Avalanche (AVAX) คือเหรียญอะไร?
Avalanche: blockchain สำหรับโลกอินเตอร์เน็ตแห่งการเงิน
Avalanche เป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนแบบโอเพนซอร์สซอร์สโค้ดสำหรับใช้งานแอพพลิเคชั่น DeFi สินทรัพย์ทางการเงินใหม่และการซื้อขาย ข้อได้เปรียบที่สำคัญของแพลตฟอร์ม Avalanche คือประสิทธิภาพและความสามารถในการปรับขนาดได้สูง
นักพัฒนา Ava Labs อ้างว่า Avalanche คือเครือข่ายสัญญาอัจฉริยะแห่งแรกที่สามารถทำธุรกรรมได้ในเวลาน้อยกว่าหนึ่งวินาทีตามมาตรฐานและอนุญาตให้ทุกคนสามารถเปิดตัวหรือซื้อขายสินทรัพย์ในรูปแบบใดก็ได้และควบคุมพวกเขาด้วยวิธีการกระจายอำนาจโดยใช้สัญญาอัจฉริยะ
AVAX โทเค็น
โทเค็นดั้งเดิมของแพลตฟอร์ม AVAX ใช้สำหรับเก็บค่าธรรมเนียมธุรกรรมโอนมูลค่าและสร้างเครือข่ายใหม่บนแพลตฟอร์ม Avalanche นอกจากนี้โทเค็นยังช่วยให้มีส่วนร่วมในการกำกับดูแล (การลงคะแนน) และการปักหลัก จำนวนรางวัลขึ้นอยู่กับส่วนแบ่งของเหรียญของผู้ตรวจสอบและเวลาในการปิดกั้นโทเค็น ยิ่งล็อคเหรียญไว้นานเท่าไหร่รายได้ก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
ปัญหาของ AVAX ถูก จำกัด ไว้ที่ 720,000,000 (720 ล้าน) โทเค็น ตอนนี้หุ้นออกมาครึ่งหนึ่งแล้ว
อีกครึ่งหนึ่งจะถูกปล่อยออกมาตามแผนรายละเอียดในสมุดปกขาว Avalanche อัตราการปล่อย AVAX ขึ้นอยู่กับการอนุมัติของชุมชน แต่ไม่ใช่การหมุนเวียนทั้งหมด เพื่อเพิ่มการขาดแคลนโทเค็นค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจะถูก "เผา" กระบวนการนี้ถูกชดเชยด้วยการออกเหรียญใหม่
ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกรรมที่ดำเนินการบนเครือข่าย Avalanche
วิธีการทำงาน
chain ใน Avalanche นั้นจะแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วนครับ
Exchange Chain (X-Chain)
Contract Chain (C-Chain)
Platform Chain (P-Chain)
X-chain นั้นถูกใช้ในการสร้าง token ใหม่ขึ้นมา, C-chain นั้นถูกใช้เป็น EVM, และ P-chain นั้นใช้เพื่อส่งและยืนยันข้อมูล โดยหลักการว่าแต่ละ chain นั้นต่างกันและทำงานอย่างไรจะตามมาใน blog ถัดไปครับ
แต่การที่แบ่ง chain ออกมานี้ทำให้การ ประสิทธิภาพการทำงานมากกว่าของปกติครับ โดยเหรียญ AVAX นั้นใช้เพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมต่างๆที่เกิดขึ้นบนการใช้ทุกเชนที่กล่าวมาคับ
เทียบกับเพื่อนๆ
นอกจากเรื่องประสิทธิภาพแล้ว จุดเด่นอีกด้านคือ การที่แยกเชนต่างๆออกจากกัน ช่วยให้เพิ่มความสามารถในการสื่อสารหรือ interoperability ครับ
อีกเรื่อง คือ คู่แข่งหลักๆของ AVAX ก็คงไม่พ้น ETH ซึ่งตรงนี้ทาง Avalanche นั้นได้รองรับ EVM เพื่อความสะดวกในการพัฒนา
ความพิเศษของ Avalanche Protocol
- consensus protocol แบบใหม่ของ Avalanche ถูกสร้างขึ้นเพื่อลดจุดด้อยเรื่องความช้า กินพลังงานสูงของ bitcoin และความไม่ decentralized ของ consensus แบบเก่า เช่น pBFT (Cosmos, Tendermint)
โดยหลักการทำงานของ Avalanche Protocol จะขึ้นกับการสุ่ม แทนที่จะรอข้อมูลธุรกรรมจากทุก node Avalanche จะใช้การสุ่มตัวอย่างแทน เช่น สมมติว่ามี node อยู่ 100 node เราสามารถเลือกสุ่ม node ตัวอย่างมาทีละ 10 node เพื่อหาผลลัพธ์ของธุรกรรมจากกลุ่มตัวอย่างแทน เมื่อทำการสุ่มซ้ำหลายๆครั้งและใช้การกระจายตัวที่เหมาะสมตามหลักสถิติ ข้อมูลธุรกรรมที่ได้ก็จะมีความแน่นอนสูง และยังได้ความเร็วที่มากขึ้น เนื่องจากไม่ต้องรอการส่งข้อมูลของทุก node นั่นเอง
ความเร็วในการทำธุรกรรมของ Avalanche สูงสุดถึง 4500 ธุรกรรมต่อวินาที โดยใช้เวลารอเพียง 3 วินาทีเพื่อให้ธุรกรรมสมบูรณ์
- subnet blockchain ใน blockchain
เคยคิดจะอยากสร้าง dapp ของตัวเองไหม ? ทำไมไม่สร้าง blockchain ไปเลยล่ะ
ไม่เหมือน dapp ทั่วไปเช่น Uniswap, Yfi ที่ยังต้องขึ้นตรงต่อแพลทฟอร์ม subnet จะอนุญาตให้ผู้สร้างมีอิสระในการกำหนดกฎของตัวเอง และยังเชื่อมต่อกับ subnet อื่น และ Avalanche ได้
- การทำงานร่วมกับ Ethereum
ไม่มีใครปฏิเสธว่า Ethereum คือแพลทฟอร์มสำหรับ smart contract อันดับหนึ่งในปัจจุบัน
ทั้งผู้พัฒนาที่คุ้นเคยกับ Ethereum สามารถปรับตัวได้อย่างง่ายได้ เนื่องจาก Avalanche นั้นรองรับการเขียน dapp โดยใช้ Ethereum Virtual Machine (EVM) และผู้ใช้ก็สามารถเอนจอยกับ ecosystem ที่กว้างใหญ่ของทั้ง Ethereum และ Avalanche ไปพร้อมกันได้โดยใช้ bridge
- โครงสร้างพิเศษ 3 chain ความสนุก 3x
Avalanche ประกอบด้วย 3 chain คือ
P-chain สำหรับสร้าง subnet
X-chain เป็น chain ฐานสำหรับทำธุรกรรมทั่วไป (exchange chain)
และ C-chain สำหรับสร้าง smart contract ที่เขียนโดย EVM
- ecosystem
ด้วยความเร็วและความง่ายในการพอร์ท dapp จึงทำให้ปัจจุบัน Avalanche มี ecosystem ที่เติบโตอย่างรวดเร็วทั้ง exchange อย่าง Sushi, bZx oracle อย่าง Chainlink หรือแม้แต่ stablecoin อย่าง USDT
ด้วยการเติบโตของวงการคริปโตที่รวดเร็ว เราสามารถคาดหวัง ecosystem ที่สมบูรณ์กว่านี้ได้ในเวลาไม่นานครับ
Reference
- 15
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
