได้แล้วสิ"
"มันไม่ง่ายนะ ผมบอกได้เลย มันต้องใช้ความพยายาม และการเสียสละอย่างมาก" - Russell กล่าว
แอดมินก็ไม่แน่ใจว่าที่ Russell กล่าวหมายถึง Turnover ต่อเกมส์ของเจ้าตัวรึเปล่านะครับ ฤดูกาลที่ผ่านมาเค้ากดไป 315 Turnover จาก 65 เกมส์ ก็ต้องเรียกว่าทำตามได้ยากจริงๆ ฮ่าๆๆ (ขำๆนะครับ)
Westbrook and His Last Chance
ในการที่ผู้เล่นคนนึงจะได้ครอบครองเกียรติยศในการเป็นแชมป์ นอกจากผลงานส่วนตัวที่ต้องดี และคงเส้นคงวาแล้ว องค์ประกอบของทีม และโชคก็เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญอันดับต้นๆในการที่จะประสบความสำเร็จ ปีที่จะถึงนี้ ตัวเค้าจะอายุ 32 ปีซึ่งก็ถือว่าเริ่มเยอะแล้วสำหรับนักบาส แน่นอนว่าความเร็ว และประสิทธิภาพอาจจะมีดรอปลงตามกาลและเวลา
โดยส่วนตัวแอดมินมองว่าฤดูกาลที่กำลังจะถึงนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของเจ้าตัวในการทำผลงาน เพื่อนร่วมทีมที่ดี ภาระที่ได้รับการแบ่งเบา (ถ้าใครเคยดูเค้าเล่นมา แน่นอนว่าปีแล้วปีเล่าที่ Westbrook ต้องคอยแบกทีมมาโดยตลอด) การเข้าใจเกมส์ของผู้เล่นรุ่นเก๋าหลายๆคนน่าจะเป็นการรวมตัวที่สนุกแน่นอนเลยครับ
สุดท้ายแล้ว Lakers จะช่วยส่งนินจาเต่า All Star 9 สมัยของเราไปถึงฝั่งฝันได้หรือไม่นั้น ก็ต้องมาติดตามดูกันนะครับ มันส์แน่นอน!
โฆษณา