โลกหลังความตาย ? ความเชื่อ ? มันมีปัญหาคลุมเครือไม่ชัดเจนทั้งสองวลีหรือถ้าจะวิเคราะห์กันแบบละเอียดยิบมันมีรายละเอียดทุกคำที่ต้องตีความและให้คำจำกัดความเพราะแต่ละคนจะคิดถึงความหมายของคำพวกนี้ไม่เหมือนกันทั้งหมด
เช่น โลกหมายถึงอะไร สถานที่แห่งหนึ่ง มีอยู่แบบเป็นจริงทางกายภาพทุกคนสัมผัสจับต้องได้เหมือนกันหรือเป็นโลกในจินตนาการ ในความฝัน ในตำนาน นิทาน นิยาย ความเชื่อของใครบางคน
แม้แต่คำว่าความเชื่อวิเคราะห์ต่อไปอีกมากมาย เช่นความเชื่อของใคร เป็นความเชื่อร่วมกันของทุกคนไหม ? ซึ่งไม่น่าจะใช่แน่นอนเพราะสิ่งที่คนเชื่อมักจะแตกต่างกันได้มากมาย ความเชื่อกับความจริงละ เกี่ยวข้องกันระดับไหนเพราะความเชื่อกับความจริงมันแตกต่างกันในความหมายของคำอยู่แล้ว ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเชื่อในสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงหรือมีจริงก็ได้
มีคำพูดเชิงปรัชญาของสำนักเหตุผลนิยมที่น่าสนใจว่า ..เป็นไปได้ที่สิ่งที่เราเชื่ออาจผิดแต่อะไรที่เป็นจริงจะต้องมีเหตผลและสิ่งที่มีเหตุผลมักจะเป็นจริง..
ดังนั้นคำตอบว่า คุณเชื่อโลกหลังความตายไหม ? จึงแทบไม่มีความสำคัญอะไรและแน่นอนว่าไม่เกี่ยวข้องด้วยว่ามันจะมีจริงหรือไม่ ลองสมมติดูถ้าเราไปสอบถามคนในวัฒนธรรมหนึ่งคุณอาจจะได้คำตอบว่า เชื่อว่ามีโลกหลังความตายจากคนเกือบทุกคนที่ตอบแบบสอบถามนี้ คราวนี้ถึงตอนสรุปการวิจัยหาคำตอบเรื่องนี้ คุณก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าตกลงโลกหลังความตายมันอยู่ที่ไหน มีสภาพอย่างไร มีจริงหรือไม่
สิ่งที่พอจะประเมินได้เมื่อคนตอบว่าเชื่อหรือไม่เชื่อคือเขาเป็นคนแบบไหน ถ้าพวกโน้มเอียงทางศาสนา กลุ่มที่เชื่อในไสยศาตร์ พ่อมดแม่มด กลุ่มเชื่อในเทพปกรณัมไม่ว่าจะเป็นเทพเทวดาแบบอิยิปต์ กรีก โรมัน ฮินดู พุทธ คริสต์ อิสลาม ยิว.. โดยรวม ๆ ก็หมายถึงกลุ่มอนุรักษ์นิยมส่วนใหญ่ กลุ่มนี้ต้องตอบว่าเชื่อ ส่วนโลกหลังความตายจะเป็นแบบไหนนั่นไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
ในทางกลับกันคนที่ตอบว่าไม่เชื่อก็พอประเมินได้ว่าเป็นกลุ่มก้าวหน้า โน้มเอียงมาทางวิทยาศาสตร์และวิทยาการสมัยใหม่
ทีนี้ผลของคำตอบนี้ก็ยังไม่ค่อยจะสำคัญนักเพราะคนที่เชื่อชีวิตหลังความตายหรือไม่เชื่อก็ไม่มีอะไรสัมพันธ์กับความดีงาม คุณธรรมจริยธรรมของบุคคลนั้น ๆ คนเชื่อหรือไม่เชื่อก็บอกไม่ได้เลยว่าเป็นคนดี ไม่ดี น่าคบหรือไม่น่าคบ
ถ้าจะวัดระดับทางจริยธรรมจริง ๆ มันก็จะเหมือนคนที่เขาไม่กระทำผิดกฏหมายโดยที่เขาไม่กลัวตำรวจจับ ไม่กลัวการถูกลงโทษแต่เคารพกฏหมายเพราะเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี มีเหตุผลและควรปฏิบัติ แบบนี้เขาถือกันว่ามีจริยธรรมในระดับที่สูงกว่า
สุดท้ายถึงเวลาตอบคำถามสักที สั้น ๆ เลยคือไม่เชื่อโลกหลังความตายแบบมีนรก สวรรค์ไม่ว่าจะเป็นแบบอียิปต์ กรีก คริสต์ ฮินดู อะไรทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตามสสารที่เป็นส่วนประกอบของร่างกายเรา ธาตุต่าง ๆ ที่รวมตัวกันเป็นโมเลกุล เป็นเซล เป็นกระดูกเลือดเนื้อเรา..ธาตุหลักก็ C - Carbon, H - Hydrogen, O - Oxygen, N - Nytrogen + ธาตุอื่น ๆ เล็กน้อยอีกจำนวนหนึ่ง องค์ประกอบพวกนั้นยังคงเวียนว่ายตายเกิดคือ reuse ซ้ำแล้วซ้ำอีกไปอีกนานจนกว่ามนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ จะสูญพันธุ์ไป และสสารธาตุพวกนี้ก็ยังเหลืออยู่อีกนานจนจักรวาลจะอยู่ในสถานะ heat death นั่นก็อีกนานนัก
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
