Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Suchada Nimnuan
•
ติดตาม
9 ก.ย. 2021 เวลา 13:47 • การเมือง
ปลด ‘’ ธรรมนัส - นฤมล ‘’ สะเทือนรัฐบาลลุงตู่
จะเรียกว่าเป็น ‘’อาฟเตอร์ช็อค’’ หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่แรงสั่นสะเทือนระดับ 10 กับคำสั่งปลดฟ้าผ่า 2 รัฐมนตรีพ้นจากต่ำแหน่ง นั่นก็คือ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร และ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยิ่งตอกย้ำรอยร้าวรุนแรงถึงขั้นนายกฯยอมแตกหัก
งานนี้โนสน โนแคร์ ใครหน้าไหน แม้กระทั่ง ‘’บิ๊กป้อม’’ พี่ใหญ่บูรพาพยักฆ์ ผู้เป็นกาวใจประสานรอยร้าวเปิดบ้านมูลนิธิป่ารอยต่อให้จับเข่าคุยกัน ฉากหน้าที่หลายคนคิดว่าคลื่นใต้น้ำลูกนี้น่าจะสงบลงแล้ว สุดท้ายเกมพลิกเอาไม่อยู่ เพราะนายกฯพูดชัดมากว่า ปลดสหายผู้กองพ้นจากต่ำแหน่งเอง ก็เพราะเจ้าตัวพูดเองว่า เป็นแค่ ส.ส. ก็ช่วยประชาชนได้ พร้อมยืนยันมีคนช่วยงานอยู่แล้ว
1
งานนี้ทั้งนักวิชาการและสื่อสายการเมืองวิเคราะห์ว่า ไม่เหนือความคาดหมาย เสือสองตัวจะอยู่ถ้ำเดียวกันได้อย่างไร มีหรือที่ระดับผู้กองจะมีบารมีเหนือชั้นนายพล ยิ่งเป็นนายพลระดับบิ๊กอย่างแก๊ง 3 ป. เสียด้วย
นับจากนี้คอการเมืองห้ามกระพริบตา! การจากไปของ ‘’ผู้กองนัส’’ น่าจะไม่ใช่การจากไปแบบเงียบๆแน่ๆ จังหวะก้าวทางการเมืองจากนี้ ว่ากันว่าเริ่มมีสัญญาณรุนแรงถึงขั้นอาจมีการยุบสภาเกิดขึ้น
เท่าที่ฟังความเห็น ดร.ยุทธพร อิสรชัย นักวิชาการการเมืองจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช วิเคราะห์ในรายการ ‘’Suthichai live ‘’ บอกว่า เป็นไปได้สูงที่ ร.อ.ธรรมนัส จะออกไปตั้งพรรคใหม่มากกว่าที่จะกลับไปซบอกพรรคเพื่อไทยบ้านหลังเก่า เพราะเวลานี้พรรคเพื่อไทยกำลังอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างพรรค ประกอบกับหลายก๊วนในเพื่อไทยก็ยังมีความระหองระแหงไม่ค่อยลงรอยกัน เห็นได้จากการแตกรังของ ส.ส.บางคนแปรพรรคไปอยู่ขั้วรัฐบาล หรือแยกออกไปตั้งพรรคใหม่
4
ส่วนคอนเนคชั่นเดิมของ ร.อ.ธรรมนัส สมัยที่เคยอยู่เพื่อไทยก็มีความสนิทสนมกับกลุ่มของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์มากกว่า ซึ่งเวลานี้ไม่ค่อยจะมีบทบาททางการเมืองเด่นชัดมากนักในพรรค ส.ส.ในกลุ่มก๊วนเดียวกันในพื้นที่ภาคเหนือก็จะเห็นว่าไม่ค่อยโดนเด่นมาก ช่วงการเลือกตั้งปี 62 สอบตกไปก็หลายคน เชื่อว่า ร.อ.ธรรมนัส อาจจะหยั่งเชิงดูก่อนไม่น่าจะกลับไปเข้าขั้วกับฝั่งเพื่อไทยในเวลานี้
4
แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า การที่นายกฯปรับ ร.อ.ธรรมนัส ออกจาก ครม. เท่ากับว่ารัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ สูญเสียบุคคลสำคัญที่เป็นระดับคีย์แมนทางการเมือง ร.อ.ธรรมนัส มีต่ำแหน่งเป็นถึงเลขาพรรคพลังประชารัฐและยังเป็นมือประสานสิบทิศที่มีคอนเทคชั่นกับหลายกลุ่มโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายค้าน ทำให้เขามีแต้มต่อทางการเมืองในการดีล ส.ส. เข้ามาอยู่ในก๊วนของตัวเองจนสร้างเครือข่ายทางการเมืองที่แข็งแรง ย้อนไปในอดีตคงจะพอจำกันได้การเมืองยุคของคุณเสนาะ เทียนทอง หรือ ‘’เสธ หนั่น’’ ถ้าอยู่พรรคไหน พรรคนั้นมักจะได้เป็นรัฐบาลเสมอ เพราะมีคอนเนคชั่นทางการเมืองแทบทุกขั้ว คนที่เป็นเลขาของพรรคที่ได้เป็นรัฐบาลจึงเรียกว่าเป็นมือไม้สำคัญที่จะประคับประคองให้รัฐบาลเดินไปรอดได้
1
ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง 3 ป. หลังคำสั่งปลดฟ้าผ่าก็ถูกจับจ้องมากขึ้นตามไปด้วย อาจารย์ยุทธพร มองว่า ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นแตกหัก แต่เป็นเพียงแค่ความเห็นไม่ลงรอยกันบ้างในการทำงานก็เท่านั้น โดยเฉพาะพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า บิ๊กป้อม มีความสนิทสนมและคอยสนับสนุนการทำงานของร.อ.ธรรมนัส มาโดยตลอด เพียงแต่นายกฯอาจจะเห็นต่างบ้างก็เท่านั้น
1
รวมไปถึงต่ำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทย ที่มีกระแสข่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส อยากได้เก้าอี้ตัวนี้มาก แต่อย่าลืมว่าเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยนั้น บิ๊กป๊อก พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา กอดเก้าอี้เหนียวแน่นมาตลอดเกือบ 7 ปี ไม่เคยมีการปรับครม.หรือใครเข้ามาแทนที่ โอกาสเปลี่ยนแปลงยากมาก เพราะกระทรวงมหาดไทยมีบทบาทสำคัญในการทำหน้าที่เตรียมการจัดการเลือกตั้งในอนาคต ทั้งการเลือกตั้งระดับชาติแต่ระดับท้องถิ่น แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ 3 ป. เกิดความระหองระแหงกันจริงๆ ก็จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลแน่นอน ซึ่งน่าจะไม่เกิดขึ้นง่ายๆ
ถ้าถามว่าจังหวะก้าวทางการเมืองนับจากนี้จะไปทางไหนต่อ โอกาสในการยุบสภาเร็ววันนี้เป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ดร.ยุทธพร ระบุว่า ให้รอดูการโหวตรธน.วาระ 3 ในวันพรุ่งนี้ จะเริ่มเห็นสัญญาณชัดเจนขึ้น ถ้ารธน.ไม่ผ่าน การยุบสภาอาจจะชะลอไปก่อน แต่ถ้าผ่านก็มีความเป็นไปได้ที่นายกฯจะประกาศยุบสภา เพราะดูจากสถานการณ์เวลานี้ไม่ได้เอื้อให้รัฐบาลไปต่อเลย ทั้งเรื่องการจัดการโควิด 19 ถูกมองว่าบริหารจัดการล้มเหลว ไหนจะผลกระทบทางเศรษฐกิจ
นับว่าเป็นอีกปัจจัยท้าทายรัฐบาลอย่างมากในเวลานี้ รวมไปถึงท่าทีของพรรคร่วมอย่างภูมิใจไทย พรรคเล็กๆ และ ส.ว.ที่เริ่มเสียงแตก ไม่เอาด้วยกับการแก้ไขในประเด็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แต่เสียงสำคัญที่จะเป็นตัวชี้ขาดว่า ร่างรธน.จะถูกโหวตคว่ำหรือไม่ คือ เสียง ส.ว. 250 เสียง ต้องรอดูว่า ส.ว.จะเอาด้วยหรือไม่ แต่เชื่อว่าส.ว. 250 อาจจะไม่ยกมือโหวตทั้งหมดหรืออาจมีคนงดออกเสียง โอกาสที่รธน.ผ่านไม่ผ่านมี 50 : 50
ร.อ.ธรรมนัส - ดร.นฤมล
ภาพ : BBC Thai
1 บันทึก
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย