ทำไมลิซ่า Black Pink และ YG Entertainment เลือกยาสีฟันเดนทิสเต้ เพื่อมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ทั้งที่มีสินค้าแบรนด์ระดับโลกให้เลือกหลายรายรออยู่
ที่มา https://www.facebook.com/DentisteTH/
อีกข่าวที่สร้างความฮือฮาให้กับคนไทยกับกระแสความร้อนแรง ของสาวน้อยลิซ่าจากบุรีรัมย์ คือเธอและต้นสังกัดได้เลือกยาสีฟัน “เดนทิสเต้” เพื่อรับเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ทั้งที่เธอมีโอกาสมากมายที่จะเลือกสินค้าแบรนด์ระดับโลกรายอื่น
ลิซ่าและต้นสังกัดเองจะรับหรือไม่รับสินค้า “เดนทิสเต้” ก็ไม่ได้มีผลกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงอยู่แล้ว แต่ทำไม “เดนทิสเต้” จึงได้รับเลือก เรามาดูข้อมูลจากเจ้าของผลิตภัณฑ์ ที่จะมาชี้แจงเหตุผลว่าทำไมจึงเลือกลิซ่า ทั้งที่มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก และที่สำคัญทำไมลิซ่าและ YG Entertainment จึงรับข้อเสนอ ทั้งที่เขามีข้อกำหนดที่เคร่งครัดและรัดกุมมากกับการที่จะเลือกสินค้าตัวใดตัวหนึ่งเพื่อมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์
จากการเปิดเผยของ เภสัชกร ดร.แสงสุข พิทยานุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมูท อี จำกัด เจ้าของแบรนด์สมูท อี ที่มียอดขายในกลุ่มสินค้านี้เป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย และเป็นเจ้าของยาสีฟัน “เดนทิสเต้” กับคุณทอม เครือโสภณ นักธุรกิจคนดังของไทย ที่มีชื่อเสียงจากการนำเสนอข้อมูลผ่านสื่อต่างๆได้อย่างน่าสนใจและน่าติดตามมาก
ที่มา The Bangkok Insight
คุณทอม ได้สัมภาษณ์ ดร.แสงสุข ผ่านช่อง YouTube: Getgotgot Getgotgot ในหัวข้อ “เบื้องหลังดีลลิซ่า Lalisa” อย่างแบบเจาะลึกเพราะเป็นการสัมภาษณ์ในแบบเป็นกันเองของทั้งคู่
คุณทอมเริ่มด้วยการให้ข้อมูลว่า ดร.แสงสุข ได้ทำสิ่งที่คนไทยคิดว่าไม่น่าจะทำได้ นั่นก็คือการลงนามจ้างลิซ่ามาเป็นแบรนด์แอมบาสเตอร์ของ “เดนทิสเต้” ว่ากันว่ามีมูลค่ากว่า 10 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 330 ล้านบาท
ดร.แสงสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ฝันอยากทำการตลาดที่ต้องการให้สินค้าไทยเติบโตในระดับโลกให้ได้ เป็นเรื่องของความท้าทายก็เลยอยากจะทำ ทั้ง เดนทิสเต้และสมูทอี ปัจจุบันก็มียอดขายที่เติบโตในหลายประเทศ ขายทั้งในประเทศไทย ประเทศในแถบ CLMV กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม ญี่ปุ่น เกาหลี และอีกหลายประเทศ ยอดขายในประเทศเกาหลีใต้ยังขายได้มากกว่าในประเทศไทย
ที่มา เส้นทางเศรษฐี
ด้วยยอดขายที่เติบโตสูงมากในเกาหลีใต้ การเลือกลิซ่ามาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ จึงเป็นอีกเหตุผลสำคัญ เพราะทั้งลิซ่าและเดนทิสเต้ต่างไปเติบโตที่ประเทศเกาหลีใต้ ที่สำคัญต้นสังกัด YG Entertainment เห็นว่าสินค้าตัวนี้มีคุณภาพและเป็นเกรดพรีเมี่ยมมาก จึงเป็นเหตุผลที่เขาสนใจจะให้ลิซ่าเป็นพรีเซนเตอร์และแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้
คุณทอม บอกว่าเคยติดต่อกับ YG มาแล้ว มีเงื่อนไขและยุ่งยากกว่า อย. ของไทยซะอีก (หากใครเคยติดต่อสินค้าใหม่กับ อย. จะรู้ว่าไม่ง่ายเลย) แต่ทำไม “เดนทิสเต้” จึงประสบความสำเร็จ ทั้งที่มีสินค้ามากมายหลายแบรนด์มากที่พยายามติดต่อกับ YG
ดร.แสงสุข เปิดเผยว่าก็เคยใช้พรีเซนเตอร์ชาวเกาหลีใต้มาแล้วก่อนหน้านี้มา 2 ปีแล้ว สินค้าตัวนี้ก็มียอดขายที่สูงมากในเกาหลีใต้ แต่เหตุผลที่สำคัญที่สุดที่เดนทิสเต้ได้รับเลือกในครั้งนี้คือ ทาง YG ได้สอบถามลิซ่าว่ารู้จักสินค้าตัวนี้ไหม และลิซ่าก็ตอบว่าเธอก็ใช้อยู่ด้วย จากเหตุผลข้อสุดท้ายจึงทำให้เดนทิสเต้ได้รับการคัดเลือกในที่สุด
หลายคนอาจจะเข้าใจว่าระดับลิซ่าจะรับสินค้าตัวไหนมาเป็นพรีเซนเตอร์ก็ได้หากยอมจ่าย แต่ความเป็นจริงแล้วคนที่มีชื่อเสียงในระดับนี้ หากไม่มั่นใจในคุณภาพและชื่อเสียงของสินค้า ไม่มีใครจะยอมรับทำให้อยู่แล้ว เพราะไม่คุ้มกับชื่อเสียงของเขาที่สั่งสมมา
นอกนี้แล้วยังมีข้อมูลดีๆของวิธีคิดการทำการตลาดของ ดร.แสงสุข ที่บอกว่าในสถานการณ์ที่เกิดวิกฤติถือว่าเป็นโอกาสดีที่สุดในการทำการตลาด เพราะมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าการเจรจาก็ง่ายกว่า โดยเฉพาะการเจรจากับลิซ่าเอง จึงทำให้ได้เงื่อนไขที่ดี
การเจรจาเรื่องนี้ได้เกิดการติดต่อกันมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 64 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีมาก เพราะหากติดต่อในช่วงนี้ที่กระแสของลิซ่ามาแรงมากๆ ที่ไม่ใช่แต่เพียงระดับเอเชียแต่เป็นระดับโลก ต้องมีค่าใช้จ่ายมากกว่าเดิมถึง 3 เท่า
ทางเดนทิสเต้ก็ได้ทำการสำรวจถึงชื่อเสียงความนิยมของลิซ่าทั้งในจีน ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร และในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่าลิซ่าดังมากๆ การนำลิซ่ามาเป็นพรีเซนเตอร์ในครั้งจึงถือว่าคุ้มแสนคุ้ม
ที่มา https://www.facebook.com/DentisteTH/
นอกนี้แล้ว ดร.แสงสุข ยังมีความประทับใจและภูมิใจในตัวลิซ่ามาก จากการคุยสัมภาษณ์ผ่าน “Zoom” พบว่าเป็นคนที่น่ารักมาก ที่เด็กไทยคนหนึ่งสามารถไปโด่งดังในต่างประเทศได้ ด้วยพรสวรรค์และวินัยที่สูงมากๆของเธอ ลิซ่าฝึกฝนตัวเองอย่างหนักหน่วงและต่อเนื่องมายาวนาน จึงทำให้เธอคว้าดาวมาได้
ดร.แสงสุข บอกว่าประเทศเกาหลีใต้เก่งมากที่สามารถผลักดัน ให้ประชากรโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่มีระเบียบวินัยได้สูงมาก (เคยอ่านพบว่าเกาหลีใต้นำหนังสือ 7 Habits มาบรรจุไว้ในหลักสูตรการศึกษา)
สิ่งที่สุดยอดของลิซ่าที่ทำให้ผู้คนประทับใจ นอกจากเรื่องของความมุ่งมั่นระเบียบวินัย รวมการปฏิบัติตัวที่เป็นกันเองไม่ลืมกำพืดของตนเองแล้ว สิ่งนั้นก็คือ “รอยยิ้ม” ที่สามารถสะกดคนได้ (เรื่องนี้ยอมรับว่าจริงแท้)
ที่มา easysunday.com
ดร.แสงสุข ยังบอกว่าเด็กไทยทุกคนมีพรสวรรค์อยู่ในตัวเยอะมาก จะเป็นการดีมากหากลิซ่ามาแนะนำเส้นทางเดินไปสู่ฝัน ว่าต้องอดทนอย่างไรฝึกฝนอย่างไรให้มีวินัย และออกจากพื้นที่เคยชิน (Comfort Zone) เพราะลิซ่าเองก็ได้ออกจากพื้นที่เคยชินจากการไปอยู่ที่เกาหลี จะทำให้เด็กไทยจำนวนมาเผยความสมามารถที่ซ่อนอยู่ออกมาได้
ดร.แสงสุข เองเห็นคนไทยเมื่อไปอยู่ต่างประเทส ส่วนมากแสดงศักยภาพออกมาๆได้อย่างมากมาย รู้จักอดทนอดกลั้นมีวินัยสูง หากส่งเสริมเรื่องนี้กับคนไทยและคนไทยเองยอมรับการเปลี่ยนแปลง มั่นใจได้ว่าประเทศไทยเราไม่ได้ด้อยกว่าใครๆในโลกเลย เพียงอย่าอยู่ในพื้นที่เดิมๆที่ทำให้ตัวเองไม่พัฒนาไม่มีวินัย
และในวันนี้ เสาร์ ที่ 18 กันยายน 64 เราจะได้พบโฆษณาของลิซ่ากับเดนทิสเต้เผยแพร่ออกมาให้ชมกันอย่างถ้วนหน้าแล้ว
ที่มา https://www.facebook.com/DentisteTH/
ดร.แสงสุข ยืนยันว่าเด็กไทยทุกคนสามารถเป็นอย่างลิซ่าได้ แต่ต้องใช้ความอดทนมีวินัย หากใครสวนกระแสกับโลกโซเชี่ยลบ้างเล็กน้อย ไม่ติดกับกระแส เชื่อว่าเด็กไทยไปโลดแซงทางโค้งได้อย่างแน่นอน
ระหว่างที่พิมพ์ข้อความไป “ยุคใหม่ฯ” มีความรู้สึกขอบคุณ ดร.แสงสุข และน้องลิซ่ามากๆ ที่สร้างให้เกิดมิติใหม่และมีแนวคิดที่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยได้อย่างมากมาย
ที่มา Crosswalk.com
อ้างอิง
YouTube: Getgotgot Getgotgot เบื้องหลังดีลลิซ่า Lalisa
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernization Marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Thailand Modern Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
ท่านที่สนใจลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญ ที่สามารถขายแฟรนไชส์และมีรายได้จากการขยาย
สามารถสร้างรายได้ทั้งรายวันและรายสัปดาห์และรายเดือนได้
ติดต่อได้ที่
- 21
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
