13 ก.ย. 2021 เวลา 15:56 • ท่องเที่ยว
บทความตอนนี้ เปนการไปอยู่ อยุธยา ในเวลา 1 เดือน
ตั้งแต่ 2 - 26 สิงหาคม 2564
พัก ณ โรงแรม Kantary เช่าห้องยาวยาวไป
การไปอยู่ที่อยุธยา รอบนี้ เปนเพราะไปธุระที่สำคัญสุดสุดในชีวิต
คือ ต้องไปเฝ้าไข้ติดตามอาการของป้า
และช่วงที่เฝ้ารอ ก้อได้ไปเดินวัดขอพร
เรียกได้ว่า 1 เดือนนี้ เปน สายมู เตมตัว
เลยอยากเกบภาพ และความรู้สึกของแต่ละสถานที่มาฝากครับ
เปนเศษเสี้ยวเลกเลก ในเมืองอันยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ในอตีตกาล
เมืองอยุธยา
ดินแดนแห่งวีรบุรุษ และวีรสตรี
ดินแดนแห่งผู้กล้า
ดินแดนแห่งวัด และวังอันสวยสดงดงาม ในอดีต
ขอเชิญทัศนา ซีรีย์
เดินเดียวดายในอยุธยา
ได้ ณ บัดนี้
1.
วัดพนัญเชิง
...
วันนี้ เดินเล่นจากที่พัก ห่างประมาณ 3 กม
ท่ามกลางแดดเปรี้ยง
เดินไปซัก โลกว่ากว่า เจอมอไซค์วิน ก้อเลยโบกซะ
ไปถึงวัด...
กราบนมัสการ หลวงพ่อโต
ขอพร ให้กับคนที่เรารัก
..
วันนี้ บรรยากาศหงอยเหงา
มีประมาณไม่ถึง 10 คนได้ที่มาไหว้
ก้ออยู่ช่วง จำกัดการเดินทางนี่เนอะ
ก้อดีครับ Isolated กัน
แต่ ก้อยังเห็นรถจาก จังหวัดต่างต่าง เข้ามาที่นี่เหมือนกัน
บางที ก้อต้องมีความจำเปนเดินทาง นี่เนอะ
หลังนมัสการหลวงพ่อโต เสร็จสิ้น
เดินออกมาหน้าวัด
เรียกมอไซค์วินหน้าวัดให้ไปส่งที่พัก
ซ้อนไป คุยไป คุยเรื่องสัพเพเหระทั่วไป
ก้อได้รับคำบอกเล่า แบบบ้านบ้านว่า
เมื่อไหร่จะจบ
วันวันนั่งนับตังค์ว่า
จะเหลือเข้าบ้านเท่าไหร่
ไม่ได้รับการอุดหนุน ฯลฯ
ไม่รู้คับ ว่าเมื่อไหร่จะจบ ต้องตามข่าวกันต่อไปเน้อ
.
รู้แต่...
ตอนนี้ได้แต่ส่งกำลังใจหนักหนัก
พร้อมแรงศรัทธา
ให้กับคนที่เรารัก
หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง
2.
วัดใหญ่ชัยมงคล
โบราณสถานอีกแห่ง ที่อยู่ไม่ห่างไกลจากที่พัก
พอเดินหนึ่งเหนื่อย (2 โลฝ่าฝ่า)
มาช่วงนี้ ไร้นักท่องเที่ยว อยากเดินไปตรงไหน อยากจ่อมหาความสงบ อยากยืนถ่ายรูป จัดเตมเตม แบบไม่มีใครบังความงาม ได้เลย
มาทีไร ก้อยังสวยงามอยู่เสมอ พาลให้นึกถึงสมัยกรุงศรีฯ รุ่งเรืองว่า...จะอลังการ ขนาดไหน กับวัดที่มีอยู่นับร้อย ในกรุง
เจดีย์วัดใหญ่ชัยมงคล
3.
SUNRISE
will come with new hope for new day
#formyloveone
#ezlife
#postcardshot
พระอาทิตย์ ณ ระเบียงห้องพัก โรงแรม Kantary
4.
วัดไชยวัฒนาราม
ที่มาวัดนี้ ไม่มีไรหรอก เพราะได้ยินกิตติศัพท์​ จาก ละครออเจ้า เมื่อหลายปีก่อน
ช่วง ฮอทฮอท ไม่ได้มาแอ้มหรอก สถานที่แบบนี้ รวมทั้งที่อื่นอื่น ในอยุธยา
แต่ช่วงนี้ เปนการลอคดาวน์ ครั้งที่...(เท่าไหร่ขี้เกียจจำ) ก้อเงียบเหงาวังเวง
กลายเปนว่า ช่วงเวลานี้ อุทยานประวัติศาสตร์ ได้ปิดตัวเองด้วย ตามคำสั่งร้าบาน และถือโอกาส บูรณะ อาณาบริเวณที่ดูทรุดโทรม จากการเหยียบย้ำมาแรมปี ให้คืนสภาพ คืนความสวยงามดุจนางงาม
เพื่อรอวันเปิดใหม่ ให้เปนที่ละลานตา แก่ผู้เยี่ยมชมทุกคน
ภาพนี้ เลยได้ยืนนอกรั้ว เกบภาพ
จริงจริง ก้อเดินเข้าได้แหละ เพราะรั้วเตี้ย
แต่เรา ก้อค้องเคารพสถานที่ และคำสั่งครับ
เด่วโดนลุงดุ
กัวกัว
ปอลิง
จริงจริงแล้ว ตามที่ได้อ่านมา
เค้าแจ้งว่า สถานที่นี้ เปนวัดหลวง
มีความสำคัญ รายละเอียดโปรดอ่านครับ
#วัดไชยวัฒนาราม
#ออเจ้าตามหาพี่หมื่น
#ezlife
#postcardshot
หมู่เจดีย์ ณ วัดไชยวัฒนาราม
5.
GOLDEN HOUR
ถ่ายจาก Executive Lounge ของที่พักเดือนนี้
มุมนี้ จะมองเหน ยอดเจดีย์ ของวัดใหญ่ชัยมงคล พอดี
แต่เนื่องด้วย มารอบนี้ พกมาแต่กล้อง fix 35mm เลยต้องมาครอปเยอะหน่อย
ปรับโน่นปรับนี่ ให้ภาพมันชัดขึ้นซะเลกน้อย แล้วค่อยนำเสนอ
(ตอนนี้ตัวนี้ กลายเปนกล้องประจำตัวตอนไป street walk หัดเล่นให้เข้ามือหน่อย ยังไม่ชินกะกล้อง fix lens)
..
ยืนอยู่มุมสูงแบบนี้ ผังเมืองของอยุธยา มีแต่ตึกเตี้ยเตี้ย ซะส่วนมาก ไม่ค่อยมีตึกสูงมากนัก นอกจากโรงแรมริมน้ำ
คอนโดก้อเปน Low Rise ไม่เกิน 15 ชั้น
ดีครับ ไม่บดบัง ทัศนียภาพ ของโบราณสถาน
.
มาลองนึกนึกดู ถ้าเมืองนี้ บูรณะ เจดีย์ทั้งหมดให้กลับสภาพเหมือนสมัยกรุงศรีฯ
เมืองนี้ ก้อคงจะคล้าย
ทุ่งเจดีย์เมืองมัณฑะเลย์ ของเมียนมา
เพราะ วัดที่นี่ มีเปนร้อยร้อยวัด วางตัวเรียงราย แทบจะติดติดกันทีเดียว
#เมืองหลายร้อยวัด
#เมืองหลวงสมัยโบราณ
#กรุงศรีอยุธยา
#ที่ไม่ใช่ธนาคาร
#แสงยามเยน
แสงสีทองยามเยน จากที่พัก รร Kantary เหนวิว วัดใหญ่ชัยมงคล ดูงดงาม
6.
