15 ก.ย. 2021 เวลา 05:05 • กีฬา
Blof Story - เมื่อชายคนหนึ่งมีฟุตบอลเป็นทุกสิ่งในชีวิต ฟุตบอลจึงส่งให้เขาไปเป็นทุกอย่างของทีม (PART 1)
ในช่วง 3-4 ปีหลังที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้สัมผัสฟุตบอลบ้านเรามากขึ้นสืบเนื่องจากงานที่ผมทำก็ตาม หรือความง่ายในการเข้าถึงของตัวฟุตบอลไทยเองด้วยก็ตาม จึงทำให้ผมได้รับรู้เรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับฟุตบอลบ้านเรามากขึ้น
ย้อนไปเมื่อ 2 ปีที่แล้วผมมีโอกาสได้ยินเรื่องราวของโค้ชท่านนึงที่ทำทีมฟุตบอลอาชีพของจังหวัด ฟังแล้วมันก็ไม่ได้แปลกอะไรหรอกครับ จนกระทั่งผมทราบว่าเขาเป็นทั้งเจ้าของทีม ในขณะเดียวกันอีกหน้าที่ของเขาก็คือตัดหญ้าสนามด้วย
ใน Blof Story ครั้งนี้เราจะมารู้จักโค้ชคนนี้ และทีมของเขาให้มากขึ้นกันครับ
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาผมได้เดินทางไปที่จังหวัด กำแพงเพชร ที่สนามศูนย์ฝึกฟุตบอลเศรษฐกิจพอเพียง กําแพงเพชรเอฟซี เพื่อพบกับ โค้ช เศกสรร ศิริพงษ์ ประธานสโมสร และทุกอย่างของทีม และคุณ วีระ เอื้อนจิตญานนท์ ผู้จดการทีม
โดยไม่รีรอคำถามแรกในการพูดคุยหลังจากที่ได้คุยกันไปสักพักของผมก็คือ โค้ชทำสิ่งเหล่านี้ไปทำไม คำตอบง่ายๆจากโค้ชเศกก็คือ อยากให้ไทยได้ไปบอลโลก ยังไม่ได้ไปก็จะไม่หยุดทำ จะทำไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยทางตรง ด้วยการไปเป็นทีมงาน Staff โค้ช จนถึง Head โค้ช หรือทางอ้อมด้วยการปั้นเยาวชนไทยขึ้นมา จนกระทั่งเป็นแค่คนให้กำลังใจก็ตาม
จากความเข้าใจของผมชายผู้นี้ก็ได้เลือกใช้สโมสรแห่งนี้เป็นเส้นทางในการสานฝันของเขาอยู่โดยมีตัวเขาเป็นหัวเรือใหญ่ จากประสบการณ์ชีวิต และความรู้ที่เขามี
การที่เขาเคยเป็นทั้ง อดีตนักฟุตบอล ทหาร รวมไปถึงวุฒิการศึกษาที่เขาได้จบมาเกี่ยวกับทางด้านการบริหารธุรกิจเป็นเครื่องมือหลักที่เขาสามารถบริหารทีมเล็กๆทีมนี้มาได้นานกว่า 22 ปี อย่างมีประสิทธิภาพเกินเบอร์ทีมงบน้อย
แต่นั้นก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้เขาสามารถบริหารทีมๆนี้ผ่านช่วงเวลาที่ดีและแย่ ผ่านอุปสรรคต่างๆ นาๆ มากมายมาได้ หากแต่เป็นความคลั่งไคล้ในสิ่งที่เขาทำต่างหาก
สิ่งที่ทำให้ทีมทีมนี้ น่าสนใจเป็นพิเศษก็คงเป็นเพราะเรื่องราวอุปสรรคที่มันถาโถมเข้ามาตลอดการเดินทางสู่จุดมุ่งหมาย
โค้ชเศกเริ่มต้นทีมๆนี้ขึ้นมาจากการทีมเยาวชน ในช่วงปี 2542 เนื่องจากก่อนหน้านี้จังหวัดกำแพงเพชรไม่ได้มีทีมเป็นของตัวเอง จะมีก็แต่นักบอลที่ออกไปค้าแข้งให้กับจังหวัดใหญ่ๆอาทิเช่น กรุงเทพ นครสวรรค์เป็นต้น แล้วส่งแข่งรายการสำหรับเยาวชนทั่วไป
ซึ่งแน่นอนก็มีโค้ชเศกเนี่ยแหละครับที่ต้องมาดำเนินการทุกอย่าง ส่งแข่ง พาไปแข่ง หาชุดแข่ง หาเงินเดินทางไปแข่ง แม้กระทั่งหาสนามซ้อม
ด้วยความที่ทีมนี้เป็นทีมใหม่และไม่ได้เป็นสโมสรอาชีพอย่างแท้จริง ทำให้ไม่ได้ครับความช่วยเหลือหรือร่วมมือจากภาคส่วนใดเลย ไม่ว่าจะภาครัฐหรือภาคเอกชนก็ตาม มิหนำซ้ำยังมาเป็นอุปสรรคในการทำงานของทีมอีก
โค้ชเศกต้องพาทีมต่อสู้ทั้งศึกนอกและ ศึกใน ซึ่งมาว่ากันแล้วจากการบอกเล่าของโค้ชเศกดูเหมือนจะเป็นศึกในเนี่ยแหละที่จะมาเป็นตัวชะลอความสำเร็จของทีมมากกว่าด้วยซ้ำ
การจัดการที่ต้องพึ่งพาอาศัยบุคคลที่ 3 ซึ่งผมพูดถึงคนในที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหลายที่ทางทีมต้องติดต่อในการดำเนินการต่างๆ ที่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก มีการเอาผลประโยชน์
ระยะเวลาเป็นตัวช่วยพิสูจน์เจตนารมณ์ของโค้ชและทีม ด้วยทรัพยากรที่มีจำกัด และผู้เล่นชุดหลักชุดเดิม พวกเขาเริ่มไล่ล่าความสำเร็จ กับการโชว์ผลงานในการแข่งขันที่ดีขึ้นตามลำดับ
จากทีมเยาวชนทั่วไปเมื่อระยะเวลาผ่านไป พวกเขาก้าวขึ้นมาเล่นระดับประชาชน แข่งขันรายการระดับประเทศอย่าง Prime minister และเคยไปจุดสูงสุดขนาดเป็นแชมป์ภาค
ซึ่งจากตรงนี้เราก็จะเริ่มเห็นกันแล้วว่าพวกเขาพร้อมที่จะก้าวจากทีมสมัครเล่นเพื่อไปเป็นทีมกึ่งอาชีพ หรือฟุตบอลอาชีพต่อไป ไม่ใช่แค่ล่ารางวัลไปวันๆ
ผลงานในสนามไม่ได้สอดคล้องกับการจัดการนอกสนามเลยซะทีเดียว มีการเข้ามาสนับสนุนแบบครึ่งๆกลางๆ และเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เนื่องจากมีปัจจัยตัวแปรหลายตัวมาเกินไปที่ไม่สามารถทำให้การจัดการมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น
ซึ่งแน่นนอนโค้ชเศกก็เริ่มเล็งเห็นถึงปัญหาตรงนี้และก็คิดทำอะไรสักอย่างเพราะเขาไม่ยอมให้สิ่งที่เขาทำมากับมือตั้งแต่ต้นต้องมาหยุดเพราะเรื่องพวกนี้ และนั่นก็เป็นที่มาของการทำทีมสไตล์โค้ชเศก
ทำทีมที่ไม่มีอำนาจการเมือง หรือบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับสโมสรมามีอำนาจการตัดสินใจไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามมายุ่งเกี่ยวด้วยโดยเด็ดขาด
ซึ่งคำพูดจากตัวโค้ชเองบอกว่าท่านผ่านมาเยอะ เข็ดแล้ว ท่านเปรียบเทียบในเชิงติดตลกว่าถ้าคุณเป็นวิศวกร แล้วผมไปสอนคุณสร้างตึกคุณโอเคมั้ยละ
ผมมีความรู้เรื่องบอลก็ไม่ต้องมายุ่งให้ผมตัดสินใจของผม นั้นคือที่มาของการที่ชายคนนี้กลายมาเป็นทุกอย่างของสโมสรอย่างเต็มตัว
และเมื่อเขาตัดสินใจที่จะดำเนินการทุกอย่างภายใต้การตัดสินใจของคนฟุตบอลจริงๆ ความรับผิดชอบจึงเพิ่มขึ้นทวีคูณ ด้วยความที่ทีมไม่ได้มีเงินทุนมาทำทีมแต่อย่างใดจึงทำให้ภาระทุกอย่างวิ่งตรงมาที่ตัวโค้ชเศก
โค้ชได้แชร์เรื่องราวต่างๆนานมากมาย โดยผมจะขอยกเฉพาะเหตุการณ์สำคัญๆ มาแชร์ให้ผู้อ่านฟังกันในตอนต่อไปนะครับ รวมถึงเรื่องราวของความพยายามมากว่า 2 ทศวรรษ ปัจจุบันจะออกมาเป็นอย่างไร อย่าลืมติดตามกันด้วยนะครับผม
บทความโดย ปีย์ฟิลลิปส์ ศิริโพธิ์
โฆษณา