"อุลลิเย่ร์เข้ามาในห้องแต่งตัวและเดินไปหาฟาวเลอร์ สวัสดี ร็อบบี้ , เดินไปหาเดวิด เจมส์: 'สวัสดี เดวิด' เขามาหาผมแล้วพูดว่า: 'ขอโทษนะ คุณชื่ออะไร' ผมพูดออกไปว่า: 'คุณต้องป่วยหนักถึงไม่รู้จักผม หลังจากนั้นประมาณหนึ่งสัปดาห์ต่อมาผมก็ถูกขาย"
ลิเวอร์พูลจ่ายเงิน 2.5 ล้านปอนด์ให้กับ สเปอร์สเพื่อคว้า นีล รัดด็อค เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2536 " ในวันนั้นผมไปเที่ยวพักผ่อนอยู่ที่สเปน แซมมี่ ลีได้ติดต่อกับเข้ามา ผมจำได้ว่ากำลังกินข้าวกลางวันอยู่และบริกรเข้ามาบอกว่า: 'คุณ รัดด็อค มีโทรศัพท์ถึงคุณ "
ผมรู้จักแซมมี่ ลี ผมเคยเล่นกับเขาที่เซาแธมป์ตัน เมื่อเขาบอกว่าปลายสายคือ 'แซมมี่ ลี' ผมคิดว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่ๆ เขาเป็นโค้ชทีมสำรองที่ลิเวอร์พูลในเวลานั้น เขาพูดว่า: 'ซูเนสส์ต้องการคุณ' เมื่อผมกลับบ้าน ผมมีซูเนสส์และลิเวอร์พูลรออยู่ , เกล็น ฮ็อดเดิ้ลที่เชลซี, ไบรอัน คลัฟที่ฟอเรสต์, เควิน คีแกน นิวคาสเซิล, วอลเตอร์ สมิธ เรนเจอร์ส และเคนนี่ ดัลกลิช แบล็คเบิร์น พวกเขาทุกคนต้องการเซ็นสัญญากับผม
ผมสัญญาว่าจะเจอทุกสโมสร ผมไปที่แบล็กเบิร์น พบเคนนี่ในวันจันทร์ วันอังคารมาที่ลิเวอร์พูล และกำลังจะไปนิวคาสเซิลในวันพุธ แต่เมื่อผมพบกับซูเนสส์ที่ลิเวอร์พูล ผมคิดว่า: 'นี่แหละ' คือที่ๆเหมาะกับผมที่จะเติบโตในเส้นทางลูกหนัง ลิเวอร์พูลเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม แฟนบอลก็สุดยอด ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้วการวิ่งออกไปที่แอนฟิลด์พร้อมกับเดอะค็อปโห่ร้องต้อนรับคุณ คุณจะได้ยินเสียงพวกเขาร้องเพลง นั่นคือสิ่งที่ผมจำได้มากที่สุดยามต้องมาเยือนแอนฟิลด์
หลังจากลงเล่นให้ Liverpool Ruddock ได้เพียง 2 นัด รัดด๊อกได้ลงสนามในนัด เทสติโมเนี่ยลแมตช์ ของ รอนนี่ วีแลนน กับ Newcastle เริ่มเกมไปเพียงสองนาที ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์กระดูกกรามหักหลังจากการปะทะกับ รัดด๊อก เบียร์ดสลีย์เขียนในภายหลังในหนังสืออัตชีวประวัติของเขาว่ารัดด็อคจงใจหักโหนกแก้มของเขาเพื่อพิสูจน์ว่าเขาเป็น ฮาร์ดแมนตัวจริง
