แจกกล้วย..แลกโหวต ?
อัพไซส์กล้วยยกเครือ – หวีอวบ ๆ !
ทฤษฎีฤาษีแจกกล้วย เอากล้วยมาจากไหน
เปิดราคากล้วยช่วงโหวตญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
“กล้วย 1 ลูก น้ำหนัก 1 กก. เท่ากับ 1 ล้านบาท”
เคาะเริ่มต้นที่ 5 ลูก ต่อ 1 โหวต ก่อนขยับไปถึง 10 ลูกต่อ 1 โหวต
ร้อนถึงเก้าอี้ท่านประธานสภา “ชวน หลีกภัย” ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามประเด็น “วิสาร เตชะธีราวัฒน์” ส.ส. เพื่อไทย เปิดอภิปรายกลางสภา “นายกฯแจกเงิน 5 ล้าน ส.ส.”
ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรต้องรอผลตรวจสอบ !?
ในแต่ละเดือน ส.ส. ได้รับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง
113,560 บาทต่อคน
เฉลี่ย ส.ส. 500คนทั้งสภา 56,780,000 บาทต่อเดือน
- 1 ปี 681,360,000 บาท
- 4 ปีอยู่ครบวาระ 2,725,440,000 บาท
ไม่นับเงินเดือนของผู้เชี่ยวชาญประจำตัว ผู้ชำนาญการประจำตัว และผู้ช่วยส.ส. อีก 8 คนต่อ ส.ส. 1คน มีค่าใช้จ่ายรวมต่อเดือนอยู่ที่ 129,000 บาท
เฉลี่ยทั้งสภาฯ ปาไป 64,500,000 บาทต่อเดือน
- 1 ปี 774,000,000 บาท
- 4 ปี 3,096,000,000 บาท
เสถียรภาพเสียงรัฐบาลแน่นปึ้ก !! สภาอยู่ครบ 4 ปี รวมเงินเดือนตำแหน่งเหล่านี้ (ยังไม่นับสิทธิพิเศษอื่น ๆ ) อยู่ที่
“5,821,440,000 บาท”
เป็นยอดงบประมาณประจำจากเงินภาษีของคนไทยที่ต้องจ่ายให้กับ ส.ส. และทีมงานทั้งสภา
แต่ยังมีเงินนอกงบประมาณจ่ายตาม “ทฤษฎีฤาษีแจกกล้วย” !?
ให้สมน้ำสมเนื้อตามวิถีการเมืองในแต่ละพื้นที่ แต่ละเขตเลือกตั้งส่วนใหญ่ ใช้เงินทำกิจกรรม 3– 5 แสนบาทต่อเดือน
เงินที่เกินมาจากที่รับประจำเป็นเกือบ 4 แสนบาทต่อเดือนล่ะ
ไปเอามาจากไหน..จะเล่าให้ฟัง !!
โดยหลักการทั่วไป ก็จะหาตามกระบวนการจัดทำงบประมาณฯ
ซึ่งเริ่มในชั้นคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี
ที่จะมี “ขาใหญ่คอยบริหารจัดการ” รู้ดีว่าจะจัดสรรปันส่วนอย่างไรให้ลงตัวกรุบ..กรุบ..ทั้งสภาฯ
“ไม่ว่าจะมาจากงบกลางที่มีเงินทอน (Kickback) และงบจังหวัดตรงนี้นะ”
ถ้าผู้ร่วมขบวนการต้องการความชัวร์ว่าได้เงินแน่นอน!!
ก็รับเงินส่วนหนึ่งไปเลย ก่อนที่โครงการนั้น ๆ จะลงพื้นที่
แต่บางส่วน รอรับเงินแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ตอนโครงการนั้น ๆ ลงพื้นที่แล้ว
“นี่เป็นหลักการพื้น ๆ ที่จะได้เงินไปใช้จ่ายในพื้นที่ของตัวเอง”
แต่ก็มีวิธีเพิ่มขนาดกล้วย..เครือใหญ่ ๆ หวีอวบ ๆ !!
จับเมกะโปรเจกต์ในกระทรวงที่มีงบประมาณมาก ๆ หรือจากนายทุนที่คอยสนับสนุน เพื่อให้ออกนโยบายเอื้อกับนายทุนของตัวเอง
สอดคล้องกับข้อมูลของ “ดร.มานะ นิมิตมงคล” เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ตั้งข้อสังเกตได้อย่างแหลมคม
“งบประมาณแผ่นดินไม่เคยโปร่งใส” !?
โดยชี้ให้เห็นถึงงบประมาณ ฯ ปี 64 ที่ผ่านมา “งบกลาง” กับ “งบจังหวัดและกลุ่มจังหวัด” ดังกระฉ่อนไปทั่วราชอาณาจักรกับปัญหาเดิม ๆ
“งบกลาง” ปกติมีเงินราว 4 - 5 แสนล้านบาทต่อปี
แบ่งใช้เป็น 3 ก้อน สำหรับงานบุคคลเบี้ยหวัด บำนาญ ฯลฯ
งบสำรองฉุกเฉินจำเป็นเร่งด่วน และงบภารกิจที่สำคัญ
เงินทอน !! จากงบกลางที่เกี่ยวข้องกับการใช้เงิน 3 ก้อนนี้
โดยอ้างว่า “จำเป็นต้องใช้”
เพราะเกิดผลกระทบจากโควิด – 19 บ้าง ใช้แก้ปัญหาเศรษฐกิจบ้าง ฯลฯ ยากต่อการพิสูจน์ว่าแต่ละเรื่องจริงเท็จแค่ไหน? มีแต่คนวางแผนและผู้มีประสบการณ์โดยตรงเท่านั้นที่จะรู้จริง
“งบจังหวัดและกลุ่มจังหวัด”
น่าสังเกต!! ตั้งงบลงทุน เน้นสร้าง - ซ่อมถนน - ขุดบ่อน้ำ ทำแบบนี้มาหลายปีแล้ว ชาวบ้านในพื้นที่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง ? แถมตั้งงบรายการละ 50 ล้านเท่า ๆ กันในทุกโครงการ
น่าสงสัย !! ตั้งงบไปก่อนถึงค่อยหาพื้นที่ทำ และมีพิรุธมากโยง
ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดกับนักการเมืองในพื้นที่
ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นภาพนักการเมืองวางสายการจัดทำงบประมาณ
เฉพาะกลุ่ม เฉพาะทาง มีการแบ่งอิทธิพลเหนือพื้นที่ – หน่วยงาน ทำให้เกิดความชำนาญ และช่องทางการเจรจา
ไม่ต้องเสียเวลาพูดมาก..ให้เจ็บคอ เมื่อใดมีการจัดตั้งงบหรือ
งบอนุมัติแล้ว “ใครต้องการอะไรก็ให้มาคุยกัน”
เกิดเป็นพฤติการณ์แย่งกันส่งพวกพ้องไปนั่งเป็น “อนุกรรมาธิการใน กมธ.งบประมาณ” ที่ตัวเองนั่งคุมหน่วยงานรับงบประมาณฯ นั่นเอง
“เวลามีการพิจารณาบางหน่วยงานจะมีคนพูดกลางที่ประชุม..ให้เห็นชอบโดยไม่ต้องพิจารณารายละเอียด”
ทว่าหลายหน่วยงานที่ชี้แจงงบประมาณ เริ่มรู้ทาง “ขาใหญ่ใน กมธ.งบประมาณ” ยินยอมให้ตัดลดงบประมาณ
โดยตัดรายการเงินค่างวดการก่อสร้าง หรือทำโครงการที่ค้างอยู่ หรือเชื่อว่างบตัวนี้เบิกไม่ทันแน่ ๆ ก็จัดการแช่แข็งโครงการซะเลย และปล่อยผ่านโครงการอื่นที่ได้เงินทอนแน่นอน
มาถึงคิว “สถาบันวิเคราะห์งบประมาณประจำรัฐสภา” แปลกแต่จริง !! ยังไม่เป็นที่ยอมรับของนักการเมืองหลายฝ่าย ข้าราชการทั่วไป นักวิชาการต่าง ๆ
ประเด็นนี้หนีไม่พ้น อิทธิพลนักการเมืองคนนั้น ๆ หรือขาใหญ่ใน กมธ.งบประมาณ หรือขีดความสามารถของบุคลากรภายในสถาบันก็เป็นไปได้หมด
ไล่เรียงมาตั้งแต่ต้น.. ปิดจบทฤษฎีฤาษีแจกกล้วย คือคอรัปชั่นในการจัดทำงบประมาณเป็นผลพวงของคอรัปชั่นในกระบวนการนิติบัญญัติ ที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน การสมคบคิด ผลัดกันเกาหลังแลกผลประโยชน์กัน
“เป็นการโกงชาติจากต้นน้ำ ที่มีคนรู้เห็นมากมาย
แต่ไม่มีใครทำอะไรได้” !!??
ขอบคุณที่เข้ามาติดตามอ่านทุกเรื่องราว และเข้ามาทักทายกันนะคะ
#WhoChillDay #ทฤษฎีฤาษีแจกกล้วย
#อัพไซส์กล้วยยกเครือหวีอวบ #คอร์รัปชัน
#มานะ นิมิตมงคล
- 4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
