8 ก.ย. 2021 เวลา 14:05 • เพลง & ซีรีส์ เกาหลี
#รีวิวอะไรกันดี - NO. 18 🌻
JANNABI - The Land of Fantasy
Genres: indie rock, fantasy-musical rock
Release: 2021/07/28
- โลกจินตนาการแห่งความเป็นจริง -
• ในบรรดาอุตสากหรรมเคป็อบที่เต็มไปด้วยการไต่ชาร์ตจากแนวป็อบแดนซ์ไม่ก็บัลลาดสลับวนเวียนในกระแสหลัก เทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ก็นับว่า 95% โดยประมาณได้ซึ่งในส่วนที่เหลือมันก็มีความน้อยเนื้อต่ำใจเล็กๆถึงเหล่าแนวเพลงกลุ่มอินดี้จัดๆ ที่จะประสบความสำเร็จตามชาร์ตเพลงได้.. แต่ในช่วงสองปีที่ผ่านมากลับมีอยู่หนึ่งเพลงที่โผล่ขึ้นมาอยู่ในกระแสหลักชนิดที่ว่าถ้าไม่ฮิตตอนนี้แม่งก็ไม่รู้จะไปฮิตเอาตอนไหน for lovers who hesitate ส่งผลให้วงร็อคอินดี้ที่นิยามตัวเองว่าเป็นพวก rock never die JANNABI(ชันนาบี) กลายเป็นกลุ่มศิลปินอินดี้เล็กๆ ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นจนสามารถขึ้นไปถึงอันดับหนึ่งบนชาร์ตเพลง MelOn ทำเอาเพลงกระแสหลักอย่าง Boy with luv ที่ไม่มีวี่แววถึงเพลงไหนจะสามารถดึงพวกเขาลงได้นอกเสียจากไอยู(แซวนะ ฮ่าๆๆๆ)หล่นมาอยู่เป็นอันดับสองร่วมเกือบเดือน อีกทั้งยังขนเพลงเก่าๆกลับมาอยู่ในสมรภูมิชาร์ตขึ้นเป็นดอกเห็ด
มองจากภาพชาร์ตก็ดูเหมือนพวกรุกกี้หน้าใหม่ที่เริ่มต้นได้สวย แต่ความเป็นจริงแล้วแก๊งค์ลิงหนุ่มมีอายุเดบิวท์ใกล้จะเข้าปีที่ 10 แล้วรวมปัจจุบันและถ้าจะให้พูดถึงชีวประวัติวงคงจะเป็นอะไรที่ยาวนานแสนนานเพาะปัจจุบันชันนาบีหลงเหลือสมาชิกอยู่เพียงแค่ 4 หัวลิงเท่านั้นแต่กลายเป็นว่าคนที่แอคทีฟคือหัวหน้าเรืออย่าง ชเว จองฮุน เพียงคนเดียว ส่วนที่สามคนเข้าไปเกณฑ์ทหารรับใช้ชาติตามอายุไขที่ผ่อนผันมาเป็นที่เรียบร้อย
• พูดถึงคอนเซ็ปของวงลิงที่มีต้นแบบจากแนวร็อคโมเดิร์นยุค 70s ผสมผสานกับดลิ่นอายความเป็นงานอินดี้-แฟนตาซี ดูจากผลงานเริ่มต้นได้อย่างอัลบั้มเดบิวท์ MONKEY HOTEL ที่เป็นการ represent คอนเซ็ปตัววงและความบ้าบิ่นสนุกสนานของเหล่าลิงที่พึ่งเปิดตาดูโลกภายนอกเป็นครั้งแรกและ LEGEND ชวนย้อนวัยและเข้าไปถึงแก่นแท้จิตใจในวัยเด็กของตัวเองรวมถึงความสัมพันธ์ของครอบครัว ชันนาบีเลยกลายเป็นวงที่มีเนื้อหากึ่งช่างฝันกึ่งความเป็นจริงในโลกปัจจุบันที่ใครก็ต่างเจอปัญหาเหล่านี้วนอยู่ซ้ำไปซ้ำไป จึงเป็นความไม่แปลกที่เพลงของตัวเองจะฮิตเข้าถึงเหล่าวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี แต่ดังแล้วใช่ว่าจะไม่มีอะไรมาสะกัดดาวรุ่งพวกเขา
ทั้งคดีการกลั่นแกล้งในช่วงมัธยมของยูยองฮยอน(คีย์บอร์ด)ที่ทำให้เขาต้องตัดสินใจออกจากวงเพื่อเป็นการรับผิดชอบต่อความผิดของตนเอง การประกาศแต่งงานของจางคยองจุน(เบส)กับแฟนสาวนอกวงการที่โดนโจมตีจากเหล่าชาวเน็ตปากหมาที่ส่งผลกระทบไปถึงเจ้าสาวจนตัดสินใจพักกิจกรรมกับวง หรือจะเป็นหัวเรือหลักอย่างชเว จองฮุน(นักร้องนำ, ลีดเดอร์)ที่โดนโจมตีหนักหน่วงถึงการถูกยืมชื่อเป็นผู้ถือหุ้นโดยบิดาของตัวเองในคดีฉ้อโกงและก็ได้ออกมายืนยันถึงความบริสุทธิ์ของตัวเองและสุดท้ายศาลได้ตัดสินให้เขาเป็นผู้ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นแต่สิ่งที่ต้องแลกมานั่นคือการโดนสื่อต่างๆแบนไปตามกัน
• พอผ่านพ้นช่วงวิกฤตปัญหาอย่างหนักหน่วงมาร่วมปีกว่าผนวกกับจริงจังการเดินสายทัวร์คอนเสิร์ต(ในช่วงที่ยังไม่เกิดโรคระบาด COVID-19)ก็ได้ส่งผลงานเล็กๆคั่นกลางอย่างอีพีอัลบั้ม JANNABI’s Small Pieces พาร์ทแรกเป็นการเปรียบเสมือนว่าตัวเองนั้นเป็นพื้นที่อันน้อยobfให้คนได้เข้ามาพักพิงอาศัยในยามที่หัวใจหรือความรู้สึกของตัวเองจมดิ่ง แต่เป็นการทำงานเพียงแค่สองคนเท่านั้นคือหัวเรือจองฮุนและโดฮยอน(มือกีต้าร์)ก่อนจะโหมโรงเปิดตัวอัลบั้มชุดที่สามที่ปูทางมายาวนานแสนนานที่ต้องเลื่อนแล้วเลื่อนอีก.. The Land of Fantasy จึงเต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวและดนตรีหนักข้อทางแฟนตาซีแบบอัพเกรดสมชื่อขึ้นให้ทุกอย่างเป็นเหมือนการเล่านิทานของกลุ่มนักผจญภัยที่ไปยันเกาะแห่งจินตนาการในความฝันที่ยังคอนเซ็ปธีมความเป็นงานเรโทร 70s สไตล์ชันนาบีแบบดั้งเดิม
ซึ่งในพาร์ทอินโทรเปิดที่ใช้ชื่อเดียวกันกับอัลบั้มจึงเป็นเหมือนโหมโรงใหญ่ที่ใส่ความแฟนตาซีที่ผสมผสานความเป็น ‘musical’ ที่เป็นความตั้งใจของวงในครั้งใหม่อย่างสุดโต่ง เตรียมตัวพร้อมออกเดินทางไปยันเกาะแห่งความฝันและโลกจินตนาการ เป็นการปูพื้นเรื่องงานดนตรีที่สัมผัสได้แน่นอนว่า ชันนาบีมาคราวนี้ไม่ธรรมดาชัวร์ป๊าบ!
• Oh Brave Morning Sun จึงเป็นความพร้อมต่อการก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยงานดนตรีที่เบาสบายกับเสียงนกในยามเช้าอันสดใส เหมือนเป็นภาพสะท้อนถึงเรื่องราวการที่ต้องจมปลักอยู่คนเดียวจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาซึ่งเป็นผลกระทบจากการเป็นคนมีชื่อเสียง, A Ballad of Non Le Joh ที่หยิบคำพูดยอดฮิตของ John Lonnon มาเป็นการคารวะแด่วงร็อค The Beatles เพื่อเป็นการตอกย้ำว่าตัวเองและเพื่อนที่เหลือพร้อมจะก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดแห่งวงการเพลง งานดนตรีดูเป็นความสนุกสนานแต่กลับกลายเป็นเรื่องอันน่าเศร้าที่ตอนนี้เขาอยู่เพียงลำพังในห้องใต้ดิน เรียกได้ว่าเป็นเพลงสรรเสริญ(ไม่ใช่พระบารมี)แด่ตำนานเลยก็ว่าได้, Confession Show เลยเป็นแทร็คที่จองฮุนสารภาพความในใจที่กำลังต่อสู่กับความเหงาของตนเอง
Farewell to Arms! + Hymn for the Cradle เป็นการขอพรภาวนาให้เพื่อนๆของตัวเองพบเจอแต่กับความสุข ถึงจะต้องแลกกับความยากลำบากของตนเองก็ตาม ในช่วงแทร็คลิสต์ 3 ลำดับพาร์ทแรกเลยสื่อให้เห็นว่าจองฮุนนั้นพยายามทำทุกอย่างทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองหลุดจากสภาวะแห่งความสิ้งหวังจากเรื่องราวที่ร้ายๆ
• The King of Romance บรรยายถึงฉากรักจากหนัง hollywood เหมือนกับว่าตัวเขานั้นได้ไปเดทจริงๆ เหมือนเป็นการอ้างอิงถึงช่วงที่ชื่อเสียงของวงกำลังเป็นที่โด่งดังมากขึ้น พาร์ท outro ของเพลงซาวนด์จึงเล่น shuffle กลับตาลปัตรเหมือนกำลังจะเกิดเรื่องกลหนบางอย่างขึ้น, Clay Pigeon Boy ซาวนด์กลิ่นอาย psychedelic ออกแนวลึกลับ จึงเป็นสื่อที่ออกมาอย่างชัดเจนทันที ตอนนี้เขาได้ตกลงมาอยู่บนพื้นดินที่เป็นเสมือนความโชคร้ายของการเป็นคนมีชื่อเสียงเหมือนกับนกพิราบที่กำลังบินขึ้นฟ้าที่สูงขึ้นแต่กลับถูกยิงลงมา เห็นภาพได้ชัดเจนจากทริลเลอร์เปิดตัวอัลบั้มที่หยิบเอาเนื้อหามาเล่นกันตรงๆ, Time ซาวนด์ sorrow power-ballad เลยเป็นการทบทวนกับตัวเองว่าสรุปเวลาที่ผ่านมาทั้งหมดของเขานั้นทำไปเพื่อใครกันแน่?
• เพื่อเป็นการตามหาคำตอบให้กับตัวเอง I Know Where The Rainbow has Fallen เป็นจุดไคลแม็กซ์ของอัลบั้มที่โดดเด่นออกมาอย่างชัดเจน จองฮุนได้พบคำตอบที่เป็นการปลอบใจตัวเองถึงสิ่งที่กำลังเผชิญและเปรียบเสมือนสายรุ้งเป็นความหวังที่จะทำให้เขากลับมาสดใสและเข้มแข็งได้อีกครั้ง, Bluebird, Spread your wings! พร้อมเป็นนกที่จะสยายปีกบินไปกับความเชื่อมั่นของตัวเองอีกครั้ง, Come Back Home แทร็คปิดท้ายของละครเวทีที่จองฮุนแต่งไว้เมื่อตอนอายุ 15 ปีและเป็นการตระหนักว่าชันนาบีจะยังด้วยกัน 5 คนตลอดไป
• เทียบกับงานอัลบั้มชุดที่แล้ว ชันนาบีเลือกที่จะให้เนื้อหาในอัลบั้มชุดนี้อยู่กับปัจจุบันมากที่สุด ต่อให้เขาเป็นผู้ใหญ่ในวัยเลขสามแล้วแต่เขาก็ยังมีความปราถนาไม่ต่างอะไรกับเด็กทั่วไปเพียงแต่เรื่องราวที่ผ่านมาของเขากลับสร้างบาดแผลในใจมาโดยตลอด การสร้างโลกแห่งจินตนาการพ่วงด้วยความฝันวัยเด็กของตัวเองที่เป็นการย้ำครั้งสุดท้ายถึงการผจญภัยในโลกที่อยากให้คนฟังได้เดินทางเข้ามาที่เกาะที่แห่งโลกจินตนาการเพื่อเป็นการสำรวจและเข้าใจถึงความเจ็บปวดและการเผชิญกับปัญหาที่ถาโถมเข้ามาจนเกิดความหมดหวังที่จะทำตามความฝันของตัวเองต่อไป.. วิธีการเล่าเรื่องผ่านภาคดนตรีของชันนาบีในอัลบั้มนี้เลยเปลี่ยนสไตล์จากไอ้หนุ่มอินดี้เดินป่าเดินดินกลายเป็นการแสดงละครเวทีเล่นใหญ่รัชดาลัยสุดโต่ง
• ในแทร็ค Goodbye Dreamin’ Old Stars interlude ก่อนส่งท้ายปิดละครเวทีจองฮุนได้ทิ้ง massage เป็นนัยๆว่าเขาสามารถเอาตัวเองออกจากความฝันในวัยเด็กได้แล้ว มันก็เป็นการสรุปถึงเรื่องราวที่ผ่านมาของพ่อหนุ่มที่ยังคงยึดติดกับความเป็นเด็กวัยรุ่นก๋ากั่น ไม่เข้าใจโลกของความเป็นผู้ใหญ่(หรืออีกความหมายก็ ผู้ใหญ่ไม่รู้จักโตสักที) เพราะสิ่งที่เขาต้องเผชิญมาตลอดเกือบสองปีทำให้เขาได้เข้าใจถึงชีวิตและให้คำตอบกับตัวเองได้ว่า “ต่อให้วันนี้เขายังเป็นเด็กอยู่แต่วันถัดไปเขาก็จะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่เติบโตทั้งร่างกายและความคิด” เป็นการเตือนสติตัวเองว่ายังไงซะโลกแห่งจินตนาการก็คือโลกแห่งจินตนการอยู่ดี
“เพราะโลกแห่งความเป็นจริงต่างหากคือสิ่งที่ต้องเผชิญกับมันต่อไป”
Score: 9/10
Top Tracks: Oh Brave Morning Sun, A Ballad of Non Le Joh, Confession Show, The King of Romance, FAREWELL TO ARMS! + hymn for the candle, Clay Pigeon Boy, I Know Where The Rainbow has Fallen, Bluebird, Spread your wings!
Recommend Tracks: Time, Come Back Home
thank u for reading 🙏
ถ้ามีคำหรือประโยคไหนที่ใส่มาเพื่อความอรรถรสแล้วไม่ถูกใจผู้อ่านทุกท่านขออภัย ณ ที่นี้ด้วย
โฆษณา