Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เด็กบ้านนอก
•
ติดตาม
16 ต.ค. 2021 เวลา 08:07 • นิยาย เรื่องสั้น
เมืองกรุง 2
หลังจากที่ผ่าน ม.2 มา ผมได้ย้ายมาเรียนห้องหนึ่งกับ เพื่อนที่ย้ายมาจากห้องอื่นๆที่เรียนดี (ห้องเด็กเรียนว่างั้นเหอะ)
คราวนี้การเรียนเพิ่มความเข้มข้น หนักหนาสาหัสกว่าเดิมเยอะเลย ยังไงอะเหรอ...
ทุกเช้าผมจะต้องตื่นประมาณตีสี่ครึ่ง เพื่อมาทวนวิชาท่องงาน ที่เพิ่มมากกว่าช่วงเรียน ม.2 อีกเยอะ
ผมต้องมาถึงโรงเรียนประมาณ ตีห้าครึ่ง เพื่อมาท่องงานกับครูใหญ่ โดยมีเพื่อนๆ อีก 7คน รวมผมด้วยเป็นแปด ที่ได้รับการเลือกจากครูใหญ่ ให้เป็นตัวแทนท่าน ที่จะต้องรับฟังเพื่อนที่เหลือ มาท่องงานกับเรา( แปดอรหันต์ )
พวกเราแปดคนเลยต้องมาให้เร็วกว่าเพื่อนคนอื่นๆ แล้วรีบท่อง รีบเขียน ให้เสร็จ แช้วนั่งรับฟังเพื่อนที่มาต่อแถวท่องงานกับเรา
ท่องผิด เขียนผิด จะโดนปรับ คำละ ห้าบาท (จะมีกระปุกออมสินวางไว้ข้างๆานั่งครูใหญ่)
ท่องเรียงตัว แถวเรียงหนึ่ง ใครที่ต้องตกไปท่องหน้าครูใหญ่ก็จะหนักหน่อย เพราะท่านจะนั่งจี้ากคำที่ ตรวจดูต้นฉบับาต้องส่งให้ท่านอ่านด้วย
เพราะฉะนั้นหลายคนโดยเฉพาะพวกเด็กาเกเร แก่นเซี้ยว ก็มักจะมาต่อแถวหน้าผม เพราะหวังว่าให้ผมช่วย ตอนที่ท่องผิด ปล่อยผ่านบ้างอะไรประมาณนั้น
ซึ่งผมก็อดไม่ได้ าจะต้องปล่อยผ่านไปบ้าง ไม่งั้นเพื่อนๆจะต้องโดนปรับเงินเยอะแน่ บางคนได้เงินไปโรงเรียนสามสิบ สี่สิบบาท แค่นั้นเอง ซึ่งก็ถือว่าเยอะแล้วในช่วงนั้นสำหรับเด็ก ม.3
มีบางคนท่องผิดโดนปรับจนต้องหาวิธีมาช่วย ทั้งเรื่องการจด คำตอบเกินมากับคำถาม แล้วขีดเส้นเลยออกไปสำหรับคำตอบ หรือฉีกแบงค์ยี่สิบ แบ่งย่อย หยอดกระปุกออมสิน บางคน ก็เอาใบไม้หยอดกระปุกก็มี
ที่รู้เพราะมีวันหนึ่งกรูปุกมันเต็มแล้วครูใหญแกต้องทุบกระปุกจะนับเงิน แล้วเจออะไรต่างๆอยู่ในกระปุก แกรีบเป่านกหวีด เรียกพวกแปดเทพเข้าไปหาด่วน แล้วโดนอบรมชุดใหญ่ แถมไม้เรียวให้อีกคนละสามที
หลังจากท่องงานเสร็จ เราก็แยกย้ายกันเข้าเรียนตามปกติ พอพักเที่ยง ที่คนต้องรีบกินข้าว เพื่อจะต้องมารวมกันมนห้องเรียนใหญ่(ห้องเรียนรวมใช้ห้องประชุม)
บนกระดานดำมีงานท่อง สองกระดานใหญ่ ที่ต้องจดให้ทัน เพื่อที่ตกเย็นจะต้องส่งให้ครูประจำชั้นตรวจว่า จดเรียบร้อยแล้ว( ไม่งั้นมีโดน )
หลังจากจดงานเสร็จก็เข้าเรียนในคาบบ่าย พอเรียนเสร็จ ก็ต้องลงมารวมกันที่ห้องเรียนใหญ่ เพื่อเรียนพิเศษ โดยเน้น ภาษาอังกฤษกับคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ กว่าจะเลิกบางวันหกโมงถึงหกโมงครึ่ง
กลับถึงบ้าน ผมต้องทำงานบ้านช่วยที่บ้าน และยังต้องสอนการบ้านหลานอีกด้วย กว่าจะเสร็จได้นั่งทำการบ้านต้วเองก็เกือบสี่ทุ่ม
การบ้านประจำของคาบเรียนปกติ บางวัน สามถึงสี่วิชา เป็นวิชาหลักๆ แค่นี้ก็เยอะแล้ว ต้องทำถึงเกือบเที่ยงคืน ต่อด้วยงานท่อง อีกสี่เล่ม คณิตฯ อังกฤษ วิทย์ สังคมบวกภาษาไทย
ก็จะเสร็จเกือบตีสอง โดยทำไปด้วยท่องจำไปด้วย แล้วค่อยตื่นมาทวนตอนเช้า
ใช้ชีวิตกับการเรียนห้าวันแบบนี้ ยังไม่พอ วันเสาร์ ยังต้องไปเรียนเพิ่มอีก เป็นวิชาที่ครูใหญ่ท่านส่ง ลูกของท่านมาเป็นคนสอนเพิ่มอีก ตั้งแต่เช้า จนเย็น มีวันหยุดแค่หนึ่งวันสำหรับเด็ก ม.3 อย่างพวกเรา
ทุกวันเสาร์ที่เรียน ในห้องประชุม ครูใหญ่ท่านจะยืนสอนอยู่ด้านบน ใครนั่งหลับ จะถูกเรียกให้ตื่น ด้วยไม้เรียว ที่ถูกสั่งให้พวกเราทำมาคนละหนึ่งอัน
เรียกว่าไม้ชี้ เรขาคณิต แต่จริงๆแล้วเอาไว้ตีพวกเรานั่นแหละครับ วันปกติ ถ้าต้องถูกลงโทษ ครูใหญ่ตีไม่ไหว ก็จะเรียกให้ครูฝ่ายปกครอง หรือครูที่สอน พละ มาตีแทน
ที่ก้นบ้าง น่องบ้าง บางคนเอาผเายัดาก้น ครูรู้ทันก็น่องลายไป ช่วงนั้นพวกเราจะมียาหม่องพกติดตัวเอาไว้ทาขาที่โดนตี และยังเอาไว้ป้ายตาไม่ให้หลับ เวลาเรียน พิเศษอีกด้วย
อย่างน้อยต้องสามครั้ง ครึ่งโหล หนึ่งโหล แกจะสั่งแบบนี้ทุกที ถ้าวันเสาร์ที่มาเรียนแล้วต้องลงโทษ นักเรียนชายจะถูกสั่งให้ขึ้นไปบนเวที
บนเวที่มีโต๊ะเตี้ย กว้าง อยู่หนึ่งตัว ใครที่โดนลงโทษ จะต้องขึ้นไปทำท่าเตรียมวิดพื้น แล้วก็จะถูกเฆี่ยนที่ก้น ส่วนมากจะคึ่งโหล ซึ่งแกนิยามท่าลงโทษนี้ว่า 'bent down'
ส่วนผูหญิง ถ้าต้องถูกลงโทษ จะให้ออกมายืนตัวติดหน้าขอบเวที แล้วครูใหญ่แกจะใช้ไม้ ชี้เรขาคณิต ที่ผลิตโดยพวกเรา เฆี่ยน จากด้านบนที่แกยืนอยู่ลงมา โดยแกนิยามท่าลงโทษนี้ว่า ' ท่าสะพายแล่ง '
ความเครียดเกิดกับหลายคน บางคนทนไม่ไหว ไม่มาเรียน จนครูใหญ่ต้องส่งครูประจำชั้นไปตาม บางคนถูกนำตัวมาเป็นเด็กประจำ กินนอนที่โรงเรียนเลย
แต่แปลกที่ผูปกครองหลายท่านไม่มีใครที่จะโวยวาย หรือ เอาเรื่องกับทางโรงเรียน หรือกับครูใหญ่ เพราะด้วยความที่ผู้ปกครองหลายท่าน ก็เป็นอดีตลูกศิษย์ ที่เคยผ่านกรรมวิธีการสอนแบบนี้ของครูใหญ่มาแล้ว
เข้าใจในเจตนา ที่หวังดี และต้องการให้เด็กสอบเข้าโรงเรียนดีๆในอนาคต( แต่ถ้าเป็นปัจจุบัน อาจมีดรามาก็ได้ )
กว่าจะเรียนจบ ผมเองถึงกับฉี่เป็นสีเลือดเลย เพราะด้วยความเครียด ในการเรียน ความรับผิดชอบ กับงานที่บ้าน การพักผ่อนที่น้อย กับอายุเด็ก14-15
จบ ม.3 ผมสอบเข้าเรียนต่อได้ที่ ร.ร.รัฐบาลแห่งหนึ่ง พร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆที่แยกย้ายกันไปเรียนตามที่ต่างๆ แต่ก็มีโอกาสกลับมาเจอกันอยู่บ้าง
*ปัจจุบันครูใหญ่ท่านได้เสียไปแล้ว และวิธีการเรียน การสอน แบบที่พวกผมได้เรียนมา ไม่มีมานานแล้ว หลังจากจบรุ่นผมไม่กี่ปี
*พวกเรายังคงพูดคุยกันเรื่องๆสมัยเรียน หลายคนยังจำเหตุการณ์ต่างๆได้ดี โดยเฉพาะผม ชอบเอาเรื่องหลายๆมุม มาเล่าให้เพื่อนๆฟัง ทั้งสนุกและอดคิดถึงวันเวลาเก่าๆนั้นไม่ได้
ไม้เรียวเป็นของคู่กันระหว่างครูกับนักเรียน
#เด็กบ้านนอก
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย