📌"ตาปลาตัวร้าย..ขึ้นเยอะแค่ไหนก็หายได้ภายใน 14 วัน"📌
วันนี้ผมจะมารีวิวขั้นตอนการรักษาตาปลา / หูด ด้วยตัวเอง (สำหรับคนที่เป็นมากกว่า 1 จุด)
เกริ่นนำก่อนครับ สาเหตุที่ผมมาเขียนรีวิวการรักษาตาปลาในครั้งนี้เนื่องจาก ก่อนหน้านี้พอผมสังเกตุเห็นว่าที่เท้าผมนั้นได้มีสิ่งผิดปกติโผล่ขึ้นมา ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีมันมีแค่จุดเดียวครับตรงนิ้วโป้งแต่ผมปล่อยมันทิ้งไว้ไม่ยอมรักษา และก็ไม่รู้ไปทำอีท่าไหนเข้ามันถึงได้ลามไปอย่างที่เห็นในภาพครับ
หลังจากที่ผมปล่อยทิ้งไว้นานมากๆครับ นานเป็นปีๆ ไม่สนใจมันเลย จนมันลามไปมากกว่า 10 จุด มันเลยทำให้ผมเริ่มกลัวขึ้นมาและคิดว่าเราต้องทำอะไรซักอย่างกับมันแล้วแหละ
ต่อมาเป็นอุปกรณ์ที่ผมใช้ในการรักษา
1.ยาแต้มตาปลา/หูด แบรนด์ Verrumal ราคา 250 บาท ได้มาจากใน Shopee (ตัวนี้คือพระเอกเลย แพงกว่ายี้ห้ออื่นหน่อยแต่จบ)
2. อุปกรณ์ตัดแต่งเล็บ แบรนด์ N/A ราคา 110 บาท ได้มาจากใน Shopee (ใช้สำหรับตัดเนื้อเยื่อที่ตายออก)
3.แอลกอฮอล์ ใช้ทำความสะอาดอุปกรณ์
สามพระเอกของงานนี้
แรกเริ่มเดิมที ผมเริ่มจากการใช้แผ่นแปะตาปลาที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดทั่วไปก่อน แต่หลังจากใช้ไปได้ 3-4 วันรู้สึกว่าแผลเราน่าจะอาการหนักเกินกว่าแผ่นแปะตาปลาจะเอาอยู่จึงเริ่มมองหายารักษารูปแบบอื่น
อันนี้คือหลังจากใช้แผ่นแปะตาปลาไปได้ 3-4 วัน คือตัวยามันเหมือนจะอยู่แค่ผิวๆ แต่แผลที่ผมเป็นมันน่าจะอยู่ลึกจนตัวยาในแผ่นแปะมันลงไปไม่ถึง
ตอนแรกก็ลังเลอยู่ว่าจะไปจี้ด้วยพวกไฟฟ้า/เลเซอร์ ดีมั๊ย แต่ของเรามันหลายจุดไงถ้าจี้นี้เท้าพรุนแน่ๆเลย เลยคิดว่าหาทางอื่นลองดูก่อนดีกว่าจี้ไฟฟ้าจึงเก็บไว้เป็นทางเลือกสุดท้าย
และหลังจากหาอยู่นานก็ได้เจอกับน้ำยาแต้มตาปลา Verrumal ต้องบอกว่าตัวนี้มีคนรีวิวไว้ค่อนข้างดีมากผมจึงตัดสินใจใช้ตัวนี้ (จริงๆมีหลายยี่ห้อมาก และราคาก็ต่างกันเยอะพอสมควร)
โดยเจ้าตัวนี้จะมีตัวยาเป็นน้ำเหนียวหนืดพอแต้มไปแล้วก็จะแห้งเป็นฟิล์มใสเคลือบจุดที่แต้มไว้ (ต่างจากยี่ห้ออื่นที่เป็นน้ำหยอดเหลวๆ)
วิธีการใช้ก็คือที่ฝาขวดเค้าจะมีแปลงเล็กๆติดมาให้สำหรับจุ่มตัวยาและมาแต้มลงตรงตำแหน่งที่เป็นตาปลา แต่ข้อควรระวังก็คือเวลาแต้มเน้นเฉพาะตำแหน่งที่เป็นตาปลาเนื่องจากตัวยาค่อนข้างแรง หากเราแต้มไปโดนอาจทำให้ผิวหนังปกติลอกไปด้วย
Refer : https://www.gelbe-liste.de/
หลังจากแต้มยารอบแรกคือไม่แสบ ไม่เจ็บเลย แอบคิดไปเองว่ายาไม่ดีแหง่ แต่เปล่าเลยพอทิ้งไว้คืนเดียวหนังบริเวณที่แต้มยาไว้ก็เริ่มแห้งและก็ล่อนออกแต่ไม่ถึงกับหลุดนะ จากนั้นหน้าที่ของเราก็คือใช้อุปกรณ์ตัดแต่งเล็บอย่างที่แนะนำไว้บรรจงค่อยๆตัด ค่อยๆแซะเนื้อที่ตายออกได้เลย
หลังจากแต้มยารอบแรกแล้วตัดเนื้อตายออก
ต่อเลยครับหลังจากลอกหนังตายรอบแรกออกแล้วก็แต้มยาต่อเลย แต่แต้มครั้งที่สองนี้จะค่อนข้างแสบแล้วครับเนื่องจากเราต้องแต้มลงบนผิวชั้นในแล้ว
ที่ยังต้องแต้มต่อเพราะยังสังเกตุเห็นจุดดำๆที่เป็นเชื้อของตาปลาอยู่เราจึงจำเป็นต้องเอามันออกเพื่อให้โรคหายขาดครับ จะได้ไม่มากวนใจเราได้อีกต่อไป
หลังจากแต้มยาและตัดเนื้อตายออกเป็นรอบที่สอง
หลังจากที่แต้มยาและลอกหนังที่ตายออกสองครั้งแล้วพบว่าจุดดำที่เป็นเชื้อตาปลาหายไปหมดแล้วครับ แต่ผมเลือกที่จะแต้มอีกครั้งเป็นรอบที่สามเพราะไม่รู้ว่าเชื้อมันยังจะมีอยู่มั๊ยก็มันมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นหนิเลยจัดการเลย
และไหนๆเจ็บตัวแล้วก็อยากให้จบไปเลยรอบเดียวเลยจัดการแต้มไปเป็นรอบที่สาม (รอบนี้แสบสุดๆเลยครับถ้าเชื้อยังอยู่ก็รับรองว่าตายแน่นอน แต่ยังอยู่ในระดับที่ทนได้ครับไม่ได้แสบเหมือนกับเอาแอลกอฮอล์ราดแผลสดๆ)
หลังจากแต้มยาและตัดเนื้อตายออกเป็นรอบที่สาม
ตั้งแต่แต้มยารอบสามไปแล้วผมก็คอยมาตัดเนื้อที่มันแห้งตายออกอย่างเดียวโดยไม่มีการแต้มยาเพิ่มแต่อย่างใด เน้นตัดออกเฉพาะที่มันแห้งและล่อนแล้วนะครับ จุดไหนที่ยังเอาออกไม่ได้ก็ปล่อยไปก่อนรอให้มันแห้งและล่อนก่อนเราค่อยเข้าไปจัดการกับมันครับ
รอบนี้แผลค่อนข้างดูดีเลยทีเดียวครับ
😎🙏😎 และในที่สุดเจ้าตาปลาตัวร้ายก็หลุดออกไปพร้อมกับหนังที่แห้งตายจนหมดครับ โดยรวมๆแล้วผมว่ารักษาไม่ได้ยากมากมายอะไรนะครับ แต่ต้องให้เวลากับมันหน่อยอย่าใจร้อนค่อยรักษาไปตามขั้นตอน ซึ่งระยะเวลาที่ผมรักษาก็ประมาณ 2 อาทิตย์ ก็ขอฝากไว้เป็นอีกหนึ่งแนวทางในการรักษาครับ
- 18
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