BEFORE CURFEW
เข้าเวลา..เยนย่ำเข้าหัวค่ำ
รถราก้อเริ่มขวักไขว่ รีบกลับรังนอน
รีบกลับบ้านให้ทัน
ก่อนเวลาเคอร์ฟิวที่ถูกกำหนดไว้
จะสังเกตุได้ว่า
มีแต่ รถขาเข้าเมือง
ไม่มี รถออกจากเมือง...เลย
ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เข้าวันที่ 7
ห้างใหญ่ใหญ่ แน่นอนว่า โดนปิด
แต่ที่สงสัยคือ
ร้านค้าริมทาง ร้านค้าในเมือง
ก้อปิดตัวลงด้วย
ที่ขายของทั่วไป แทบจะนับร้านได้
ที่เปิดก้อจะเปนร้านอาหารที่ขายของกลับบ้าน แต่ก้อเปิดน้อยมาก เรียกว่า
ไม่เปิดก้อได้
ส่วนมากที่อาศัยฝากท้องก้อคือ
เดินไปที่ตลาดแกรนด์ หาร้านอาหารรถเขน แบบ street food ซื้อกิน
ซึ่งเปิดขาย สี่หรือห้าโมงเยน แล้วเข้าทุ่มถึงสองทุ่ม ก้อเริ่มจะปิดร้านแล้ว
เพราะเด่วกลับบ้านไม่ทัน
เรียกได้ว่า
ตอนนี้ ทั่วทุกแห่งหนในประเทศไทย
ตกอยู่ในภาวะ สุญญากาศ
หันซ้าย หันขวา
ไม่เจออะไร
ว่างเปล่า
ทั้งความช่วยเหลือ ทั้งวัคซีน
เสี่ยงชีวิตไปวันวัน
สุดสุดจริงครับช่วงนี้
นั่งอยู่ในห้องพัก
เสียงรถหวอ หวีดหวิว แทรกเข้ามาตลอดวันและ บางคืน
จนใจคอเราแทบปลิวไปด้วย
ช่างสะท้อนใจซะเหลือเกิน
#beforecurfew
#อยู่รอดปลอดภัยทุกคน
#prayforthailand
บรรยากาศค่ำคืน ก่อน เคอร์ฟิว
7.
วัดแม่นางปลื้ม
เจอรูปวัดนี้ ในเพจถ่ายรูปท่องเที่ยว ซึ่งดูแล้ว เห้ย มีวัดสวยสวย
ในรูปแบบปูนปั้นที่ยังคงสภาพดีอยู่หรอเนี่ย
และองค์พระพุทธรูปก้อดูสวยงาม
ตั้งใจไว้ว่า ถ้าได้มาอยุธยาวันใด ก้อจะแวะวัดนี้ซักครั้ง
และวันนั้น ก้อมาถึง
จากที่พัก มายังวัดนี้ ไม่ได้ไกลมาก
นั่งมอไซค์วิน จาก ตลาดแกรนด์ ข้ามสะพานเอกาทศรถ เข้าเมือง
และวิ่งไปทางตลาดหัวรอ
ลัดเลาะเข้าตลาด ก้อมาโผล่ที่หน้าวัดแล้ว อย่างไว
ระยะทางอยู่ใน 3 กม.
จริงจริง ตอนแรก ก้อกะจะเดินเล่นเล่นมา
แต่..เนื่องจากว่า แดดเที่ยงมันช่างร้อนแรงยิ่งนัก
นั่งรถดีกว่า อิอิ
พอมาถึงหน้าวัด
ทางเข้าวัดมีปลูกต้นไม้กระถาง และต้นไม้ริมประตู รกครึ้ม ดูร่มรื่น
และพอยืนอยู่หน้าประตูวัด มองเข้าไป ก้อโหยยยย
ตามภาพที่นำเสนอครับ
ประตูทางเข้า จะตรงกับ หน้าต่างของโบสถ์
และตรงกับ องค์พระประธาน พอดิบพอดี
ดูแล้ว มีพลังอย่างประหลาด ชวนให้อยากเข้าไปกราบไหว้องค์พระประธาน ซะจริงจริง
ซึ่งจากตำนานของวัดนี้นั้น
เปนวัดที่ ทางองค์สมเด็จพระนเรศวร ทางจัดสร้างขึ้นให้แก่ แม่ปลื้ม ซึ่งเปนหญิงชาวบ้านที่มีน้ำใจ ต้อนรับท่าน ตอนออกมานอกวัง คนเดียว
องค์พระประธาน มีชื่อว่า หลวงพ่อขาว
ซึ่งดูงดงาม และเวลาเข้าไปในบริเวณวัด
ทำให้เราดูสงบ..อย่างอัศจรรย์
เปนสถานที่อยู่กราบ และถ่ายรูป เปนชั่วโมง
โดยไม่รู้สึกเบื่อ
ถ้าไม่ติดว่า มาธุระ ถ้ามาเที่ยว ก้อคงวนเวียนหามุมถ่ายรูปอีกหลายชั่วโมง
ขอบคุณเพจถ่ายรูปท่องเที่ยว ที่ทำให้ได้เจอวัดสวยงาม
และดูสงบจิตได้...แบบนี้
ภาพจากทางเข้าวัดแม่นางปลื้ม
รายละเอียด วัดแม่นางปลื้ม อ่านตามด้านล่างครับ
👇👇👇
8.
พระมงคลบพิตร
...
ไปมาเมื่อวาน ซึ่งเปนวันแม่
ก้อเลยไปขอพรให้กับแม่
ขอกำลังใจ และทุกทุกสิ่งให้กับแม่
..
วิหารนี้ เวลามาอยุธยาทีไร ก้อต้องมากราบไหว้หลวงพ่อเปนประจำ แต่วันนี้ เนื่องจากสถานะการณ์โควิด ทำให้ไม่สามารถเข้าไปกราบไหว้องค์ท่านที่ด้านในวิหารได้
ทางวัดให้กราบอยู่ด้านประตูทางเข้าเท่านั้น ยังดีครับ ที่ทางวัดยังเปิดประตูวิหารให้ได้เหนองค์ท่าน
เปนพระที่สวยงามองค์หนึ่ง ที่ควรจะต้องมากราบไหว้เวลามาที่เมืองนี้
.
ข้อมูลตามด้านล่างครับ
พระมงคลบพิตร
9.
ด้านนอกวิหารพระมงคลบพิตร
...
เปนการบูรณะใหม่ในสมัย จอมพล ป
ดูสวยงามจริงจริง
ตะก่อน ตรงด้านหน้าลาน จะมีร้านรวง และลานจอดรถ จนด้านข้างของวิหารนี้ คือ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ได้ขึ้นทะเบียนเปนมรดกโลก
ทำให้ต้องปรับปรุงทัศนียภาพ
รื้อถอนร้านค้าออกไป แล้วไปสร้างใหม่เปนด้านข้างที่อยู่ไกลออกไปแทน
ทำให้ดูเปนสัดส่วน
..
เพิ่งจะรู้เนี่ยว่า เปนแบบนี้ ไม่ได้มาหลายปีแล้ว เปลี่ยนไปในทางที่ดีมากเลย
วิหารวัดมงคลบพิตร
10.
วัดพระศรีสรรเพชญ์
...
เปนโบราณสถานที่มีความสวยงาม จนได้เปนมรดกโลก
สมัยกรุงศรีฯ วัดนี้ เปนพระอารามหลวงในสมัยพระราชาธิบดีที่ 2
ส่วนองค์เจดีย์ สามองค์ที่เหนในภาพนั้น เปนที่สำหรับเก็บพระบรมอัฐิ ของ
พระบรมไตรโลกนาถ (พระบิดา)
พระบรมราชาธิราชที่ 3 (พระเชษฐา)
และ พระราชาธิบดีที่ 2
และวัดนี้ กลายเปนต้นแบบของ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในปัจจุบัน
..
