ผู้หญิง..ห้ามขึ้น.....
นับเป็นนิมิตรหมายที่ดี..ที่สาวไทยบุรีรัมย์ โกอินเตอร์ได้เต็มตัวแล้ว ทั้งที่ก่อนนี้..เคยเป็นแค่ร่างทรงคนเอเซียด้วยกัน
ว่าด้วยเรื่องสิทธิสตรี...ก็อดนึกสงสารสาวๆชาวอัฟกันไม่ได้...เพราะถูกหลักศาสนากดทับความเป็นมนุษย์เพศเมียเสียไม่มีชิ้นดี
6ข้อห้ามหลักๆ..คือห้ามไปโรงเรียน ห้ามทำงาน 2ข้อนี้ดี...
แต่อีก4ข้อที่ว่า..มันดูเยอะไปหน่อย เช่นห้ามออกนอกบ้าน หากไม่มีญาติผู้ชายตามไปด้วย
.ห้ามไปสถานที่รักษาพยาบาลที่มีผู้ชายดำเนินการ...
คือไรว่ะข้อนี้ ก็ในหมวดแรกมึงบอกห้ามสาวเจ้าทำงาน นั่นแปลว่าผู้หญิงหมดสิทธ์ที่จะได้รับบริการสาธารณสุขใดๆ นั่นรึเปล่า
ห้ามต่อมาคือห้ามโชว์หน้าโชว์ตา รึโชว์เนื้อหนังมังสา...
สุดท้ายคือห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง......
ว่าเกิดเป็นหญิงในจีนนั่นว่าแย่แล้ว...นี่หนักกว่าเป็นร้อยๆเท่า
ใครยังจำหนังสือใต้หมอนในโพสก่อนได้ ..ย่อมจะเข้าใจในสิทธิสตรีมากขึ้น
หากเปรียบหนังสือใต้หมอนเป็นหนังavสักเรื่อง.....มันย่อมจะเป็นข้อบ่งชี้ทางสังคมในเรื่องเพศได้ดีอย่างหนึ่ง ว่าหากผู้หญิงขึ้นไปอยู่ด้านบน มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
การจะมาพูดเรืี่องหีๆควยๆ ...มันจึงไม่ใช่เรื่องลับอีกต่อไป
เพราะคำว่าควย..ในภาษาบาลี คุยห..คือที่เล้นลับ...เช่นคุยหสถาน..
ส่วนหี....นั่นย่อความมาจากคำว่าหีน..หีนนี้คือคำด่าของพุทธมหายานที่มีต่อสายพุทธเถรวาทอย่างเรา
ที่ยังคงคร่ำครึในหลักสอน...ทั้งที่โลกเขาไปไหนต่อไหนกันแล้ว พุทธที่แพร่หลายขณะนั้นเรียกมหายาน หรือพวกยานใหญ่ เน้นสร้างคนในบรรลุแล้วไปทำหน้าที่ช่วยเหลือคนต่อ
หีนยานก็คือพวกยานลำเล็ก......ใครทำใครได้.....พูดแล้วขึ้น...อยากจะไปกระทืบพวกยานใหญ่แม่งสักที กล้าดีอย่างไรมาเรียกพวกเราว่าไอ้พวกหน้าหีน....
ไหนๆก็มาสายบาลีแล้ว เอาอีกคำคือ...เย็ด...
เย็ดคือการกระทำที่เกิดขึ้นร่วมระหว่างควยกับหี......พวกโลกสวยอย่าคิดมาก เพราะนี่คือคำอธิบายโดยภาษาดั่งเดิม
เย็ด...รากศัพท์มาจากคำเดียวกะคำว่าเฮ็ดในภาษาอีสาน...และมันก็คือคำเดียวกับคำว่ายะในภาษาล้านนา ที่แปลว่าทำ เช่นคำว่า ยะก๋านยะงาน....
พอพูดถึงล้านนา...นึกอดสงสารอีน้องชาวเหนือเหมือนกัน...ที่ถูกสาปมิให้ขึ้น..เพราะมันบ่งาม
ใจเย็นๆก่อนนะ...หากใครเคยขึ้น..แล้วรู้สึกว่าตัวฉันจะผิดและบาปมากรึเปล่า
ที่เขาเขียนป้ายประกาศว่าห้ามผู้หญิงขึ้นตามวัดวาอาราม.....มันก็มีนัยยะแฝงที่น่าสนใจ
กล่าวคือ..ด้วยสภาพภูมิประเทศทางล้านนา มันยังมีภาวะแผ่นดินไหวอยู่เป็นระยะ
ดังนั้นการจะเอาพระบรมสาริกธุาติไปไว้บนยอดเจดีย์ต่างๆเหมือนที่อื่นๆ..มันทำไม่ได้ เขาจึงนิยมฝังพระธุาติไว้ที่ฐานรากของเจดีย์
แต่..พระธุาติมิได้เป็นปรปักษ์กับหญิงสาว เท่ากับยักษ์ประตูทวารทั้ง4 ที่มิชอบเลือดคาวของสตรี...เกรงว่าอาถรรพ์จะเสื่อม
โดยความเชื่อนี้..ต้องย้อนเวลาไปในสมัยพระนางจามเทวี สัก1300กว่าปีขึ้น
ก่อนจะมาอยู่ลำพูนในปัจจุบัน ท่านเคยอยู่ละโว้ ด้วยความงามบาดใจจึงต้องตาขาใหญ่ถิ่นเจ้าที่
เลยวี๊ดหวิว.....โชว์พลังคล้ายดังพญาไก่กระพือปีก ทาบทามความรักด้วยการโชว์การพุ่งหอก ภาษาเหนือเรียกเสน้า
.บอกแม่จามเทวีว่า หากข้าพุ่งหอกจากดอยปุย...1ใน3ครั้งแล้วไปตกที่เมืองหอยสังข์ลำพูนของน้อง น้องจะต้องตกเป็นเมียของข้า
ครั้งแรกตกเกือบจะถึงกำแพงเมือง...ปัจจุบันเรียกบริเวณตรงนั้นว่าหนองเสน้า(สะเน้า)
.เมื่อเห็นท่าว่าไม่ดีแน่....พระนางจามเทวีท่านจึงฉีกชายผ้าซินมาถักเป็นมาลา แล้วนำหมากมาป้ายเลือดประจำเดือนแทนปูน
แล้วนำส่งให้ขุนหลวงวิลังคะแดกก่อนพุ่งครั้งที่2, โดยแทรกมายาหญิงว่า...แดกสะก่อนอีน้องจะเอาใจช่วยท่านปี้...เพราะน้องก็ชอบปี้เหมือนกัน
พอพุ่งครั้งที่2 ผลปรากฏว่า...เสน้าโรยแรงดังน้ำที่2 จึงตกจึ๋งลงที่ตีนดอย ปัจจุบันคือสวนสัตว์เชียงใหม่
ทีนี้...เริ่มรู้ล่ะ ว่ากำลังโดนของต่ำทำให้ฤทธ์เสื่อม.....
ถึงตรงนี้...จึงเริ่มมีนักวิชาการสาวๆ...ออกมายกระดับข้อมูล ว่าจริงๆแล้ว เขาไม่ได้ห้ามผู้หญิงขึ้นบนสถานที่ศักด์สิทธ์
เพียงแต่ขอร้อง..ห้ามหญิงที่มีประจำเดือนขึ้น....เพราะสมัยก่อนการจะมาเขียนว่าห้ามคนมีเมนมันก็ใช่เรื่อง เลยเขียนรวมๆ อย่างไม่ให้น่าเกลียดว่า คุณผู้หญิง
อีกทั้งสมัยก่อนก็ยังไม่มีระบบปีก..ให้โอบกระชับในทุกอริยาบทเฉกเช่นสมัยนี้ บางทีมันก็มีเรี่ยราดบ้าง มันจึงดูไม่ควร
ใครที่อ่าน..เรื่องราวนี้แล้ว...ก็ให้เปิดตาเปิดใจบ้าง อย่ามองเรื่องควยๆหีๆเป็นเรื่องต่ำ จนเกินจริตไป
การที่เรามองเมนผู้หญิงเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูดในเคหะสถาน มันก็เหมือนตาลีบันปฎิบัติกับสาวๆในประเทศ
แปลกนะเอาคุยห..ใส่ในหีนเขาได้ แต่สุดท้ายกลับไปทำท่ารังเกียจเขา
โชคดีแค่ไหนแล้ว..
ที่มนุษย์เกิดและเติบโตอยู่ในหีน.....
ถ้าทุกอย่าง..เกิดและมีขึ้นอยู่ที่ คุยหอย่างเดียว.....
โอ้ย..คิดสภาพตอยคุยห ยาน ยาน ไม่ออกเลย.....
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
