ทำขนมให้ลูกทาน ep.2
"ขนมเผือกทอด ข้าวโพดทอด"
อุปกรณ์ในการทำขนมครั้งนี้มีแค่ ชามสำหรับผสมแป้ง กระทะสำหรับทอด หม้อสำหรับทำน้ำจิ้ม
วัตถุดิบ สำหรับตัวขนม
1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 300 ml. หรือประมาณ 1 ถ้วยตวงกว่านิดๆ
2. แป้งข้าวเจ้า ใช้ปริมาณเท่ากับแป้งสาลี (อัตราส่วน 1:1)
3. น้ำตาลทราย 1 ชต. (จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้เพราะมีน้ำจิ้ม แต่ถ้าไม่ชอบน้ำจิ้มก็ให้เพิ่มน้ำตาลทรายไปอีก 1 ชต.)
4. เกลือ 1/2 ชช.
5. ผงฟู 2 ชช.
6. เผือกขูดฝอย ประมาณ 200 g.
7. ข้าวโพดดิบแกะเม็ด ประมาณ 200 g. จะใช้ข้าวโพดกระป๋อง หรือข้าวโพดต้มสุกแล้วก็ได้ แต่ข้าวโพดสุกเวลาแกะจะทำให้เม็ดแตกเละไม่สวยงาม
8. น้ำเย็นจัด จำนวนหนึ่ง
วัตถุดิบตัวขนม
เคล็ดลับ :
เปลือกเผือกจะมียางที่ทำให้คันมือ ตอนล้างควรใส่ถุงมือสำหรับทำอาหารด้วย เวลาปอกเปลือกทิ้งอย่าไปเสียดายเนื้อเพราะยิ่งใกล้เปลือกยางยิ่งเยอะ
ข้าวโพดผมใช้ข้าวโพดหวาน 1 ฝัก แนะนำวิธีแกะเมล็ดข้าวโพดอย่างง่าย เม็ดข้าวโพดไม่เละ เมื่อล้างข้าวโพดแล้วต้องซับและผึ่งให้แห้งก่อนจะทำให้แกะง่ายยิ่งขึ้น
หั่นข้าวโพดเป็นท่อนๆ แล้วผ่ากลางตามแนวแถวข้าวโพด
ใช้นิ้วหัวแม่โป้งวางตามแนวแถว (สีเขียว) แล้วดันออกด้านนอก (สีส้ม) เริ่มจากแถวนอกสุดเข้าไป จะถนัดซ้ายหรือขวาก็ทำได้ทั้งนั้น ใช้เวลาไม่นานจะได้เม็ดข้าวโพดสวยไม่แตกช้ำ
วัตถุดิบ สำหรับทำน้ำจิ้ม
1. น้ำมะขามเปียก 1 ชต.
2. น้ำตาลมะพร้าว 2 ชต.
3. น้ำตาลทราย 1 ชต.
4. เกลือป่น 1 หยิบมือ
5. น้ำเปล่า ไว้เติมตอนเคี่ยวน้ำจิ้ม
6. ถั่วลิสงคั่วแล้วมาป่นอย่างหยาบ ปริมาณตามชอบ
7. พริกป่น จะใช้พริกสัญชาติอะไรก็ได้ ปริมาณตามความเผ็ดที่เราชอบ
วัตถุดิบสำหรับน้ำจิ้ม
เริ่มขั้นตอนการทำกันเลย
1. ผสมแป้งสาลี แป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย เกลือ และผงฟู ลงในชามผสม คนให้เข้ากัน
ที่อยู่ในช้อนคือผงฟู 2 ชช. ถ้าไม่มีช้อนตวง ใช้ช้อนทานข้าวตวงประมาณเท่านี้
2. ค่อยๆ เติมน้ำเย็นจัดลงไปทีละน้อย กวนจนส่วนผสมต่างๆ เข้ากันดี ไม่เหลวหรือข้นจนเกินไป
ใช้ช้อนตักแล้วเทลงชาม ส่วนผสมไหลดีมีความหนืดเล็กน้อยก็ใช้ได้แล้ว
3.แบ่งแป้งที่ผสมแล้ว แบ่งครึ่งเป็น 2 ชาม ใส่เผือก และข้าวโพดที่เตรียมไว้ คนให้ส่วนผสมเข้ากันดีแล้วพักทิ้งไว้ 20-30 นาที เพื่อให้ผงฟูทำงานเต็มที่
แบ่งส่วนผสมคนละชาม พักทิ้งไว้
ระหว่างที่รอพักแป้งเรามาทำส่วนผสมของน้ำจิ้มกัน
4. นำน้ำตาลมะพร้าว (หรือน้ำตาลทราย ถ้าไม่มี) ประมาณ 2 ช้อนทานข้าว เกลือแค่ปลายช้อน และน้ำเปล่าเล็กน้อย ผสมในภาชนะที่จะนำไปเคี่ยว คนจนส่วนผสมเข้ากันดี โดยเฉพาะน้ำตาลมะพร้าวให้ละลายให้ได้มากที่สุด นำตั้งไฟ ใช้ไฟอ่อนค่อยๆ คนไปเรื่อยๆ เมื่อเริ่มร้อนเราสามารถชิมรสชาติ เติมน้ำตาลทรายเพิ่มให้ได้รสชาติที่ถูกใจเรา เติมน้ำอีกเล็กน้อยเพื่อไม่เหนียวหรือข้นจนเกินไป เพราะเมื่อเย็นลงความเหนียวข้นของน้ำจิ้มจะเพิ่มขึ้นอีก พอเดือดปิดไฟยกลงทิ้งไว้ให้เย็น
น้ำมะขาม น้ำตาลมะพร้าว เกลือ น้ำเปล่า ใส่ภาชนะเตรียมไปเคี่ยว
จริงๆ แล้ว จะทำให้เสร็จเลยเมื่อวานนี้ พอดีมีธุระด่วนเข้ามา ผมเลยต้องเอาส่วนผสมเผือกและข้าวโพดเข้าตู้เย็นไว้ วันนี้จึงได้ออกมาทำต่อ ไม่รู้ว่าผลลัพธ์ออกมาจะเป็นอย่างไร ผมเอาแป้งมาพักไว้ในอุณหภูมิห้องเพื่อให้หายเย็น
5. เตรียมทอดโดยใช้น้ำมันสำหรับทอด ผมใช้น้ำมันปาล์มประมาณ ครึ่งขวดลิตร (ถ้าบ้านใครมีน้ำมันรำข้าวจะดียิ่งขึ้นครับ) ใช้ไฟแรงจนน้ำมันเริ่มร้อน เช็คได้โดยใช้ตะเกียบไม้จุ่มลงไปจนถึงก้นกะทะ ถ้ามีฟองอากาศเล็กๆ ผุดขึ้นมาแปลว่าใช้ได้แล้ว ลดไฟลงมาเป็นไฟกลาง แล้วลงมือทอดได้เลย
6. ทอดทีละอย่าง ใช้ช้อนหรือทัพพีตักหยอดลงกะทะ อย่าหยอดให้ชิดกันเพราะแป้งจะติดกัน ขนาดเล็กใหญ่ตามความพอใจเราได้เลย เผือกจะใช้เวลาทอดนานกว่าข้าวโพด ทอดให้สีดูเหลืองดีทั้ง 2 ด้าน แล้วยกขึ้นพักในตะแกรงเพื่อสะเด็ดน้ำมัน
ซ้ายเผือก ขวาข้าวโพด
แป้งที่แช่ตู้เย็นค้างคืน ทอดออกมาแล้วหน้าตาเป็นแบบนี้ ลองชิมดูจะให้ความนุ่มฟูมากกว่าความกรอบ
7. ผสมน้ำจิ้มให้เสร็จ เรานำถั่วลิสงคั่วตำอย่างหยาบ ใส่พริกป่น คลุกเคล้าชิมรสตามชอบ ถ้ามีผักชีเอามาโรยหน้าสักหน่อย พอดีผมไม่มี
กว่าจะผสมน้ำจิ้มเสร็จ ของทอดโดนจกไปหลายชิ้นแล้ว
เป็นอันเสร็จสิ้นสำหรับขนมสำหรับครอบครัวครั้งที่ 2 เราสามารถใช้พืชผักอย่างอื่นได้ เช่น ฟักทอง แครอท หัวไชเท้า ถั่วดำ เป็นต้น
หลังจากที่ผมและลูกๆ ทานกันแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า แป้งผสมแล้วควรทอดทันที ไม่ควรแช่ตู้เย็นค้างคืน เพราะความกรอบจะหายไปแต่ความอร่อยยังอยู่ครบครับ
คราวหน้าจะทำอะไรให้ลูกทาน ช่วยติดตามกันต่อไปด้วยนะครับ 👋
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
