“เอลซา ไอน์สไตน์ (Elsa Einstein)” ภรรยาคนที่สองของ “อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein)” กับด้านมืดของอัจฉริยะ
“อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein)” คือนักฟิสิกส์ชื่อดังของโลก ผู้กลายเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของอัจฉริยะ และยังคงโด่งดังจนถึงทุกวันนี้
แต่บทความนี้จะเป็นเรื่องราวของ “เอลซา ไอน์สไตน์ (Elsa Einstein)” ภรรยาคนที่สองของเขา รวมทั้งยังเป็นการเผยให้เห็นด้านมืดของอัจฉริยะผู้นี้
“เอลซา ไอน์สไตน์ (Elsa Einstein)” เกิดในปีค.ศ.1876 (พ.ศ.2419) โดยเป็นญาติของอัลเบิร์ต
พ่อของเธอเป็นญาติกับพ่อของอัลเบิร์ต และแม่ของเธอยังเป็นพี่น้องกับแม่ของอัลเบิร์ต จึงเรียกได้ว่าอัลเบิร์ตกับเอลซาเป็นญาติที่ใกล้ชิดกันมาก
เอลซาแต่งงานกับสามีคนแรกในปีค.ศ.1896 (พ.ศ.2439) โดยมีลูกสามคน ก่อนจะหย่ากันในปีค.ศ.1908 (พ.ศ.2451)
ทางด้านอัลเบิร์ต เขาแต่งงานครั้งแรกกับ “มิเลวา มาริค (Mileva Maric)” นักคณิตศาสตร์ชาวเซอร์เบีย ในปีค.ศ.1903 (พ.ศ.2446)
แต่ถึงแม้ทั้งคู่จะแต่งงานกัน แต่จากจดหมายจำนวนเกือบ 1,400 ฉบับที่อัลเบิร์ตเป็นคนเขียน ทำให้เห็นว่าเขาค่อนข้างเฉยชาและโหดร้ายกับมิเลวาพอสมควร
อัลเบิร์ตและมิเลวา
ในจดหมายฉบับหนึ่งที่อัลเบิร์ตเขียนถึงมิเลวา เขาได้เขียนถึงสิ่งต่างๆ ที่กำหนดให้มิเลวาทำ ความว่า
“ข้อ A สิ่งที่เธอต้องทำคือ (1) เสื้อผ้าของฉันต้องถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ (2) ให้นำอาหารมาเสิร์ฟในห้องของฉันวันละสามเวลา ข้อ B เธอจะต้องไม่แสดงตนว่ามีความสัมพันธ์กับฉัน ยกเว้นเวลาที่ต้องออกงานสังคม”
นอกจากนั้น อัลเบิร์ตยังเขียนอีกว่า
“อย่าคาดหวังความรักจากฉัน” และ “เมื่อฉันสั่งให้ออกจากห้อง เธอต้องออกไปจากห้องทำงานของฉันในทันที และห้ามโต้เถียงอะไรทั้งสิ้น”
ในขณะเดียวกัน ในราวปีค.ศ.1912 (พ.ศ.2455) อัลเบิร์ตก็เริ่มใกล้ชิดเอลซาทั้งๆ ที่ตอนนั้นเขายังคงแต่งงานกับมิเลวา
ถึงแม้อัลเบิร์ตและเอลซาจะเป็นญาติและใกล้ชิดกันมาตั้งแต่ยังเด็ก แต่ก็เพิ่งจะเริ่มมีความสัมพันธ์แบบหนุ่มสาวในช่วงเวลานี้
อัลเบิร์ตและเอลซา
ในเวลาต่อมา อัลเบิร์ตได้ล้มป่วย และก็เป็นเอลซาที่คอยดูแลอัลเบิร์ต ทำให้เมื่อหายป่วย อัลเบิร์ตจึงหย่ากับมิเลวาในปีค.ศ.1919 (พ.ศ.2462)
ภายหลังหย่าจากมิเลวา อัลเบิร์ตก็แต่งงานกับเอลซาทันทีในปีเดียวกันนั้น
และก็ไม่ต่างจากครั้งแรก เมื่อแต่งงานกับเอลซา อัลเบิร์ตก็ได้ไปมีสัมพันธ์กับหญิงสาวอีกหลายราย
ครั้งหนึ่งหลังจากแต่งงานใหม่ๆ เอลซาก็จับได้ว่าอัลเบิร์ตได้แอบมีสัมพันธ์กับเพื่อนคนหนึ่งของเธอ ซึ่งอัลเบิร์ตก็ได้เขียนจดหมายถึงเอลซา ความว่า
“คนเราควรทำในสิ่งที่มีความสุข และไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน”
ลูกๆ ของเอลซาที่เกิดจากสามีคนแรกก็เคารพอัลเบิร์ตเสมือนพ่อคนหนึ่ง หากแต่อัลเบิร์ตก็เกิดหลงเสน่ห์ของ “อิลเซ โลเวนธาล (Ilse Lowenthal)” ลูกสาวคนโตวัย 20 ปีของเอลซา จนถึงขั้นคิดที่จะยกเลิกการแต่งงานกับเอลซา และขอแต่งงานกับอิลเซแทน
ในยุค 30 (พ.ศ.2473-2482) สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ปะทุ และอัลเบิร์ตซึ่งเป็นชาวยิวก็ได้รับผลกระทบหนัก ทำให้อัลเบิร์ตและเอลซาต้องย้ายไปสหรัฐอเมริกาในปีค.ศ.1933 (พ.ศ.2476)
เอลซาเสียชีวิตจากปัญหาสุขภาพในปีค.ศ.1936 (พ.ศ.2479) และก็มีบันทึกว่าอัลเบิร์ตนั้นเสียใจมาก เพื่อนของอัลเบิร์ตก็ได้กล่าวในภายหลังว่านั่นเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นอัลเบิร์ตร้องไห้
อัลเบิร์ตยังได้เขียนจดหมายถึงลูกชายของเพื่อนคนหนึ่ง หลังจากที่เพื่อนคนนี้เสียชีวิต ความว่า
“สิ่งที่ฉันยกย่องในตัวพ่อของเธอ ก็คือตลอดชีวิตนี้ เขาอยู่กับผู้หญิงแค่คนเดียว ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ฉันล้มเหลวถึงสองครั้ง”
- 25
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
