2 ต.ค. 2021 เวลา 08:29 • นิยาย เรื่องสั้น
เมืองกรุง​1
สมัยเมื่อปี 31ผมได้ย้ายเข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ โดยการจัดการของพี่สาว ที่วางแผนการเรียนไว้ให้ผมตั้งแต่ปีที่แล้ว
คือ จบป.6 ปุบก็ต้องย้ายมาเลย แต่ติดขัดหลายอย่างเลยไม่ได้ย้าาย มาได้ย้ายช่วงขึ้น ม.2 แล้ว
โรงเรียนที่ดูไว้ มีสอง สามที่ เอาใกล้บ้านไว้ก่อน แต่พอผมได้ไปเรียนที่ แรก ผมเจอปัญหาการปรับตัวเข้ากับเพื่อนเรียนไม่ได้เลย
ไปวันแรกครูพาไปที่ห้องเรียน เจอเพื่อนร่วมชั้นเรียน ชวนผมสูบบุหรี่เลยทันที พร้อมควักมาจุดดูดโชว์หลังห้อง แล้วคนที่ชวนนี่เป็นผู้หญิงเสียด้วย (อายุประมาณ 13-14 เองนะครับ )รวมกลุ่มกันห้าหกคน ไม่ยอมลงมาเข้าแถว เคารพธงชาติ
เวลาเรียนก็ไม่สนใจเรียนกัน จับกลุ่มคุย จนคุณครูทั้งดุ ทั้งปลอบ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเลยเป็นแบบนี้เกือบทุกวิชา (ห้องที่ผมเรียน เป็นห้องรวมเด็กเกเร เพราะเราย้ายมาใหม่ครูจับมาลงที่ห้องนี้เลย)
ผมกลับมาเล่าให้ที่บ้านฟังว่าเจออะไรบ้าง ทั้งสามวันที่ไปเรียน ด้วยความที่เรามาจากบ้านนอกเจออะไรแบบนี้สามวันติดเราก็ไม่อยากไปเรียน
จนพี่ได้ติดต่อไปอีกโรงเรียนหนึ่ง ที่เป็นโรงเรียนเอกชน เข้าไปคุยกับทางครูใหญ่ ท่านเห็นว่าตั้งใจจะมาเรียนบวกกับเกรดเฉลี่ยพอจะไปได้เลยรับไว้
แต่ก็ยังแสดงความเป็นห่วง กลัวจะเรียนไม่ทันเพื่อน เพราะทางโรงเรียน ได้เปิดเรียนไปก่อนแล้วเป็นอาทิตย์
ที่โรงเรียนใหม่นี้ ผมต้องปรับตัวมากกว่าเดิม เพราะวิธีการเรียน การสอนค่อนข้างจะแตกต่างกับที่ผมเคยเรียนมา (ก็แน่ละเพราะเรามาจาก ตจว.)
โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ที่บ้านนอกเราจะเริ่มเรียนกันตอนขึ้น ป.5ไปแล้ว ถึงจะสตาร์ท ABC...
1
แต่ที่กรุงเทพฯ เพื่อนร่วมชั้นเรียนผม เรียนกันมาตั้งแต่ อนุบาลแล้ว ดังนั้น ภาษาอังกฤษเราจะตามหลังเพื่อนหลายก้าวเลย
แต่ก็ยังโชคดีอยู่บ้าง ที่ช่วงปิดเทอม เกือบทุกครั้งผมได้มีโอกาสมากรุงเทพฯอยู่เรื่อย แล้วได้รับการสอน แนะนำ ภาษาอังกฤษจากพี่อยู่บ่อย บวกกับเราที่พอจะรับรู้ได้เร็วเลยไม่ค่อยกลัวที่จะไม่ทันเพื่อนๆ
1
ที่โรงเรียน จะมีการสอนเพิ่มเติมหลังเรียนปกติเสร็จในตอนเย็น แล้วก็มีการจดวิชาาเรียนเพิ่ม เพื่อเอากลับไปท่อง แล้วจดแยกกับสมุดอีกเล่ม ที่เขียนโจทย์ไว้ เว้นคำตอบ เพื่อเอามาท่องต่อหน้าคุณครู ในตอนพักเที่ยง ของวันถัดไป
ซึ่งถ้าท่องผิดข้อไหน ก็ต้องท่องใหม่จนกว่าจะถูก ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ สำนวนไทย วิทยาศาสตร์ ครบทุกวิชา มากบ้างน้อยบ้าง ต่างกันตามรายวิชา
1
เวบลาพักเที่ยงแค่หนึ่งชั่วโมง ต้องรีบกินข้าว เพราะเดี๋ยวท่องงานไม่ทัน เพราะท่องเสร็จ ผ่านแล้ว ต้องเขียนคำตอบที่เว้นไว้ แล้วส่งให้ครูตรวจอีกที (เยอะไหมละ)
1
เพราะฉะนั้น เราจะเรียนกันค่อนข้างหนัก เพราะวิชาเรียนธรรมดา ก็เต็มเหนี่ยวแล้ว การบ้านก็เพียบ ยังต้องมีการเรียนเพิ่มเติม บวกกับงานท่อง ที่ต้องแยกกระเป๋าสะพายไปอีกใบเลยทีเดียว
1
ที่นี่ยังมีการจัดสอบย่อย สองครั้ง สลับกับสอบใหญ่อีกสองครั้งในหนึ่งเทอม เท่ากับว่าสอบสี่ครั้งต่อเทอม มีการเก็บค่ากระดาษสอบด้วย ( พึ่งเคยเจอเลย )
สอบเสร็จครูประจำชั้นจะรวมคะแนนแล้วจัดอันดับว่าสอบได้ที่เท่าไรในแต่ละครั้ง เพื่อให้เด็กได้รู้และเตรียมตัวสอบซ่อมสำหรับคนที่สอบไม่ผ่านในแต่ละวิชาด้วย
ครั้งแรกผลสอบออกมา สำหรับผม ได้ที่สิบสอง ถือว่าไม่เลว กับเด็กต่างจังหวัดที่มาเรียนช้ากว่าเพื่อนร่วมห้อง
1
พอจบม.2 มีการปรับเด็กที่เรียนดี ให้มาเรียนร่วมกันใน ม.3 ผมติดอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย พวกที่มีผลการเรียนรองลงไปก็ไปอยู่ห้องสอง ส่วนที่เหลือไปกองรวมกันห้องสาม(ทั้งหมดถูกคัดมาจากสามห้อง ห้องละประมาณ 45 คน)
พอขึ้นชั้นม.3 คราวนี้เรียนหนักกว่าเดิมอีก เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังตอนหน้านะครับ มีอะไรสนุกๆมันส์ๆด้วย
1
โรงเรียนระดับประถมตามต่างจังหวัดเมื่อ30กว่าปีก่อน
#เด็กบ้านนอก
โฆษณา