กฎพรีเมียร์ลีกว่าอย่างไร ทำไมเสียบอีกฝ่ายเจ็บ แม้ตัวเองไม่ตั้งใจ ถึงโดนไล่ออก เราจะอธิบายกฎเบื้องต้นให้ฟังแบบเข้าใจง่าย
ประเด็นของฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ที่โดนปาสกาล สเตราค์ สกัดใส่จนข้อเท้าหลุด ส่งผลให้กรรมการเครก พาวสัน ไล่ออกจากสนามทันที ความเห็นในโลกออนไลน์แบ่งเป็นสองฝ่าย ฝ่ายแรกคือสมควรโดนใบแดงแล้ว
แต่อีกฝ่ายก็มองว่า มันเป็นจังหวะสกัดตามเกมปกติ สเตราค์ก็เห็นๆ อยู่ว่าไม่มีเจตนา แล้วแบบนี้มันแฟร์หรือไม่ ที่จะแจกใบแดงกันโดยตรงเลย เรื่องนี้จะเข้าใจได้ ต้องอธิบายด้วยกฎพรีเมียร์ลีก จะพอเห็นภาพได้ชัดเจน
สถานการณ์ เกิดขึ้นระหว่างเกมลิเวอร์พูลกับลีดส์ ตอนหงส์แดงนำ 2-0 ก่อนจะเข้านาที 60 คล็อปป์เรียกจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงมาเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมส่งลงเล่น โดยคนที่เขาน่าจะถอดออก คือฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ เพราะสกอร์ 2-0 ถอดตัวรุก เอาคนที่เล่นเกมรับได้ดีกว่าลงแทนเพื่อประคองสกอร์ แต่ยังไม่ทันที่คล็อปป์จะได้เปลี่ยน ก็เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น เมื่อปาสกาล สเตราค์ กองหลังลีดส์ สไลด์สกัดฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ เพื่อป้องกันจังหวะโต้กลับเร็ว
จริงๆลูกนี้ เป็นการเสียบที่ไม่เลว ตัดบอลได้สวย แต่ประเด็นคือจังหวะฟอลโลว์ของสเตราค์ ไปโดนข้อเท้าซ้ายของเอลเลียตต์ จนทำให้เอลเลียตต์ลงพื้นผิดจังหวะ ข้อเท้าเลยหลุด คล็อปป์อธิบายหลังเกมว่า "ข้อเท้าของเขาไม่อยู่ในจุดที่มันสมควรจะอยู่ แต่ทีมแพทย์ของเรา ได้จับมันเข้าที่อีกครั้ง ซึ่งมันสำคัญมากที่ทีมแพทย์จัดการกับมันได้เร็ว"
ลูกนี้ สเตราค์ ไม่ได้ตั้งใจทำให้เอลเลียตต์เจ็บ ทุกคนรู้ ดิออน ดับลิน อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ พากย์ที่วิทยุบีบีซี เรดิโอว่า "การสกัดจังหวะนี้ไม่มีอะไรผิด มันไม่ใช่เจตนาอยู่แล้ว" คำถามคือ แล้วทำไมกรรมการเครก พาวสัน ถึงให้ใบแดงล่ะ
จุดนี้เราต้องไปดูกฎใน Regulations ของเอฟเอ ระบุไว้ชัดเจนว่าการไล่นักเตะสักคนออกจากสนาม จะเกิดขึ้นจากความผิด 1 ใน 8 ข้อดังนี้
1- ทำฟาวล์หนัก (Serious Foul Play)
2- มีพฤติกรรมรุนแรง เช่น เฮดบัตต์ ตบหน้า ฯลฯ
3- กัด หรือ ถุยน้ำลายใส่คนอื่น
4- ขัดขวางการได้ประตูด้วยการใช้มือ
5- จงใจขัดขวางคู่แข่งที่กำลังจะจบสกอร์ ในจังหวะที่ชัดเจนว่าจะเป็นประตูแน่
6- พูดจาหยาบคาย ใช้ภาษาโจมตีใส่คนอื่น
7- ได้รับใบเหลือง 2 ใบในเกมเดียวกัน
8- บุกเข้าพื้นที่ห้อง VAR
ในกรณีของสเตราค์ ผู้ตัดสินมองว่า ผิดในกฎ Serious Foul Play โดนนิยามของมันคือการเสียบที่ทำให้เกิดอันตรายกับคู่แข่ง จะถูกระบุว่าเป็น Serious Foul Play ทั้งสิ้น
กล่าวคือจะเจตนาทำหรือไม่ ไม่สำคัญ แต่ถ้าผลลัพธ์ออกมา เป็นคู่แข่งเจ็บหนัก ก็จะกลายเป็นใบแดงไปโดนปริยาย
ในปี 2010 ไรอัน ชอว์ครอส พยายามปั๊มบอลกับแอร่อน แรมซีย์ แต่ผิดจังหวะไปหวดขาแรมซีย์อย่างไม่ตั้งใจจนขาหัก กรรมการก็ไม่สนว่าจะเจตนาหรือไม่ ให้ใบแดงทันที
หรือในปี 2019 ตอนซน ฮึง-มิน เสียบอันเดร โกเมส เพื่อตัดเกม แต่โกเมสไถลไปข้อเท้าหัก ตอนแรกกรรมการยังไม่เห็นอาการของโกเมส ก็ถือใบเหลืองไว้ แต่พอเดินมา เห็นโกเมสอาการหนัก ก็เปลี่ยนจากเหลืองเป็นแดง ไล่ซนออกจากสนาม
กฎพรีเมียร์ลีกมันเป็นแบบนั้น ต่อให้คุณจะไม่ตั้งใจ แต่ถ้าผลลัพธ์คือทำให้คู่แข่งเจ็บหนัก มันก็จะกลายเป็นใบแดง ดังนั้น กรณีนี้สำหรับสเตราค์ จึงช่วยไม่ได้จริงๆ ลีดส์จึงต้องเหลือ 10 คนในช่วงเวลาที่เหลือ
ส่วนกรรมการเครก พาวสัน ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเกมนี้ เขาเป็นแฟนบอลเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ไม่ได้ชอบทั้งลิเวอร์พูลหรือลีดส์ ดังนั้นก็ตัดสินไปตามเกม และว่ากันด้วยกฎ ไม่ได้นอกมีในอะไร
ดังนั้นจึงเป็นกรณีศึกษาสำคัญว่า การจะโดนใบแดง คุณไม่จำเป็นต้องฟาวล์แรก แต่ถ้าทำให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บ แม้จะไม่เจตนา ก็สามารถโดนไล่ออกจากสนามได้เช่นเดียวกัน
- 13
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