แกรม ซูเนสต์ คุม Liverpool มาแล้วสองฤดูกาลก่อนที่เขาจะ เซ็นสัญญากับนีล รัดด๊อก ลิเวอร์พูลจบที่หกทั้งสองฤดูกาล ห่างไกลจากยุครุ่งเรือง ลิเวอร์พูลชนะสี่จากห้าเกมแรกในฤดูกาล 1993-1994 โดยมี Mark Wright และ Neil Ruddock เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันของพวกเขา โดยแพ้ให้กับสเปอร์สทีมเก่าของ Ruddock เท่านั้น จากนั้นลิเวอร์พูลก็แพ้ 3 นัดติดต่อกัน และก็ตกต่ำตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตกรอบเอฟเอ คัพ ด้วยน้ำมือของบริสตอล ซิตี้ ที่แอนฟิลด์ ซูเนสต์ ถูกไล่ออกเพียง 6 เดือนหลังจากที่ Ruddock มาที่ Liverpool
ผมคิดว่าเขาน่าจะมีเวลานานกว่านี้ เขาซื่อสัตย์กับผม เมื่อเราซ้อมเล่นบอลห้าคน เขายังคงเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดที่นั่น ซูอี้ กลับมาเป็นผู้จัดการทีมเขาคุมทีมที่มีเพื่อนของเขา ทั้ง วีแลน และ กร็อบเบลาร์ เขากลับมาและบอกทั้งสอง ว่า อย่าทำในสิ่งที่เคยทำระหว่างพวกเขา เพราะตอนนี้เขาคือบอส ในตอนนั้นเขาต้องการทำสิ่งที่เขาคิดว่าถูกต้อง เขาพลาด เขาใจร้อนไป เขาไม่มองภาพให้กว้างกว่านั้น ผู้เล่นกำลังคุยกันลับหลังเขา นั่นคือสิ่งที่ผมเห็น
รอย อีแวนส์ ที่อยู่กับสโมสรมา 28 ปี ได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดการทีม ของลิเวอร์พูล มันแปลกจริงๆ เพราะในสัปดาห์หนึ่งเราเรียกเขาว่า 'เอ็ดดี้' ชื่อเล่นของเขามาหลายปีแล้ว และทุบตีเขาในสนามซ้อม และต่อมาเขาก็เป็นผู้จัดการทีม และเราก็เรียกเขาว่า 'เจ้านาย'”
ในฤดูกาลแรกของอีแวนส์ซีซั่น 1994-1995 อีแวนส์ ตัดสินใจซื้อ Phil Babb และ John Scales มาจากโคเวนทรีและวิมเบิลดันตามลำดับภายในระยะเวลาเพียงแค่ 48 ชั่วโมง อีแวนส์ตัดสินใจเล่นเซ็นเตอร์แบ็คสามคน รัดด็อค สเกลส์ และบ็าบบ์ โดยบอกว่า "การมี สองคนนี้เล่นข้างๆเป็นเรื่องที่ดีของ รัดด๊อก
ด้วยความสัตย์จริงผมชอบเล่นกับ มาร์ค ไรท์ หรือ สตีฟ นิโคล มากกว่าในระบบกองหลัง 4 ตัว พวกเขาสองคนเหมือนไม่เคยผิดพลาด ต่างจาก ฟิล บ็าบบ์ ผมไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร ผมเดาไม่ถูกว่า บ็าบบ์ จะพลาดตอนไหน
Ruddock ได้แชมป์ลีกคัพเพียงแชมป์เดียวที่เขาได้รับ ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่ลิเวอร์พูล ความฝันของเขาในการคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เวมบลีย์พังทลายลงตอนฝึกซ้อม “ ตอนซ้อมผมวิ่งผ่านรอย อีแวนส์ และเขาก็บอกผมว่า 'เรเซอร์ ผมไม่รู้จะบอกคุณยังไงดี แต่...' แค่นั้นเอง ผมก็เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ผมหงุดหงิดมาก ผมตะโกนใส่รอยไปว่า Fuck OFF !! ผมอาจจะเป็นคนตัวโต และได้ชื่อว่าเป็นคนปากแข็ง แต่ผมก็ร้องไห้เป็นเด็กๆในวันนั้น "
ตอนนั้นผมกำลังเล่นได้ดี และ รอยยอมรับภายหลังว่าเขาตัดสินใจผิดพลาด ผมมักเล่นได้ดีเมื่อเจอกับคันโตน่า และเขาก็เล่นไม่ออกเมื่อต้องเจอกับผม บางคนบอกว่า รอย นุ่มเกินไปซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องจริง แต่เขาไม่อ่อนโยนกับผมเลยนะ ผมคิดว่าผู้เล่นบางคนต้องมีคนกระตุ้นในการที่จะโชว์ฟอร์มได้ดีและกลายเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ เช่น Collymore เขาสามารถกลายเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมได้ ถ้าเขามีคนมาตบกระโหลกกระตุ้นเขา ผมมั่นใจว่าเขาจะต้องเป็นแบบนั้น
ที่ลิเวอร์พูล ผมได้พบเจอกับยอดนักเตะมากมาย แต่ถ้าให้เลือกคนที่สุดยอดจริงมีอยู่ หกคน จอห์นนี่ บาร์นส์, แจน โมลบี้ , รัชชี่ ,สตีฟ แม็คมานามาน, ร็อบบี้ และ ผม
หลายคนอยากรู้ว่า ผมต่อย ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ จริงไหม เรื่องของเรื่องก็คือ วันนั้นเรากำลังอารมณ์ดีหลังชัยชนะ และ เพลิดเพลินกับการดื่มฉลองบนเครื่องบินกลับบ้าน เรื่องเกิดเมื่อ สตีฟ ฮาร์คเนส อุตริ ฉี่ใส่รองเท้าของร็อบบี้ ในขณะที่เขาหลับท่ามกลางความโกลาหลบนเครื่องบิน เมื่อร็อบบี้ตื่นขึ้น ผมกำลังหลับ เขาสวมรองเท้าและตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าเกิดอะไรขึ้น เขาไม่พอใจนักและเมื่อเขาถามว่าใครเป็นคนทำ เด็กๆ ก็ชี้มาที่ผม ผลก็คือ เขาเปิดกระเป๋าของผมและดึงรองเท้าบูทกุชชี่คู่ใหม่มูลค่า 300 ปอนด์ของผม ออกมาแล้วตัดมันทิ้งโดยคิดว่าเขาจะแก้แค้นคนร้ายที่ฉี่ใส่รองเท้าของเขา เมื่อผมตื่นขึ้นมา เด็กๆ ยังคงหัวเราะกัน จนกระทั่งที่สนามบิน
ผมเผชิญหน้ากับร็อบบี้และบอกเขาว่าผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น และเรียกร้องให้เขาซื้อรองเท้าบูทคู่ใหม่ให้เพื่อทดแทนรองเท้าที่เขาทำพัง มีการโต้เถียงกันใหญ่ มีการผลักกันเล็กน้อย ร็อบบี้ทำท่าทางน่าหมั่นไส้ ผมตัดสินใจสอนบทเรียนให้เขาด้วยการต่อยจมูกเขา ร็อบบี้โกรธและเริ่มเสียงดัง หลายคนคิดว่าเขาสมควรโดน และมันก็ทำให้เขาสงบลง สุดท้าย เขากับผมก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เรายังคงพูดถึงมัน เขาบอกว่ามันเป็นหมัดเด็ดที่สุดที่เขาเคยเห็น
ในส่วนของคู่ต่อสู้ที่น่าจดจำที่สุดสมัยนั้น สามคนที่ผมนึกขึ้นได้ คันโตน่า, โซล่า ,และเดนนิส เบิร์กแคมป์ แต่ที่ติดต่ตรึงใจผมที่สุดก็คือนัดปะทะกับ Cantona ในเกมกลับมาของเขา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 1995 หลังจากโดนแบนไป 9 เดือน
