16 ก.ย. 2021 เวลา 09:59 • ประวัติศาสตร์
Exodus คือความเหลือเชื่อที่พระเจ้าได้สร้างการอัศจรรย์แก่ชนชาติยิว โดยผ่านทั้ง 10 ภัยพิบัติ ซึ่งทั้งหมดได้ถูกบันทึกลงในคัมภีร์ไบเบิลและได้ถูกแปลเป็นภาษาต่างเพื่อบอกเล่าถึงความอัศจรรย์ของพระผู้เป็นเจ้า แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่องราวความอัศจรรย์นี้ได้ถูกยึดโยงไปยังศาสตร์อื่นๆ หนึ่งในศาสตร์ที่ทุกคนยอมรับคือวิทยาศาสตร์ ซึ่งได้พิสูจน์เรื่องราว Exodus และได้บอกเรื่องราวของภัยพิบัตินี้มีความเป็นเหตุเป็นผลกันเชื่อมโยงกัน
https://www.canva.com/
• ภัยพิบัติทั้ง 10 ประการและการอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์
วิทยาศาสตร์ได้อธิบายภัยพิบัติต่างพร้อมทั้งเชื่อว่าทุกภัยพิบัติมีผลโดยตรงและต่อเนื่องกัน เมื่อเกิดภัยพิบัติชนิดหนึ่งจะนำมาซึ่งภัยพิบัติอีกชนิดหนึ่งตามกันมาเป็นลูกโซ่
1.แม่น้ำเป็นสีเลือด : สาเหตุเกิดจากกระแสน้ำแดงที่มักเกิดขึ้นได้เสมอโดยมีสาหร่ายสีเขียวเป็นตัวการในการปล่อยพิษและทำให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดลง จึงเป็นสาเหตุให้สัตว์น้ำทั้งหลายโดยเฉพาะปลาจึงได้ตายลงเป็นจำนวนมาก
1
2.ภัยจากกบ : หลังจากเกิดภัยพิบัติแม่น้ำกลายเป็นเลือดสัตว์บางชนิดที่พอจะหนีได้เช่นกบ จึงได้ขึ้นมาอยู่อยู่บนบกเป็นจำนวนมาก เมื่อกบจำนวนมากแต่อาหารไม่เพียงพอจึงทำให้กบเหล่านั้นตายลงเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน จึงนำมาซึ่งภัยพิบัติต่อมา
3. ภัยจากลิ้น : เป็นผลสืบเนื่องมาจากจำนวนกบที่ตายเป็นจำนวนมากทำให้ฝูงลิ้นได้เข้ามาก่อความรำคานแก่ผู้คนและสัตว์เลี้ยง
4. ภัยจากเหลือบ : สืบเนื่องจากการตายของกบจึงนำมาซึ่งตัวเหลือบ ตัวเหลือบไม่ใช่แมลงวันบ้านธรรมดาแต่มันคือแมลงวันคอกม้าและบริเวณใบหน้าจะมีติ่งเล็กๆซึ่งจะมีความแหลมคมมาก จึงสร้างความรำคานแก่มนุษย์และสัตว์เลี้ยงให้ได้รับผลการทบหนักเพิ่มขึ้น
5. ภัยจากการล้มตายของ ม้า แพะ แกะ อูฐ และอื่นๆ : ภัยนี้เกิดจากเหลือบการตอมของเหลือบทำให้เกิดการติดเชื้อในปศุสัตว์ โดยสัตว์เหล่านั้นติดเชื้อและเป็นโรคที่มีชื่อว่า ลูทั้ง ซึ่งลักษณะของสัตว์ที่เป็นโรคนี้จะมีลิ้นเป็นสีม่วงและภายในปอดจะมีของเหลวอยู่เป็นจำนวนมากนั่นเอง ซึ่งภัยพิบัตินี้ส่งผลต่อภัยพิบัติต่อมานั่นก็คือ
6. ภัยจากแมลงวันคอกม้า : จากการล้มตายของสัตว์จำนวนมากจากภัยที่ 5 ทำให้เกิดฝูงแมลงวันจำนวนมากและฝูงแมลงวันนี้เอง
ที่ทำให้เกิดฝีในมนุษย์และสัตว์
 
7. ภัยจากพายุลูกเห็บ : ภัยพิบัติในข้อที่ 7 นี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องภัยก่อนหน้าที่กล่าวมาแต่มันจะมีผลต่อภัยอื่นๆหลังจากนี้
 
8. ภัยจากตั๊กแตน : ในสภาพภูมิอากาศแบบอียิปต์ที่ร้อนและแห้งแล้ง แต่กลับมีพายุลูกเห็บตก นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศอย่างกระทันหันให้มีอุณหภูมิที่พอเหมาะต่อการฟักไข่ของแมลงโดยเฉพาะตั๊กแตน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดฝูงตั๊กแตนนับล้านๆตัวเข้าโจมตีพืชผลทางการเกษตรของชาวอียิปต์ ทั้งพืชไร่ไม่ว่าจะเป็น ข้าวบาเลย์ ข้าวโพด ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก จากสาเหตุนี้เองจึงความความกันดารอาหารทั่วหน้าแผ่นดินอาณาจักรอียิปต์
9. ท้องฟ้ามืดสามวัน : ใบเบิลได้เขียนไว้ว่าพระเจ้าได้ทำให้ท้องฟ้าในอียิปต์มืด 3 วัน แต่ในส่วนของวิทยาศาสตร์นั้นได้อิบายไว้ว่าเป็นผลมาจากพายุทะเลทราย ที่มักพบได้ในแทบตะวันออกลางด้วยความที่เป็นที่กว้างของทะเลทรายและมีมวลทรายมหาศาลจึงทำให้มีความเป็นได้มากพอที่จะสร้างความมืดมิดตลอดระยะเวลาสามวัน ซึ่งพายุทะเลทรายนี้ได้สร้างความมืดมิดเหมือนกับตอนกลางคืนและสร้างฝุ่นผงซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้คนเป็นอย่างมาก ในส่วนนี้เองที่ทำให้ต้องเก็บตัวอยู่ในบ้าน
10.บุตรหัวปีจะตาย : ภัยพิบัติที่สุดทายเกิดจากภัยในข้อที่ 1-6 ทั้งแม่น้ำเป็นพิษ ฝูงปศุสัตว์ที่ล้มตาย ทำให้เกิดความกันดารอาหารส่งผลให้ชาวอียิปต์นำเมล็ดพันธุ์ที่เก็บไว้ใต้ดินมาเป็นอาหารแทน เนื่องด้วยการเก็บรักษาที่ไม่ดีพอและขาดความรู้ จึงทำให้อากาศเข้าไปทำปฎิกริยากับเมล็ดพืชนั้น ส่งผลให้เกิดเชื้อราที่ชื่อ ไมโครทอคซิน เชื้อรานี้จะไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันและอวัยวะที่สร้างเลือดเช่นตับหรือไต เมื่อได้รับเชื้อรานี้เข้าไปในปริมาณที่น้อยก็อาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้เช่นกัน ส่วนการตายของบุตรหัวปีในอียิปต์นั้นนักวิทยาศาสตร์ได้สันนิษฐานว่าเกิดมาจากธรรมเนียมของชาวตะวันออกกลางที่บุตรคนโตจะได้กินอาหารก่อนและจะได้อาหารมากกว่าบรรดาบุตรคนอื่นๆลองลงมาถึงสองเท่า ด้วยเหตุนี้บุตรหัวปีจึงได้รับเชื้อราไมโคทอกซินมากที่สุดและนำมาซึ่งความตายในท้ายที่สุด ดั่งในคัมภีร์ใบเบิลที่เขียนไว้ว่าบุตรหัวปีของชาวอียิปต์จะตายลง.
โฆษณา