10 ก.ย. 2021 เวลา 11:00 • กีฬา
#ChangsuekExclusiveTalk เปิดใจ "กีเดี้ยน" ช้างศึกเลือดใหม่ ติดทีมชาติไทยครั้งแรกในชีวิต
กีเดี้ยนชุกุมาร์ เอ็นดูบูบา กองกลางลูกครึ่งไทย-ไนจีเรีย จากสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เปิดใจครั้งแรกถึงการก้าวขึ้นมาติดทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในการเตรียมทีมเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก ที่ประเทศมองโกเลีย ระหว่างวันที่ 25-31 ตุลาคม 2564
มิดฟิลด์วัย 20 ปี กลายเป็นที่พูดถึงของแฟนบอลช้างศึกทันที หลังถูก "โค้ชโย่ง" วรวุธ ศรีมะฆะ เรียกตัวติดทีมชาติไทย U23 ในการเข้าแคมป์เก็บตัวรอบแรก เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก ที่ประเทศมองโกเลีย ในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้
กีเดี้ยนที่มีคุณพ่อเป็นชาวไนจีเรีย คุณแม่เป็นคนไทย ได้รับโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตทั้งการมีชื่อขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ในศึกไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก 2021 รวมถึงการติดธงช้างศึกครั้งแรกในชีวิต เขาเป็นใครมาจากไหน? เส้นทางลูกหนังก่อนติดทีมชาติไทยเป็นอย่างไร? ร่วมติดตามไปพร้อม ๆ กับช้างศึก
#ทักทายแฟนช้างศึก
สวัสดีครับผมชื่อ กีเดี้ยนชุกุมาร์ เอ็นดูบูบา ชื่อเล่นว่า "กีเดี้ยน" มาจากสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เล่นฟุตบอลในตำแหน่งกองกลางตัวรับครับ อายุ 20 ปีพอดี เพิ่งเคยติดทีมชาติไทยครั้งแรกครับ
#จุดเริ่มต้นเส้นทางลูกหนัง
ตอนผมอายุ 16 ปี หรือว่าตอนเรียนอยู่มัธยมศักษาปีที่ 4 ผมย้ายไปเรียนที่โรงเรียนกีฬาจังหวัดยโสธร ซึ่งผมเล่นฟุตบอลที่นั่นเป็นทีมแรก เมื่อผมจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผมย้ายไปอยู่กับทีมศรีสะเกษ ยูไนเต็ด จนกระทั่งได้รับโอกาสขึ้นไปเล่นกับศรีสะเกษ เอฟซี แม้ว่าจะไม่ได้ลงเล่นเลย แต่มีโอกาสซ้อมร่วมกับทีม จากนั้นผมจึงหาความท้าทายใหม่ให้ตัวเอง…
#สวาทแคทเปลี่ยนชีวิต
ช่วงปรีซีซั่น 2021 หรือไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผมตัดสินใจเดินทางไปคัดตัวกับทีมนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี จุดเปลี่ยนนี้เกิดขึ้นจากโอกาสครั้งสำคัญของ "โค้ชโจ" ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น ที่มอบให้
ผมคัดตัวติดทีมโคราช จากนั้นได้ลงซ้อมกับทีม U21 และชุดใหญ่ที่มีนักเตะดัง ๆ ผมซ้อมแบบนี้ทุกวัน ซ้อมพร้อมกันทั้งสองชุด ถือว่าเป็นงานที่หนักมาก แต่ผมต้องอดทนเพื่อความสำเร็จ
ที่โคราชผมซ้อมรูปแบบนี้อยู่ประมาณเดือนกว่าโดย "โค้ชท็อป" ไกรเกียรติ เบียดตะคุ (โค้ชนครราชสีมา มาสด้าฯ U21) พอรู้ว่าผมมีชื่ออยู่ในทีมชุดใหญ่ลงเล่นในศึกไทยลีกฤดูกาลนี้ โค้ชโจให้คำแนะนำผมดีมาก ๆ เขาเข้ามาคุยกับผมเพื่อคลายความเกร็ง เพราะผมเป็นนักเตะอายุน้อยสุดในทีม โค้ชโจบอกว่าให้ผมมีความกระหายในการลงเล่น ไม่ต้องเกรงกลัวใครทั้งนั้น
ไม่เพียงแต่โค้ชโจเท่านั้น รุ่นพี่ในทีมหลายคนก็เข้ามาให้กำลังใจผม เช่น พี่ดวง (นฤพล อารมณ์สวะ) อดีตกองกลางทีมชาติไทย เขาให้คำแนะนำต่าง ๆ รวมถึงเชื่อมั่นในตัวผม เชื่อว่าผมมีศักยภาพอยู่แล้ว
จุดเด่นของผมที่โค้ชโจเล็งเห็นคิดว่าเป็นการยืนตำแหน่งมิดฟิลด์และการครอสบอล ซึ่งที่ผ่านมาผมมีโอกาสลงอุ่นเครื่องกับทีมระดับไทยลีก 2 และไทยลีก 3
#ก้าวแรกสู่ทีมชาติไทยครั้งแรกในชีวิต
แรกเริ่มเลยเกิดจากโค้ชประสิทธิ์ เทาดี เป็นคนส่งโปรไฟล์ของผมไปให้กับ "โค้ชหระ" อิสระ ศรีทะโร ดู ซึ่งตอนนั้นเป็นรักษาการกุนซือทีมชาติไทย U23 โปรไฟล์นั้นมีทั้งคลิปวิดีโอการเล่นของผม วิดีโอการฝึกซ้อมต่าง ๆ นั่นน่าจะเป็นที่มาของการติดทีมชาติไทยครั้งแรกของผม
ทันทีที่ผมรู้ข่าวดี ผมรู้สึกดีใจมาก ๆ มันไม่มีคำบรรยายใด ๆ กับการติดทีมชาติไทยครั้งแรกในชีวิต ครอบครัวของผมดีใจมาก ๆ ที่ผมทำได้
หลังจากรู้ตัวว่าติดทีมชาติ โค้ชโจเรียกผมไปติวเข้มเป็นพิเศษหลังการฝึกซ้อมกับนครราชสีมา เขาพยายามทำทุกอย่างให้ผมเป็นนักฟุตบอลที่ดี แก้ไขจุดบกพร่อง ก่อนเดินทางเข้าแคมป์กับทีม
โค้ชโจสอนผมเยอะมากทั้งในและนอกสนาม บางครั้งยังให้ข้อคิดดี ๆ กับผม โค้ชโจบอกว่า "การติดทีมชาติสมัยก่อนกับสมัยนี้มันแตกต่างกัน เพราะโลกโซเชียลมันไว กว่าจะติดทีมชาติแต่ก่อนยากมาก เพราะต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ แต่สมัยนี้ติดทีมชาติได้ง่ายกว่าเดิม ฉะนั้นเราต้องตระหนักและประพฤติตัวให้ดีอยู่เสมอว่าเราเป็นนักฟุตบอล"
#พรหมลิขิตโค้ชโย่ง
ก่อนหน้านี้ผมเคยซ้อมกับโค้ชโย่งมาก่อน ตอนที่โค้ชรับงานคุมทีมศรีสะเกษ เอฟซี เมื่อฤดูกาลก่อน ผมพอจะรู้และศึกษาวิธีการเล่นของโค้ชอยู่เสมอ แต่เมื่อเข้ามาอยู่ในแคมป์ทีมชาติ บรรยากาศมันแตกต่างกันมาก ผมต้องปรับตัวอยู่เสมอ ที่นี่ซ้อมอย่างเข้มข้น ตอนนั้นผมมีชื่อเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของศรีสะเกษ เอฟซี บางนัดมีชื่อเดินทางไปแข่งกับทีม แต่ยังไม่มีโอกาสลงเล่น
ตอนพบกับโค้ชโย่งในแคมป์ทีมชาติ โค้ชโย่งเข้ามาถามผมว่า "เอ็งมาอยู่กับโคราชได้อย่างไร?" ผมตอบโค้ชว่าผมพยายามหาทางมาคัดตัวเพื่อโอกาสของตัวเอง จนได้มาอยู่กับโคราช ผมคิดว่าผมใช้ความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่
#เป้าหมายมีไว้พุ่งชน
เป้าหมายของผมคือการมีชื่อไปเล่นในศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก ที่ประเทศมองโกเลีย และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากโค้ช เพื่อนร่วมทีมให้ได้มากที่สุด ผมจะพยายามปรับปรุงและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพราะผมไม่เคยผ่านการติดทีมชาติชุดเยาวชนมาก่อนเลย
#ฝากตัวกับแฟนช้างศึก
ผมสัญญากับตัวเองและแฟนบอล โดยเฉพาะแฟนบอลนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ว่าผมจะสู้อย่างเต็มที่ ฝากแฟนฟุตบอลชาวไทยช่วยส่งกำลังใจให้พวกเราด้วยนะครับ ถ้าผมมีโอกาสจะทำให้เต็มที่ ทั้งทีมรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี และทีมชาติไทยชุดใหญ่
โฆษณา