“อีริคมักจะเอาปกเสื้อของเขาตั้งขึ้น จอห์น สเกลส์ บอกผมว่า 'ทำไมไม่ไปเอาคอเสื้อหมอนั่นลงล่ะ ดูซิว่าเขาจะทำยังไง ผมคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดี จนเมื่อเริ่มเกม ผมก็เอามันลงทีนึงแล้วเขาก็หันมายิ้มให้ผม จากนั้นผมก็เอามันลงครั้งที่สองเขาก็ยังยิ้มให้ผมอยู่ คราวนี้ผมเอาลงครั้งที่สาม เขาพยายามตีผม แต่ผมดันหลบทัน ผมเลยทำมันต่อเป็นครั้งที่สี่ ทีนี้แหละเขาวิ่งไล่เตะผมเลยทีเดียว ทั้งหมดมันเป็นแค่การทำให้เขาหลุดออกจากเกม และเขาก็หลุดจริงๆนะ
Ruddock กล่าวเพิ่มเติมในภายหลังว่า Eric เข้ามาหาเขาหลังเกมในบาร์ของผู้เล่น สะกิดไหล่เขา คันโตน่ายื่นเบียร์ให้เขากระป๋องนึง นั่นคือการยอมรับในตัว รัดด๊อก ของนักเตะที่ยิ่งใหญ่
รัดด็อคเจ็บเข่าในเกมเปิดฤดูกาล 1997-98 ต้องพักเป็นเวลาหกเดือน เมื่อเขาหายเจ็บกลับมาก็พบว่าตำแหน่งในแผงหลังไม่มีที่ว่างสำหรับเขาแล้ว
เป็น เวสต์แฮม เสนอทางออกให้รัดด็อก Harry Redknapp ต้องการพาเขาไปที่ Upton Park แต่เขาต้องพิสูจน์ความฟิตของเขากับ Harry โดยการไปเล่นแบบยืมตัวที่ QPR ในการแข่งขันฟุตบอลลีกแชมเปี้ยนชิพ รัดด็อกอธิบาย
เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะย้ายสำหรับผม ผมเหลือสัญญาอีกสองปี ผมเล่นให้กับทีมสำรองของลิเวอร์พูล ที่ QPR มี เรย์ ฮาร์ฟอร์ดเป็นผู้จัดการ จริงๆผมไม่อยากไป QPR นะ
Ray บอก Harry Redknapp และ Harry โทรหาผมและพูดว่า:มาที่นี่ [ QPR] พิสูจน์ความฟิตของคุณแล้วเราจะเซ็นสัญญากับคุณ' ที่นั่นมี Vinny Jones และ Iain Dowie คอยผมอยู่ ผมย้ายไปที่นั่นในช่วงเจ็ดเกมสุดท้ายของฤดูกาล เรากำลังดิ้นรนเพื่อหนีการตกชั้น เราไปที่แมนฯซิตี้และเสมอ 2- 2 ผมพิสูจน์ความฟิตของผมว่ายังสามารถเล่นได้
ผมกลับมา ลิเวอร์พูล ช่วงนั้น Gerard Houllier มาถึงสโมสรในเดือนกรกฎาคม 1998 เพื่อเป็นผู้จัดการทีมร่วมกับ Roy Evans
วันนั้น อุลลิเย่ร์เข้ามาในห้องแต่งตัวและไปหาฟาวเลอร์ 'อ่า ร็อบบี้ ฟาวเลอร์' ไปหาเดวิด เจมส์: 'สวัสดี เดวิด' เขามาหาผมแล้วพูดว่า: 'ขอโทษนะ คุณชื่ออะไร' ผมพูดว่า: 'คุณอยู่ในอาการโคม่ามา 15 ปีหรือถึงไม่รู้จักผม ?' ทุกคนหัวเราะ เขาไม่เข้าใจอารมณ์ขันของผม ผมคิดว่าประมาณหนึ่งสัปดาห์ต่อมาผมก็ถูกขาย ผมย้ายไปเวสต์แฮมและมีเวลาสองปีที่ยอดเยี่ยมที่นั่น
สิ่งที่น่าสงสัยที่สุด รวมถึง Razor จะเป็นอย่างไรสำหรับเขาและ Liverpool ของ Roy Evans หากทีมนี้มีระเบียบวินัยมากกว่านี้ พวกเขาน่าจะถูกจดจำว่าเป็น แชมป์เปี้ยนส์ มากกว่า สไปร์ซบอย
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