ก้อเปนที่น่าเสียดาย
ในช่วงโควิด ทำให้ โบราณสถานทั้งหมดในอยุธยา
โดนงดเข้าชม ทำได้แต่เพียง ยืนอยู่นอกรั้วสถาน
เพ่งจิตอธิษฐาน และเกบภาพกลับมาชื่นชม
.
ประวัติของสถานที่
วัดพระศรีสรรเพชญ์ มรดกโลก
11.
พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญบรมไตรโลกนาถ
หลังจากออกจากวัดพระศรีสรรเพชญ์ และ วัดมงคลบพิตร
เจ้าส้ม น้องสาว ก้อบอกว่า เฮียเราไปวัดหน้าพระเมรุมั้ย
วัดนี้สวย...จัดไป
ขับรถไปไม่ไกล แปปเดียวก้อถึง
จอดรถเสร็จสรรพ เดินข้ามถนน เข้าประตูวัด หยิบธุปเทียนดอกไม้ กราบไหว้ที่หน้าโบสถ์
หลังจากเสร็จแล้ว เดินขึ้นไปบนโบสถ์ เพื่อนมัสการ พระประธานฯ
แรกที่เดินเข้าไป แล้วพอเห็นองค์ท่านเท่านั้น
โหหหห...สวยงามมาก สีทองอร่ามมลังเมลือง ดูเข้มขลังและสงบ
ใช้เวลากราบไหว้ ขอพร และถ่ายรูปองค์ท่านที่นี่ อยู่พักใหญ่ใหญ่
รู้สึกอิ่มใจ ที่ได้มา
วัดหน้าพระเมรุนี้ เปนวัดเดียวในอโยธยา ที่ไม่โดนเผา
เพราะพม่า เอาวัดนี้เปนที่ตั้งค่าย ตั้งปืนใหญ่ ไว้ยิ่งถล่มวังหลวง
ช่วงยุคนี้ เปนยุคก่อนเสียกรุงฯ ครั้งที่ 2 สมัย บุเรงนอง มาตีเมือง ในยุคพระเจ้าเอกทัศ
และยังเปนที่ ลงสัญญาสงบศึกกันอีกด้วย
รายละเอียดลึกลึกลองอ่านตามลิงค์ครับ
พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญบรมไตรโลกนาถ ณ วัดหน้าพระเมรุ
ประวัติ พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญบรมไตรโลกนาถ
ประวัติวัดหน้าพระเมรุ
12.
พระคันธารราฐ
...
เปนพระพุทธรูปที่สร้างจากศิลาเขียว ซึ่งมีอายุมากกว่า 500 ปี
บางตำราก้อว่าอายุเก่ากว่า สมัยสุโขทัยเปนราชธานี ซะอีก
อย่างไรก้อต้องไปอ่านตามหลักฐานอ้างอิงกันดูนะครับ
..
พระคันธารราฐ อยู่ในอาณาเขตของวัดหน้าพระเมรุ
ตั้งอยู่ในวิหารน้อย ด้านข้างของตัวโบสถ์ใหญ่
ใครที่แวะมาวัดนี้แล้ว ลองเดินมาด้านข้าง และด้านหลังครับ
มีพระที่ศักดิ์สิทธิ์ ให้กราบไหว้ขอพรกันครับ
.
ประวัติพระคันธารราฐ
👇👇👇
พระคันธารราฐ ณ วัดหน้าพระเมรุ
13.
ศาลหลักเมือง อยุธยา
อย่างหนึ่งที่จะทำเสมอ เวลาไปเยือนยัวจังหวัดต่างต่างในไทย ก้อคือ
ต้องกราบสักการะ ศาลหลักเมืองประจำจังหวัด
นัยว่า เรามากราบขอใช้สถานที่ มาพักพิง มาใช้ทรัพยากรของจังหวัด เพื่อความเปนสิริมงคล และความสบายใจของเราด้วย
เหมือนเปนธรรมเนียม ไปบ้านใคร ก้อต้องไปไหว้เจ้าบ้าน
หลังจากมาที่นี่ได้ซักพัก แล้วก้อมีเรื่องให้ขบคิดตลอดเวลาจนไม่ได้มากราบซักที
จนวันนี้ ที่พอจะเริ่มโล่งขึ้นหน่อย เลยจับมอไซค์ มายังศาลหลักเมือง ซึ่งอยู่บริเวณ อุทยานเมืองเก่า ซึ่งเปนตำแหน่ง ของวังสมัยอโยธยา
พอมาถึง ศาลหลักเมืองที่นี่ ตกแต่งอย่างดี ดูแล้วมีความเคร่งขรึม และมีกลิ่นอายของความศักดิ์สิทธิ์ ในการเปนผู้พิทักษ์ของเมืองนี้
เข้ากราบไหว้ตามหลักของสถานที่
ขอขมา ที่มาใช้สถานที่ และขอพร ให้ทุกอย่างลุล่วง
รู้สึกสบายใจ หลังได้กราบท่านเรียบร้อย
ออกมา แม่ค้าชวนซื้อลอตเตอรี่ ก้อให้เค้าหยิบมา
ถ้าถุกเราเจอกันที่นี่นะค้าบ
ศาลหลักเมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
14.
วัดพระราม
...
ออกจากศาลหลักเมือง
เดินข้ามถนนมายังฝั่งวังเก่า ก้อจะเจอกับ วัดที่มีพระปรางค์ทรงฝักข้าวโพด อันสวยงาม
- อันว่า พระปรางค์ทรงฝักข้าวโพดนั้น (ตามที่เซียนพระเค้าเรียกกัน) เปนศิลปะสมัยลพบุรี (หรือ ละโว้) ที่มีอิทธิพลมายังสมัยอโยธยาตอนต้นด้วย
ส่วนถ้าเปนทรงอื่น เช่นทรงลังกาคว่ำ หรืออื่นอื่นนั้น ต้องไปอ่านประวัติกันอีกรอบนะครับ อิอิ
..
และก้อเช่นเคย ที่นี่ยังไม่เปิดให้เข้าชม
ทำได้ก้อเพียงแต่ยืนมองภายนอก และหาเหลี่ยมมุมเกบภาพ ซึ่งมุมนี้ มีคูน้ำพอดี ก้อเลยได้ภาพที่ดูร่มรื่น ท่ามกลางแดดเที่ยง (เพราะมีน้ำ มาเบรกนั่นเอง อิอิ)
.
ถ้าเปนช่วงที่ไม่ใช่โควิด คาดว่า คงไม่มีโอกาสได้ปักหลักเกบภาพแบบ ไร้ผู้คนเช่นนี้เปนแน่แท้
มีโอกาส ก้อออกมาชื่นชมความความท่ามกลางความเงียบ และป้องกันตัวเองอย่างเตมพิกัด
ประวัติของวัดพระราม
วัดพระราม ด้านติดกับบึงพระราม
15.
วัดเชิงท่า
...
วัดนี้ ได้รับการแนะนำจาก เพื่อนสยาม ให้มาเพราะว่า มีสิ่งที่ควรค่าแก่การมาสักการะ นั่นคือ พระเจ้าตากสินมหาราช กษัตริย์ผู้กอบกู้ชาติ นั่นเอง
..
ความสำคัญของวัดนี้คือ เปนวัดที่ พระเจ้าตากสิน ตอนยังทรงพระเยาว์ มีนามว่า สิน..
เจ้าพระยาจักรี ได้นำท่าน มาฝากยังพระอาจาร์ยทองดี เพื่อให้ศึกษา และพอได้อายุบวช ก้อให้บวช ณ ที่นี้
ดังนั้น ที่วัดนี้ จึงเปนที่ให้ความรู้ทั้งทางโลก และทางธรรม แก่พระเจ้าตากสินนั่นเอง
ประวัติความเปนมาของวัดเชิงท่า มีหลายแบบ
ลองหาอ่านกันดูครับ
ในรูปคือ โบสถ์เก่าที่โดนเผาทำลาย และทรุดโทรมไปตามกาลเวลา เปนโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากรเรียบร้อย
เจดีย์ ก้อได้รับอิทธิพลจาก ลพบุรี เหมือนเดิม เพราะเปนการสร้างในช่วงอยุธยาตอนต้น
เสียดาย ที่ตอนนี้ ศาลาการเปรียญ และที่พำนักช่วงพระเจ้าตากสินทรงผนวช ปิดเพราะโควิด
อดเลย
โอกาสหน้ามาเยือนใหม่
.
ได้มาขอพรกับพระมหากษัตริย์ไทย
ทำให้จิตใจที่วุ่นวายดูสงบลง
เจดีย์เก่า ณ วัดเชิงท่า
16.
วัดภูเขาทอง
วัดนี้ ได้รับคำแนะนำจาก เพื่อนสยาม อีกเหมือนกันว่า สวยมาก
ออกจากที่พักเวลาเดิม หลังเที่ยง เพราะว่าต้องฟังผลก่อน ค่อยจะมีอารมณ์สงบ มาไหว้พระ
นั่งมอไซค์วินมาระยะทางไกลพอสมควร ประมาณเกือบ 5 กิโล ก้อถึงวัด
แต่ แต่ แต่
ทางเข้าวัดจากทาง อนุสาวรีย์พระนเรศวรมหาราช ที่เปนสวนสาธารณะด้วยนั้น...ปิดครับ
เปิดอีกที 31 สิงหาคม
เนื่องจากว่า ทางสถานที่เจอเคสโควิด จากคนงานที่มาทำงานปรับปรุงภูมิทัศน์
เห้ออออ กระจายดีแท้ไอ้โควิดเอ้ยยยยยย
ก้อไม่เปนไร พี่มอไซค์ก้อพาวนไปทางเข้าหน้าวัด ซึ่งห่างไปอีก โลกว่ากว่า
พอไปถึง เดินเข้าไปในลานวัด
โอ้...อุโบสถกลาง กำลังปรับปรุงอีกเหมือนกัน น่าจะโดยกรมศิลป์ เข้าไม่ได้ตามเคย ได้แต่ยืนมองรอบรอบ
ยังงัยยังงัย สุดท้าย
เดินไปท้ายโบสถ์ ก้อเจอกับ เจดีย์สูงใหญ่ ขาวเด่นเปนสง่า
เมื่อแรกเหน ยืนดูทรงเจดีย์แล้ว ก้อดูแปลกตา เพราะไม่รู้ว่า เปนศิลปะจากไหน
พอได้อ่านประวัติถึงรู้ว่า
เจดีย์องค์นี้ เปนการสร้างโดย พระเจ้าบุเรงนอง แห่ง หงสาวดี นัยว่า ได้รับชัยชนะจากการรบพุ่งต่อ กรุงศรีฯ เมื่อครั้งเสียกรุง ครั้งที่ 1 ปี 2112
ดังนั้น ทรงเจดีย์ครั้งแรกนั้น
จะเปนแบบ มอญผสมพม่า
และต่อมา
เมื่อ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้ทำการกอบกู้เอกราชคืนกลับมา จากพม่า เมื่อชนะแล้ว ในปี 2127
ก้อได้ สร้างเจดีย์ทรงไทย ครอบบนฐานเดิม
เลยทำให้ ด้านบนเจดีย์ เปนทรงไทย
ฐาน เปนทรงมอญ
สวยงามแปลกตาดีจริงจริง
เจดีย์วัดภูเขาทอง
คิดเอาเองนะครับว่า
ที่ท่านสร้างเจดีย์ ไว้บนฐานเดิมที่เปนมอญ
อารมณ์เหมือน
กุข่มเมิงเว้ย กุชนะเมิงงัย ชนะอยู่บน สร้างครอบซะเลย
มั้งครับ
อารมณ์ของคนชนะ มันพลุ่งพล่านครับ✌
ข้อมูลวัดภูเขาทอง จากด้านล่างครับ อ่านเพิ่มเติมได้จากด้านล่างครับ
.
สวยงามสมคำร่ำลือจริงจริงครับ
ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้าง สมกับที่สร้างสำหรับประกาศชัยชนะ ของทั้งสองฝ่าย
17.
พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ทุ่งภูเขาทอง
สถานที่รบกับพม่า แล้วเกบชัยชนะได้
จากวัดภูเขาทอง
บ่ายหน้ามุ่งมายัง พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อจะมาสักการะ บุรพกษัตริย์ ผู้กอบกู้ชาติ
ทางเดินมา ไม่ยากเลยครับ จากวัด จะมีทำสะพานเล็กเล็กข้ามคู เข้ามายัง อนุสาวรีย์ฯ ได้เลย
แต่ช้า..แต่
เดินเข้ามา เกือบจะถึงอยู่แล้ว โดนยามสกัดดาวรุ่ง
ห้ามเข้าครับ
เพราะปิด
เราก้อบอกว่า ขอเดินตัดทางเข้าไปหน่อย เพราะว่า ไม่ได้ขับรถมา มามอไซค์ จะเดินไปหารถกลับ
ยังงัยก้อไม่ให้เข้า นี่ขนาดเดินเท้านะเนี่ย
เวรกรำ
สุดท้าย...ต้องเดินอ้อมครับ
เดินกลับไปทางวัด ขึ้นไปยังถนนใหญ่ เดินเลาะไหล่ทางไปเรื่อยเรื่อย นับก้าว ข่มใจเดินไป ทำใจให้สบาย เดินคิดไปเรื่อยเรื่อย เหมือนว่า เออ คิดว่า เหมือนการเดินทัพ ประมาณว่า ระยะจากวังหลวง มายังทุ่งภูเขาทอง ระยะทาง ประมาณ 2 กิโลเมตร
ขนาดเดินตัวเปล่า สะพายกล้องตัวเดียว กับแดดเที่ยง ยังขาลาก เหงื่อโทรมกาย
แล้ว ถ้าเปนสมัยโน้น
เดินทัพตอนเที่ยง พร้อมใส่ชุดหนักหนัก แบกอาวุธ แถมลุยป่า ลุยหญ้า ไม่มีถนนให้เดินแบบนี้อีกตะหาก
โหยยยย
ของเรานี่ จิ๊บจิ๊บไปเลย
ก้อเลย เดินต่อไปด้วยความสบายใจ เพลินเพลิน เมื่อได้นึกถึงเรื่องแบบนี้
กลายเปนว่า มาเมืองนี้สองวีคเข้าแล้ว ศึกษาประวัติศาสตร์จากการเที่ยววัด ได้ฟืนฟูความรู้ที่ทิ้งไปนาน ได้แคะส่วนที่ชอบออกมาใช้งาน
ดีต่อใจ จริงจริงครับ สำหรับการมาคราวนี้
(แต่เหนื่อย และลุ้นทุกวันเหมือนกันครับ)
และเมื่อเดินอ้อม จนมาถึงปากทาง
ก้อเช่นเคยครับ ไม่สามารถเข้าไปกราบสักการะได้
เลยได้แต่ยืนอยู่หน้าปากทางเข้า มองเหนองค์ท่านไกลไกลไกล มากกกก
ยกมือไหว้ อธิษฐานขอพร
จากนั้นก้อขอเกบภาพกลับมา เล่าเรื่อง
ให้กับเพื่อนเพื่อน เผื่อว่า จะได้ซึมซับบรรยากาศ
และอยากมาเยือนเมืองนี้ มากราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่มีทั้งเมืองแบบนี้
และ
ได้มายืน อยู่ยังทุ่งภูเขาทอง ที่ครั้งนึง
เคยเปนสมรภูมิรบ อันเกรียงไกร ของกษัตริย์ไทยผู้มีฤทธิ์เดชา
อนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ฉากหลังเปนเจดีย์วัดภูเขาทอง
ประวัติทุ่งภูเขาทอง
18.
อนุเสาวรีย์พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
วัดหันตรา
วันก่อน ได้เหนป้ายตรงข้างทางว่า มีเส้นทางเดินทัพของพระเจ้าตาก อยู่กับป้ายวัดหันตรา
กลับมาที่พัก เลยมาเปิดกูเกิ้ล หาข้อมูล
ก้อเลยได้เจอเส้นทางเดินทัพของพระเจ้าตาก ที่ตีฝ่าวงล้อมของพม่า เพื่อออกจากอโยธยาศรีรามเทพ ไปยัง จันทรบูร เพื่อรวบรวมไพร่พล กลับมาสู้รบกับพม่า เพื่อกู้ชาติ ในภายภาคหน้าต่อไป
หะแรก ตั้งใจว่า จะไปยังวัดมเหยงค์ แล้วย้อนมาทางวัดหันตรา เพราะว่า จะไปวัดไกลก่อน ค่อยมาใกล้ที่พัก แต่ แต่ แต่
พอไปถึงวัดมเหยงค์...ปิดครับ ปิดไปยาวยาว
เซงกันไป ก้อเลยนั่งรถต่อมายังวัดหันตรา
ลงรถแล้ว
เจอพระบรมรูปของ พระเจ้าบรมโกศ อยู่ด้านหน้าของวัด ก้อเลยไปยืนอ่านประวัติ ความตามพงศาวดารว่า
ณ ที่แห่งนี้นั้น เพลานั้น เปนทุ่งหันตรา ซึ่งเปนทุ่งนาหลวง เปนที่เกบเกี่ยวผลผลิตส่งเข้าวัง เพื่อเปนเสบียง
และ ยังเปนที่กำเนิดของพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่อีกพระองค์นึง คือ พระบรมไตรโลกนาถ นั่นเอง
ส่วนประวัติอื่นอื่น ลองอ่านตามข้อมูลด้านล่างครับ
👇👇👇👇
และส่ิงที่แปลกตาอีกอย่างคือ
โบสถ์ที่นี่ เปนโบสถ์ที่มีประตูทางเข้าเพียงทางเดียว ไม่มีประตูหลัง ไม่มีหน้าต่าง
ซึ่ง โบสถ์นี้ ได้ถูกขนานนามว่า
โบสถ์มหาอุด
ซึ่งสันนิษฐานว่า อาจจะเปนสถานที่ ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด สำหรับปลุกเสกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สำหรับใช้ในการปลุกใจในการออกรบ ในสมัยนั้น
ถึงว่า
ตอนเข้าไปกราบขอพร พระประธาน ซึ่งมีนามว่า
พระพุทธอนันตชินราช
ดูสงบเงียบจริงจริง
เปนเพราะ ไม่มีหน้าต่างนั่นเอง
นับว่า วัดนี้เปนวัดเก่าแก่ ในช่วงอยุธยาตอนปลาย ก้อร่วมร่วม 500 ปี เหมือนกัน
และยังเปนเส้นทาง สู้รบกับพม่า จุดที่ 2 ของพระเจ้าตาก หลังออกจาก เมืองหลวงอีกด้วย
โอกาสหน้า อยากไปตามเส้นทางเดินทัพของพระเจ้าตาก ซักที เสียดายที่ บางจุดวัดก้อปิด ทำให้วันนี้เลยไปได้แค่จุดเดียว แล้วกลับที่พัก
พรุ่งนี้จะลองดูว่า จุดตีฝ่าวงล้อมจุดแรก ของพระเจ้าตาก วัดนี้จะเปิดให้เข้าไปชมหรือไม่
เส้นทางเดินทัพของ พระเจ้าตาก หลังจากฝ่าวงล้อมจากพม่า
👇👇👇👇
อนุเสาวรีย์พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ณ วัดหันตรา
19.
เจดีย์วัดสามปลื้ม
AKA
"วัดนักเลง"
ใครที่ผ่านไปผ่านมา ยังอยุธยา
สิ่งหนึ่งที่จะเหน ก่อนที่จะข้ามสะพาน สมเด็จพระนเรศวร ข้ามแม่น้ำป่าสัก เข้าไปยังตัวเมือง ก้อคือ
เจดีย์ใหญ่ ตั้งเด่น กลางถนน
ที่ไปที่มา ก้อคือ
ตะก่อนนั้น ทั่วทุกหัวระแหงในเมืองอยุธยา จะมีแต่วัด และวัด วางตัวเรียงราย ติดติดกัน เตมไปหมด
และเมื่อครั้งเสียกรุง และโดนเผาเมือง 9 วัน 9 คืน จนพินาศย่อยยับ
และผ่านกาลเวลามากว่า 500 ปี
พื้นที่ที่เปนวัด เปนวัง ก้อสูญสลายไป
บางทีก้อเกิดจากการ ขุดค้นหาวัตถุโบราณไปขาย จากชาวบ้าน หรือการจับจองพื้นที่สำหรับ ปลูกบ้าน ปลูกพืชผล. ฯลฯ
และ เมื่อเข้าสู่ยุคปัจจุบัน
เมื่อทางการ ต้องการขยายถนน เข้าสู่เมือง ก้อมีการตัดถนนเพิ่มเติม และบังเอิญว่า ถนนสายนี้จาก
เส้น เอเชีย ต้องตัดผ่านพื้นที่วัดสามปลื้ม
แต่เนื่องจากวัดนี้ เหลือแต่ เจดีย์อยู่องค์เดียว
และได้มีคนพื้นที่ ไม่อยากให้ทำลายโบราณสถาน
ทางราชการ และทางหลวง เลยได้ตัดถนน อ้อมตัวเจดีย์ โดยทำเปนวงเวียนแทน
จึงเปนที่มา ของเจดีย์ที่ตั้งขวางถนนอยู่เช่นนี้
และเปนที่มาของคำว่า
"วัดนักเลง"
เพราะ
ตั้งขวางทาง ไม่เกรงกลัวใคร
ทุกคนต้องยอม อ้อมหลบให้
ประมาณนั้น
ก้อเปนตำนานที่เล่าขานกันมา และอาจจะมีการเสริมเติมแต่งให้ดูสนุกสนาน ตามนิสัยคนไทยครับ
ประวัติความเปนมา ของเจดีย์วัดสามปลื้ม
👇👇👇👇
เจดีย์วัดสามปลื้ม หรือ "วัดนักเลง"
20.
หลวงพ่อใหญ่
วัดพิชัยสงคราม
วันนี้ เดินทางไปยังจุดที่ พระเจ้าตาก ตีฝ่าวงล้อมทัพพม่า ออกจากเมืองหลวง
จุดนี้เปนจุดแรก ที่พระเจ้าตาก มาพักทัพ และรบกับพม่าได้ชัยชนะยกแรก ณ ที่แห่งนี้
ตำแหน่งนี้ สมัยนั้น ชื่อว่า ค่ายพิชัย หรือเปน วัดพิชัยสงคราม ในปัจจุบันนี้นี่เอง
แต่เปนที่น่าเสียดาย
พระบรมอนุเสาวรีย์ของพระเจ้าตาก
ไม่เปิดให้เข้าชม และสักการะ เนื่องจากสถานการณ์โควิด ก้อได้แต่ยืนไหว้อยู่ ขอพร อยู่ด้านนอก
จากนั้น
เดินเข้าโบสถ์ ไปนมัสการ พระองค์ใหญ่ ซึ่งเปนพระประธานของวัดนี้
ประวัติของ พระองค์ใหญ่
เปนพระพุทธรูป ที่พระเจ้าตาก ได้สักการะ ขอพร ให้ได้กลับมากอบกู้กรุงศรีอยุธยา
ซึ่งพรนั้น ก้อสัมฤทธิ์ผล ในอีก 7 เดือนต่อมา
ท่านสามารถรวบรวมไพร่พล จากทางจันทบูร
นำทัพกลับมาตีเมืองคืน
และนำชาติ กลับมาเปนไท อีกครั้ง
การมาอยู่อยุธยารอบนี้
การได้เดินชมโบราณสถาน พร้อมกับได้อ่าน ได้พูดคุยกับคนพื้นที่ในแถบนั้น
เปนเรื่องที่เพลิดเพลินยิ่งนัก
ทำให้สิ่งที่เคยหลงไหลในอดีต
ได้กลับมาอีกรอบ
ประวัติของวัดพิชัยสงคราม
👇👇👇👇
ปอลิง
พระพุทธรูป ณ ปัจจุบัน
เปนการสร้างครอบ องค์พระเดิม
วัดนี้ สร้างช่วงอยุธยาตอนปลาย
ปัจจุบัน ได้ขึ้นทะเบียนเปนโบราณสถาน เรียบร้อย
หลวงพ่อใหญ่ วัดพิชัยสงคราม
21.
เจดีย์พระศรีสุริโยทัย
วัดสวนหลวงสบสวรรค์
วันนี้ ความตั้งใจแรก คือ ไปยังโบสถ์ยอแซฟ ที่เพื่อนสยาม แนะนำ
แต่พอดั้นด้นไปถึง
ปรากฏว่า...ปิดอีกแร้ววว คับท่าน
เซงกันไป
ก้อเลย บึ่งมอไซค์กลับ แต่ระหว่างทางที่กลับนั้น
บังเอิญเหลือบไปเหน อนุสาวรีย์สีทอง สูงเด่นเปนสง่า
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
นึกขึ้นได้ว่า ที่เราเหน คือ ที่เราอยากจะมาเมื่อหลายวันก่อน
วันนี้ได้มาแล้ว
นั่นคือ
เจดีย์พระศรีสุริโยทัย
ณ ที่ตรงนี้ ตามพงศาวดาร ได้กล่าวไว้ว่า
เปนที่จัดทำพระราชพิธี ทำพระเมรุถวายพระเพลิง
พระบรมศพ สมเด็จพระศรีสุริโยทัย
หลังจากการ ออกรบ ณ ทุ่งมะขามหย่อง แล้วโดน พระเจ้าแปร แห่งหงสา ฟันร่างขาด สิ้นพระชนม์บนคอช้าง
ซึ่งวีรกรรมของท่านนั้น เปนที่กล่าวขานถึงมาจนปัจจุบัน
และ
ทางสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
ได้ทรงสร้าง วัด และเจดีย์ขึ้น
เพื่อบรรจุ พระบรมอัฐิของพระศรีสุริโยทัย
ณ ที่แห่งนี้
(แต่หลังจากเสียกรุงครั้งที่ 2
วัดและเจดีย์ได้ถูกทำลายไปเปนส่วนมาก
ที่เหนตามปัจจุบัน คือ ได้รับการบูรณะ ใ่นช่วง
รัชกาลที่ 5)
มาอยุธยาก้อบ่อย แต่ไม่เคยได้มาแถบนี้เลย
ครั้งนี้ นับว่าเปนบุญหัว ที่ได้มากราบขอพร
ให้กับคนที่เรารัก
ให้ปลอดภัย หายโรค แข็งแรง ในเร็ววัน
ประวัติของ เจดีย์พระศรีสุริโยทัย
👇👇👇👇
เจดีย์พระศรีสุริโยทัย
22.
วัดโลกยสุธา
หรือ
วัดพระนอน
...
หลังจากไหว้ขอพร กับ เจดีย์พระศรีสุริโยทัย แล้วนั้น
พี่มอไซค์ก้อบอกว่า
ไปถ่ายรูปพระนอนมั้ย
จัดไปซิคับ ลูกพี่ ถ้ามันเปนทางกลับที่พัก
จากตรงนั้น
ไปอีกไม่ไกล ก้อมาถึง
เปนพื้นที่โล่งโล่ง
มีเจดีย์ และ พระนอน วางตัวอยู่กลางแจ้ง
ที่เปนเช่นนี้ ก้อเพราะ โดนเผา และกาลเวลาทำลายลงเช่นเดียวกับที่อื่นอื่น
..
มาถึง ณ ที่ตรงนี้ คุ้นคุ้นว่า เหมือนเคยมาเมื่อนานมาแล้ว แต่ มาตอนนี้ ไม่มีผู้คน
ก้อยืนไหว้ขอพร พร้อมกับ ถ่ายรูปมาเกบไว้
เปนองค์พระนอน ที่ดูใหญ่โตมาก
ตามประวัติ
เปนพระนอน ที่ใหญ่ที่สุดใน อยุธยา
พาลคิดไปถึงสมัยโบราณว่า
โบสถ์ที่สร้างคลุมองค์พระ คงจะใหญ่โต สวยงามเปนแน่แท้
.
รายละเอียด วัดพระนอน
จากป้ายอธิบายหน้าวัด ดังนี้
👇👇👇👇
- วัดโลกยสุธา หรือ วัดพระนอน
ตั้งอยู่ในเกาะเมืองอยุธยาด้านทิศตะวันตก
ติดกับวัดวรเชษฐาราม ทางด้านทิศใต้ ในตำบลประตูชัย. อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- จากประวัติศาสตร์ความเปนมาไม่ปรากฏหลักฐานการก่อสร้างว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่จากการศึกษาเปรียบเทียบรูปแบบทางสถาปัตยกรรมของปรางค์ประธานภายในวัดที่คล้ายคลึงกับพระปรางค์วัดราชบูรณะ พระปรางค์วัดมหาธาตุ และพระปรางค์วัดส้ม ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น วัดแห่งนี้จึงน่าจะสร้างขึ้นในช่วงสมัยอยุธยาตอนต้นเช่นเดียวกัน
- ลักษณะรูปแบบแผนผังของวัดวาวางตัวตามแนวแกนทิศตะวันออก-ทิศตะวันตก มีปรางค์ประธานตั้งอยู่เปนจุดศูนย์กลางของวัด ด้านหน้าปรางค์ประธานมีวิหารสามหลังตั้งเรียงกัน ด้านหลังปรางค์ประธานเปนอุโบสถ และวิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์
- จากการขุดค้นทางโบราณคดีในบริเวณพื้นที่วัด พบว่าวัดโลกยสุธา เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ในสมัยอยุธยาตอนต้น และมีการใช้ประโยชน์พื้นที่ภายในวัดเรื่อยมา จนถึงสมัยอยุธยาตอนปลายในปี พ.ศ. 2497.
ได้มีการบูรณะองค์พระพุทธไสยาสน์ โดยการก่อหุ้มองค์พระใหม่ทั้งองค์ พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนรูปแบบ
เศียรองค์พระ เปนแบบพระพุทธรุปทรงเครื่องอย่างที่เหนในปัจจุบัน
ข้อมูลจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
👇👇👇👇
พระนอน ณ วัดโลกยสุธาราม
23.
I've got someone waiting for me
And when I see her I know that she'll say
Hey, hey, hey, it's a beautiful day
...
This is my, my, my, beautiful day
❤❤❤
LOTUS
24.
วัดมหาธาตุ
ส่วนที่ 1
...
วันนี้ ก้อยังคงอยู่ ณ ที่นี่
รอดูกันวันต่อวันไป
ก้อตามนั้นครับ
เดินดูเมืองกันต่อ
..
หลังจาก พาน้องกะอา ไปไหว้หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง / ไหว้ศาลหลักเมือง / ไห้วพระขาว วัดหน้าพระเมรุราชิการาม
จากนั้น ก้อมุ่งหน้ากลับที่พัก
ทางผ่านนั้น ได้ผ่าน วัดที่ใหญ่ที่สุดวัดนึงในอยุธยา ซึ่งก้อคือ วัดมหาธาตุ นั่นเอง
อาณาบริเวณ ก้อเปนขอบเขตรั้ววังในสมัยอยุธยา
เปนวัดที่มีความสำคัญ เปนสถานที่จัดพระราชพิธีต่างต่าง และเปนที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุด้วย
ในภาพ
เกบมาเพียงเสี้ยวเดียวของสถานที่อันกว้างใหญ่
ไว้มีเวลา จะเดินเกบมุมต่างต่าง
แต่เสียดายที่เดือนนี้ ก้อยังเข้าโบราณสถานไม่ได้อยู่ดี ได้แต่เลาะเล็มริมรั้ว
ทั้งที่ใจก้ออยากเดินเข้าไป
แต่ก้อนะ
ยังมีรถทะเบียน กอทอมอ
จอดเรียงราย แล้วหอบลูกจูงหลาน ข้ามเขตห้ามเช้า ไปเซลฟี่เปนที่สนุกสนาน
ไม่มีป้าย
ไม่ใช่เข้าได้ตามอำเภอใจนะครับ
หัดอ่านหัดฟังเรื่องส่วนรวมด้วย
สังคมถึงจะอยู่กันได้
ในช่วง นิวนอร์มอล แบบนี้
ฝากไว้ให้คิดครับ
.
ประวัติของวัดมหาธาตุ
👇👇👇👇
หมู่เจดีย์ในวัดมหาธาตุ
25.
ศาลพระภูมิ รพ.ราชธานี
..
เช้าวันอาทิตย์
อากาศดีดี แดดแรงแรงเยี่ยงนี้
ก้อต้องมาไหว้ขอพร กับพระภูมิเจ้าที่
ขอให้สิ่งดีดี กับคนที่เรารัก
ให้ปลอดภัย หายไวไว แขงแรงกลับมาเหมือนเดิม
.
เมื่อเคารพพระภูมิสถานที่เรียบร้อย
ถึงเวลาเดินทาง
ศาลพระภูมิ ณ รพ.ราชธานี
26.
วัดมหาธาตุ
ส่วนที่ 2
...
หลังจากเมื่อวานนี้ ได้ถ่ายบางส่วนของวัดมหาธาตุไปแล้ว
วันนี้...กลับไปอีกรอบ
ไปเดินวนรอบ หามุมเกบภาพจากด้านนอกกำแพง
ได้หลายรูปเหมือนกัน
..
รูปนี้ เปนพระปรางค์ที่ดูสวยงามแปลกตามาก
โดยรวมแล้ว
พระปรางค์ของวัดมหาธาตุ ได้รับอิทธิพลมาจากทาง ศิลปะขอม
ทรงจะออกไปทาง นครวัด ประมาณนั้น
ดูงดงาม อ่อนช้อยครับ
ขนาดเปนซากโบราณสถาน ยังเหนเค้าความงามขนาดนี้
ถ้ายังสมบูรณ์อยู่เนี่ย ไม่อยากจะคิดว่า จะอลังการ ขนาดไหน
.
เดินหามุมเกบภาพต่อไป
บางส่วนของเจดีย์อันสวยงาม ของวัดมหาธาตุ
27.
วัดมหาธาตุ
ส่วนที่ 3
...
เดินเลาะกำแพงมาอีกเล็กน้อย
จะเจอ พระปรางค์สามยอด ที่สวยงาม
ยังนับได้ว่า ดูสมบูรณ์ ลายปูนปั้น ยังชัดอยู่
อาจจะเพราะจากการบูรณะ หรือไร ก้อไม่ทราบได้
แต่ยังคงความงามได้ขนาดนี้ เยี่ยมยอดครับ
..
พอมองจากมุมนี้เข้าไป
จะเหนหมู่เจดีย์ พระปรางค์ วางเรียงรายกันอย่างมีระเบียบ ดูจากมุมไหน ก้อไม่ได้บดบังความงามของกันและกัน
.
เดินหามุมถ่ายรูปต่อไป
บางส่วนของหมู่เจดีย์ ณ วัดมหาธาตุ
28.
วัดราชบูรณะ
...
เดินจบครบรอบของวัดมหาธาตุ
เมื่อเข้าไม่ได้ ก้อเดินครบรอบไป
ด้านในของสวยงามเยอะแยะก้ออดไป
ก้อเลย ต้องข้ามถนน มายังวัดอีกแห่งที่สวยงามไม่แพ้กัน
คือ
วัดราชบูรณะ
..
วัดนี้เปนวัดที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง
และที่ทำให้ที่นี่โด่งดังไปทั่วไทยและทั่วโลกคือ
มีการขุดกรุ ซึ่งมีพระเครื่องเปนแสนองค์
ทองคำอีกเปนร้อยกิโล
อีกทั้งพระทองคำ และที่สำคัญ
ยังมีพระบรมสารีริกธาตุ บรรจุในพระปรางค์ทองคำ ด้วย
โอ้โห ฟังแบบนี้แล้ว ขนลุกครับ
ส่ิงของทั้งหมดนั้น
แรกที่เดียว พวกโจร ก้อได้มาลอบขุดเอาไปขายกันไปซะก่อนที่กรมศิลป์จะเข้ามาจัดการ (มาช้าทุกทีเลยวุ้ย พระเอกของเรา)
สุดท้าย ตำรวจก้อตามของได้
แต่ ไม่ครบ
ไปแล้วบางส่วน ตามสภาพครับ
ไปอยู่ในมือใครบ้างก้อไม่รู้
แต่มีในข้อมูลว่า มีของบางสิ่งที่สำคัญตกอยู่ใน museum เมืองนอก
คล้ายคล้าย เรื่อง ทับหลัง ยังงัยไม่รู้ซินะ
..ตามสภาพของการทำงานของราชการครับ
และที่นี่ ก้อเข้าไม่ได้อีกเช่นเคย
ได้แต่ยืนเกบภาพนอกรั้วเหมือนเดิม
ภาพแรก เอามุมประตูทางเข้ามาฝากกันก่อนละกันครับ
.
ข้อมูลวัดราชบูรณะ
👇👇👇👇
ข้อมูลเรื่องกรุสมบัติของวัดราชบูรณะ
👇👇👇👇
ทางเข้าวัดราชบูรณะ
29.
พระปรางค์วัดราชบูรณะ
...
เดินมาตรงมุมด้านข้างของตัววัด
ด้านนี้ กำแพงต่ำ ทำให้สามารถยืนถ่ายภาพพระปรางค์ได้อย่างชัดเจน
..
ตัวปรางค์ ก้อยังคงเปนศิลปะทางขอม เหมือนเดิม
ซึ่งหลังจากเดินดูมาหลายวัน งานก่อสร้าง คล้ายกับหยิบยืม
รูปแบบของ นครวัด มาจัดทำ
เช่น
บันไดทางขึ้น จะชัน และเกือบตั้งตรง
ซึ่งอันนี้นั้น เคยฟังไกด์ที่นครวัด อธิบายว่า
เวลาเราจะขึ้นไปไหว้พระบนนั้น
จะเหมือนเรากราบขึ้นไปตลอดเวลา เพราะเกือบจะเหมือนการปีนบันได
ซึ่งทั้งแคบ และชัน หน้าเราก้อจะต้องก้มอยู่ตลอดเวลา
ประมาณนั้นครับ
.
วัดนี้ เดินได้แค่สองสามมุมเท่าที่จะอำนวย
รอเวลาเปิดเหมือนเดิม
เจดีย์องค์ประธาน ณ วัดราชบูรณะ
30.
วัดธรรมิกราช
...
จากวัดราชบูรณะ
วันนี้ตั้งใจจะไปวัดนี้ หลังจากที่ผ่านไปมาสองสามรอบ แต่ยังไม่ได้แวะซักที
พอถ่ายภาพจากวัดราชบูรณะ เสร็จ
ก้อเดินเรื่อยเปื่อย ไปเรื่อยเรื่อย ประมาณโลนิดนิด ก้อถึง
..
วัดนี้ มีความสำคัญคือ มีการค้นพบ เศียรพระธรรมิกราช ซึ่งสร้างจากสำริด
มีขนาดใหญ่มาก ซึ่งตอนนี้ เกบรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑ์สามพระยา ในอยุธยา
และ โบสถ์ของวัดนี้ ยังคงสภาพได้พอสมควร ยังเหนได้ถึงความใหญ่โต และสวยงามของโครงสร้าง
เดินวนเวียนในวัดหนึ่งรอบ ดูสงบเงียบดีจริงจริง
ยังพอเหน นทท จากหลายจังหวัด แวะเวียนมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในแต่ละที่พอสมควร
ก้อ เว้นระยะกันหน่อยละกันครับ และอย่าออกนอกพื้นที่บ่อย
ช่วงนี้ มันเสียวจริงจริง กับเจ้าโควิด สายพันธุ์เดลต้า ตัวนี้
อ่านข่าวสองสามวันนี้ว่า เปน Airbourne ยิ่งเหวอ
ขอให้อยู่รอดปลอดภัย
จนกว่า..จะถึงวันนั้น
.
กลับที่พัก พักขา
ไว้หาที่ถ่ายรูป พร้อมบรรยายประวัติกันใหม่
หวังว่า คงชอบใจกันบ้างนะครัช
ประวัติวัดธรรมิกราช
👇👇👇👇
โบสถ์วัดธรรมิกราช
31.
SOMEDAY
I WILL GROW UP
😄😄😄
เห็ดน้อย อยากโตเปนใหญ่ในวันพรุ่ง
32.
วัดสุวรรณดารามราชวรวิหาร
...
วันนี้ตั้งใจมาที่วัดนี้ หลังจากได้อ่านประวัติ
ชื่อวัดนี้ ก้อดูงดงาม น่ามาเยือน
หลังจากเรียกมอไซค์ มาส่งที่วัดนี้ จากที่พักไม่ไกล
แต่วันนี้ ร้อนมากมาก เรียกได้ว่า ยืนเฉยเฉยเหงื่อตกซิกซิก
นี่ขนาดวัดอยู่ใกล้แม่น้ำป่าสัก ยังแทบจะไม่มีกระแสลมเลย
ลงรถได้ ก้อรีบเดินจ้ำเข้าไปยังตัวโบสถ์ เพื่อหลบไอแดด
จากนั้น เดินเข้าไปกราบนมัสการ พระประธานในโบสถ์
..
โบสถ์ที่ถ่ายรูปมานี้ เปนโบสถ์ที่บูรณะขึ้นมาใหม่ หลังจากเสียกรุงฯ ครั้งที่ 2
ซึ่งประวัติของวัดนี้ เปนวัดที่ พระบิดา ของพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก หรือ รัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี เปนผู้สร้าง
หลังจากที่ ได้สถาปนา กรุงเทพฯ เปนเมืองหลวงแล้วนั้น ทางรัชกาลที่ 1 ได้มาบูรณะวัดนี้ให้กลับมามีสภาพที่สวยงามดุจเดิม
เดิมที วัดนี้ชื่อว่า "วัดทอง"
ได้มาเปลียนชื่อเปน "วัดสุวรรณดาราม" ในรัชสมัยของพระองค์นั่นเอง
และวัดนี้ ก้อได้บูรณะก่อสร้างมาเรื่อยเรื่อย จนถึง รัชกาลที่ 7
เรียกได้ว่า เปนวัดประจำ ราชวงศ์จักรี วัดนึง
.
โบสถ์ที่เหนนี้ น่าจะเปนโบสถ์ที่ก่อสร้างใหม่
ส่วนโบสถ์เก่าสมัยอยุธยา เหนกำลังล้อมผ้า ปรับปรุงกันอยู่
เสียดายจัง อดเหนภาพวาดจิตรกรรมฝาผนัง ที่กล่าวกันว่า
งดงามและมีพลัง อีกแห่งนึง อายุก้อร่วมร่วม 200 ปี พอพอกับ วัดพระแก้วที่ กรุงเทพฯ ได้เลยทีเดียว
ประวัติวัดสุวรรณดาราม
👇👇👇👇
โบสถ์วัดสุวรรณดาราม
33.
พระประธานในวัดสุวรรณดาราม
ดูงดงาม
โถงในโบสถ์ตกแต่งสวยงามด้วยภาพวาดเตมทุกผนัง
นี่ถ้าได้เข้าไปที่โบสถ์เก่าที่กำลังปรับปรุง
คงจะตะลึงยิ่งกว่านี้แน่
พระประธานในโบสถ์วัดสุวรรณดาราม
34.
วัดกุฏีดาว
...
หลังออกจากวัดสุวรรณดาราม
อีกวัดนึงที่อยากจะมาถ่ายภาพ ก้อคือวัดนี้
วัดกุฏีดาว
..
จากครั้งแรกนั้น ยังไม่รู้จักวัดนี้
แต่ซัก สามสี่วันก่อน ได้ตั้งใจมายังวัดมเหยงค์...แต่ปิด
ต้องเบนหัวกลับ แล้วพอออกมาจากซอยวัด ก้อมาเจอวัดนี้ อยู่ตรงข้ามพอดี ซึ่งพอเหนทีแรก ก้อโหววว สวยงามจัง
วันนี้เลยตั้งใจว่า จะต้องมาชมความงาม
การมาวัดนี้ก้อไม่ยากครับ
จากวงเวียนวัดนักเลง เลี้ยวเข้ามา สองกิโล ก้อถึงแล้ว
วัดกุฏีดาว จะอยู่ข้างข้างวัดประดู่
ซึ่งวัดนี้นั้น เจ้าส้ม-น้องสาวเคยบอกว่า
วัดนี้ เคยมีละครมาถ่ายงัยเฮีย
เลยไปค้น ก้อเลยรู้ว่า คือเรื่อง พิษสวาท
ที่น้องนุ่น วรนุช แสดงนั่นเอง
และยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ การขุดค้นหาสมบัติของวัดนี้อีกเช่นกัน
โดยว่ากันว่า
ที่นี่ มีปู่โสมเฝ้าทรัพย์ ซึ่งคอยปกปักรักษาไม่ให้ใครมาขุดค้นได้
ซึ่งรายละเอียดตรงนี้นั้น ลองอ่านได้จากด้านล่างนี้ครับ
การขุดหาสมบัติที่วัดกุฏีดาว
👇👇👇👇
.
อืมมม มาอยู่ที่นี่เกือบเดือน
เยี่ยมเยือนไปยี่สิบกว่าวัด
แต่ละวัดมีประวัติความเปนมา และความงดงาม ในตัวเอง
ได้มารื้อฟื้นประวัติศาสตร์ของประเทศอีกครั้ง
รู้สึกดีจริงจริง
ประวัติวัดกุฏีดาว
👇👇👇👇
วัดกุฏีดาว
จบแล้วครับ สำหรับท่านที่อ่านตามมาเรื่อยเรื่อย
ยาวหน่อยนะครับ เพราะตั้ง 1 เดือน
1 วัน ก้อไปประมาณ 1-2 วัด ไม่ได้อยากไปมากกว่านี้ เพราะว่า
ไม่ได้ขับรถ และอยากจะใช้เวลาไม่มากเกินไปในแต่ละวัน
วันละวัด สองวัด จะได้ซึมซับกับบรรยากาศให้เตมที่
ขอพรอย่างที่เราอยากจะขอ จะได้มุ่งมั่นได้เตมที่
ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านอย่างอดทน เพราะต้องใช้เวลามากซักหน่อย
สำหรับบทความท่องเที่ยว ขนาดยาวแบบนี้
ซึ่งปกติ ผมก้อจะเขียนยาวยาว เปนกึ่ง ไดอารี่ ประมาณนี้อยู่แล้วละ อิอิ
หวังว่าคงมีประโยชน์ไม่มากก้อน้อยครับ
รอชมบทความการท่องเที่ยวครั้งต่อไป ถ้าฟ้าเปิด และโรคภัยจืดจางลง
ขอความสุขสวัสดี จงมีแด่ทุกท่านครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา