22 ก.ย. 2021 เวลา 03:56 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุปมุมมองการเข้าซื้อกองทุนต่างประเทศ
by หนีดอย ประจำวันที่ 22 ก.ย. 2021
"การผิดนัดชำระหนี้ของเอเวอร์แกรนด์
จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
แบงก์ ออฟ อเมริกา ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP
ของจีนปีนี้ลงเหลือ 8% จาก 8.3% จากวิกฤต
ของเอเวอร์แกรนด์อาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง"
4
📌 มาดูภาพรวมดัชนีจาก Investing.com (วันนี้เป็นวันหยุดตลาดฮ่องกงและเกาหลีใต้)
📌 ตลาดเอเชียเริ่มกันที่ ดัชนี CSI300 -1.10% ​(ที่ 4802 จุด), ดัชนี HSTECH -0.46% (ที่ 6242 จุด)
📌 ส่วนทองคำราคาอยู่ที่ 1778 ขณะที่ราคาแร่เงินอยู่ที่ 22.79 USD/Oz.
(ข้อมูลจาก investing.com/indices/major-indices)
📌 สำหรับดัชนี Fear & Greed index ล่าสุดสำหรับตลาดสหรัฐอยู่ที่ 23 (Greed < Fear) (ข้อมูลจาก money.cnn.com/data/fear-and-greed/)
📌 ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) โดยตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับ 2 ของจีน นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย
📌 ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) โดยฟื้นตัวขึ้นหลังจากร่วงลงหนักสุดในรอบ 2 เดือน ขณะที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นหลังคลายความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ของบริษัทเอเวอร์แกรนด์ของจีน
📌 สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 220 ต่อ 221 ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวในวันอังคาร (21 ก.ย.) ตามเวลาสหรัฐ เพื่อสนับสนุนหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐให้มีงบประมาณใช้จ่ายไปจนถึงวันที่ 3 ธ.ค. และหลีกเลี่ยงไม่ให้หน่วยงานเหล่านี้ต้องถูกปิดการดำเนินงาน นอกจากนี้ สภาผู้แทนราษฎรยังมีมติให้ยกเลิกเพดานหนี้ของสหรัฐไปจนถึงสิ้นปี 2565 ขณะนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ส่งร่างกฎหมายดังกล่าวไปยังวุฒิสภาเพื่อให้การรับรองเป็นลำดับต่อไป อย่างไรก็ดี วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันหลายรายยืนกรานว่าจะไม่โหวตรับรองร่างกฎหมายดังกล่าว
1
📌 ทั้งนี้ หากสมาชิกพรรครีพับลิกันยังคงปฏิเสธที่จะสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าวในวุฒิสภา ทางพรรคเดโมแครตก็จะต้องใช้กลยุทธ์ใหม่ ๆ มิฉะนั้นก็อาจเผชิญกับปัญหาสองประการคือ การที่หน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลต้องปิดดำเนินงานเนื่องจากขาดงบประมาณ และรัฐบาลสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของชาติ
📌 กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.5% สู่ระดับ 1.903 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2550 ก่อนหน้านี้ สหรัฐขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 1.894 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1
📌 ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดปรับตัวลงเช้านี้ โดยตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับ 2 ของจีน
📌 เอเวอร์แกรนด์ ผิดนัดชำระหนี้กับธนาคารรายใหญ่อย่างน้อย 2 แห่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีแนวโน้มว่ากรณีของเอเวอร์แกรนด์จะกลายเป็นหนึ่งในการปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหญ่ที่สุดของจีน แม้จะเผชิญกับความไม่แน่นอน แต่นักวิเคราะห์วอลล์สตรีทยังคงหวังว่ารัฐบาลจีนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในประเด็นดังกล่าว โดย Citigroup, Fidelity และ AllianceBernstein ระบุว่า แม้เอเวอร์แกรนด์จะไม่สามารถชำระหนี้ได้ทันตามกำหนด แต่ทางการจีนจะดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อป้องกันวิกฤตซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายต่อระบบการเงินและเศรษฐกิจ
1
📌 ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีไว้ที่ระดับ 3.85% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีไว้ที่ระดับ 4.65% ในวันนี้ โดยธนาคารกลางจีนได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยทั้งสองประเภทติดต่อกันเป็นเดือนที่ 17 ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีถือเป็นดัชนีวัดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของภาคเอกชน ส่วนอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีเป็นดัชนีวัดทิศทางอัตราดอกเบี้ยของภาคครัวเรือน ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเพื่อการกู้จำนอง
📌 นายมาร์โค โคลาโนวิช นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน ระบุว่า เขายังคงมีมุมมองในเชิงบวกต่อการลงทุนในหุ้น แม้เกิดวิกฤตหนี้ของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่อันดับ 2 ของจีน นายโคลาโนวิชกล่าวว่า การทรุดตัวของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อวันจันทร์ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของเอเวอร์แกรนด์ ถือเป็นโอกาสในการเข้าช้อนซื้อหุ้นของนักลงทุน โดยการดิ่งลงของดัชนีดาวโจนส์เกิดจากการที่ตลาดมีสภาพคล่องต่ำ และนักลงทุนเกิดความตื่นตระหนก และมีปฏิกริยาต่อข่าวเอเวอร์แกรนด์มากเกินไป
📌 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แบงก์ ออฟ อเมริกา (BofA) ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจจีน อันเนื่องมาจากปัญหาหนี้สินของบริษัทเอเวอร์แกรนด์ การแพร่ระบาดรอบใหม่ของโรคโควิด-19 และการคุมเข้มด้านกฎระเบียบในวงกว้าง ขณะที่วาณิชธนกิจอื่น ๆ ก็ออกมาเตือนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของจีนเช่นกัน BofA ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่แท้จริงของจีนในปี 2564 จาก 8.3% เป็น 8.0% นอกจากนี้ ยังปรับลด GDP ของปี 2565 จาก 6.2% เหลือเพียง 5.3% และปรับลด GDP ของปี 2566 จาก 6.0% เป็น 5.8%
📌 การปรับลดคาดการณ์ GDP ครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเศรษฐกิจจีนเผชิญปัญหาต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ตลอดจนสะท้อนถึงความวิตกเกี่ยวกับปัญหาหนี้เอเวอร์แกรนด์ที่มีมูลค่าทั้งสิ้น 3.05 แสนล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 2% ของ GDP ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบในวงกว้าง BofA เปิดเผยว่า กรณีพื้นฐานของปัญหาหนี้เอเวอร์แกรนด์คือ "จะส่งผลกระทบเล็กน้อย" ต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด รวมถึงตลาดการเงิน หากรัฐบาลจีนตัดสินใจช่วยปรับโครงสร้างหนี้ ทีมนักวิเคราะห์จาก BofA ระบุในบันทึกว่า "หากมีการตอบสนองด้านนโยบายล่าช้าจากไตรมาสที่ 4 ปี 2564 ไปจนถึงไตรมาสที่ 1 ปี 2565 หรือดำเนินการผิดพลาดในเรื่องการผิดนัดชำระหนี้ของลูกหนี้รายใหญ่ ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงที่การเติบโตทางเศรษฐกิจจะหยุดชะงัก"
📌 สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สินของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำด้วย
📌 บริษัทเหิงต้า เรียล เอสเตท กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ปเปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทจะชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ย.) ซึ่งทำให้ตลาดทั่วโลกคลายความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการผิดนัดชำระหนี้ของเอเวอร์แกรนด์ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อันดับสองของจีน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เหิงต้าได้ยื่นรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้นโดยระบุว่า บริษัทจะชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ตรงเวลาในวันพรุ่งนี้ ซึ่งคิดเป็นวงเงินรวม 232 ล้านหยวน (35.88 ล้านดอลลาร์) ตามข้อมูลจาก Refinitiv ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวซึ่งซื้อขายในตลาดหุ้นเซินเจิ้นนั้นจะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนก.ย. ปี 2568 และจ่ายอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.8%
📌 อย่างไรก็ดี เอเวอร์แกรนด์มีกำหนดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ต่างประเทศสกุลดอลลาร์จำนวน 83.53 ล้านดอลลาร์ในวันพรุ่งนี้ด้วย แต่รายงานที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้นนั้น ไม่ได้ระบุถึงหุ้นกู้ต่างประเทศแต่อย่างใด
📌 นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.38-40 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็ก น้อยจากเย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.37 บาท/ดอลลาร์ วันนี้แนวโน้มเงินบาทยังมีโอกาสจะอ่อนค่าต่อ เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐมีทิศทางแข็งค่า เป็นผลจากที่ตลาดคาดการณ์การประชุม ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีการส่งสัญญาณเรื่องการปรับลดวงเงินในมาตรการ QE ซึ่งมองว่าเป็นปัจจัยเดียวในขณะนี้ที่มีผลต่อการ เคลื่อนไหวของค่าเงิน
📌 ขณะที่ปัจจัยในประเทศเรื่องการขยายเพดานหนี้สาธารณะต่อจีดีพีเป็นไม่เกิน 70% จากเดิมไม่เกิน 60% นั้น ไม่ได้ส่งผลต่อค่า เงินบาทเท่าใดนัก เพราะตลาดรับรู้ข่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.30 - 33.55 บาท/ดอลลาร์
Cr. สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
💵Lists กองทุนใน Watchlists ทั้งหมดที่น่าสนใจ (โปรดอ่านหมายเหตุด้านล่างประกอบ)
1. KT-PRECIOUS 💵💵💵
2. SCBGOLD (แบบไม่ Hedge) 💵💵💵
3. SCBGOLDH (แบบ Hedge) 💵💵💵
4. ASP-DISRUPT 💵💵💵
5. ASP-EUG 💵💵💵
6. ASP-EVOCHINA 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
7. ASP-JHC
8. ASP-ROBOT
9. B-GTO
10.K-CHANGE-A
11.K-HIT 💵💵💵
12.K-USA-A 💵💵💵
13.K-USXNDQ-A 💵💵💵
14.KF-EUROPE 💵💵💵
15.KF-GTECH
16.KF-ORTFLEX
17.KF-US 💵💵💵
18.KFHTECH-A 💵💵💵
19.KT-ASHARES-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
20.KT-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
21.KT-EURO/K-EUSMALL 💵💵💵
22.KT-WTAI-A 💵💵💵
23.LHESPORT-A / WE-PLAY 💵💵💵
24.LHINNO-A 💵💵💵
25.BCAP-CTECH 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
26.MATECH-A 💵💵💵
27.M-EM 💵💵💵
28.MFTECH 💵💵💵
29.ONE-DISC-RA 💵💵💵
30.ONE-UGG-RA 💵💵💵
31.ONE-GECOM 💵💵💵
32.PRINCIPAL GCLOUD-A
33.PRINCIPAL GHEALTH-A
34.PWIN 💵💵💵
3
35.SCBKEQTG 💵💵💵
36.SCBUSSM
37.TCHTECH-A / SCBCTECHA 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
38.T-ES-GGREEN 💵💵💵
39.T-ES-GINNO / TMB-ES-GINNO 💵💵💵
40.T-GLOBALENERGY / MRENEW 💵💵💵
41.TBIOTECH
42.TCHCON 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
43.TCLOUD
44.TGENOME 💵💵💵
45.TGHDIGI
46.TNEXTGEN / WE-CYBER 💵💵💵
47.TMB-ES-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
48.TMBAGLF 💵💵💵
49.TMBCOF 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
50.TMBGQG
51.UCI 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
52.UCHI 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
53.UEDTECH 💵💵💵
54.UEV
55.WE-CHIG 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
4
56.WE-GOLD 💵💵💵
57.KFINFRA-A
58.B-INNOTECH
59.KFGBRAND-A
60.SCBS&P500 💵💵💵
61.SCBDJI(A) 💵💵💵
62.SCBNK225
63.WE-TENERGY / SCBCLEANA 💵💵💵
64.K-WORLDX
65.T-Premium Brand
67. P-CGREEN 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
68. K-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
69. KFCMEGA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
70. WE-CANB, MCANN 💵💵💵
71. LHMOBILITY 💵💵💵
72. TNEWENGY 💵💵💵
73. PRINCIPAL GCLEAN-A 💵💵💵
74. BCAP-CLEAN 💵💵💵
75. TMB-ES-STARTECH 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
3
📌หมายเหตุ : หลังจากทางการจีนได้ลงดาบบริษัทกลุ่มการศึกษาในประเทศทั้งหมดที่ครอบคลุมระดับ K-12 ให้เปลี่ยนเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร และมีเงื่อนไขข้อจำกัดในการระดมทุนต่างๆ เพื่อไม่ให้เป็นผลเสียกับเด็กในระยะยาว และเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายทางบ้านที่ทำให้อัตราการเกิดของประชากรจีนน้อยลงจากค่าเรียนกวดวิชา ทำให้พื้นฐานหุ้นกลุ่มนี้เปลี่ยนไปถาวร โดยได้รับการยืนยันจากทางการในวันที่ 25 ก.ค. 2021 ยังไม่รวมถึงที่ทางการจีนเข้ามามีบทบาทการควบคุมบริษัทเทค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแง่การผูกขาด หรือ ความปลอดภัยของข้อมูลที่จัดเป็นความมั่นคงของชาติ ซึ่งส่งผลให้มีการถอดแอพไม่ให้ผู้ใช้งานใหม่สามารถ Download ได้ เช่น Didi Global ที่ทำการ Listing ในตลาดสหรัฐฯ โดยไม่มีกำหนดว่าระยะเวลาการตรวจสอบหรือคุมเข้มในหลายๆอุตสาหกรรมจะสิ้นสุดเมื่อไหร่
ภายหลังรัฐบาลจีนออกกฎเกณฑ์เพื่อควบคุมธุรกิจภาคการศึกษาในวันที่ 24 ก.ค. ได้สร้างแรงกดดันให้ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงในช่วงที่ผ่านมา โดยรายงานจาก Bloomberg เผยว่าหน่วยงานกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ในจีนจัดการประชุมด่วน ในวันที่ 28 ก.ค. 2021 หลังตลาดหุ้นจีนถูกเทขายอย่างหนัก เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการผ่อนคลายความกังวลที่เกิดขึ้น เกิดสัญญาณที่ดีต่อตลาดหุ้นจีนในระยะสั้น ที่เข้ามาช่วยลดความกังวลจากรัฐบาลจีนที่อาจกระจายการควบคุมไปยังอุตสาหกรรมอื่น
ทางผู้เขียนจึงขอแบ่งออกเป็น 3 แนวทางในการลงทุนหุ้นจีนจากนี้เป็นต้นไป ดังนี้
1. ยังคงถือต่อ เนื่องจากทางผู้จัดการกองทุนน่าจะมีการลดหุ้นกลุ่มการศึกษาหรือกลุ่มเสี่ยงออก หลังจากทุกอย่างคลี่คลาย ระยะยาวน่าจะส่งผลดี
2. ลดสัดส่วนหรือรินขายออก เนื่องจากหากมีเหตุการณ์ลงดาบแบบนี้ทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้แทบตอกฝาโลง ก็เป็นไปได้ว่าจะมีอีกหลายธุรกิจที่จะตามมา เพื่อทำให้ค่าใช้จ่ายของประชาชนลดลง เพื่อส่งเสริมการมีบุตรให้มากขึ้นได้ในครอบครัว
3. ทยอยซื้อเพิ่ม เพราะเป็นโอกาสดีที่หุ้นพื้นฐานดี ราคาลงมาพอสมควรแล้ว และมองว่า ทางการจีนไม่น่าลงดาบหนักๆ ในอุตสาหกรรมอื่นแบบนี้
💵💵💵 คือ น่าทยอยสะสมวันนี้ หากใครอยากทยอยลงทุน
🇨🇳🇨🇳🇨🇳 คือ น่าทยอยสะสมสำหรับกลุ่มกองทุนจีนกรณีที่เราอยู่ในข้อ 3 ของหมายเหตุ
💵หรือหากใครคิดว่าการดีดขึ้นมามากในรอบนี้ จะถือโอกาสขายหรือสับเปลี่ยนกองเพื่อลดสัดส่วนหุ้นเทคฯ ก็ทำได้ตามแผนการที่เราตั้งใจไว้ได้เช่นกันครับ
📌โดยทองคำมีแนวรับที่น่าเข้าสะสมทองคำที่ระดับ 1660, 1680, 1700, หรือ 1730, 1775 , 1800 เพื่อคงปริมาณทองคำอยู่ในพอร์ทการลงทุนราวๆ 5-15%
📌กรณีที่คนมีแล้วอยากจะขายรินกำไรออก ก็มีแนวต้านตั้งแต่ 1840, 1890, 1900, หรือ 1920 ครับ ที่พอทยอยขายได้
💵สำหรับทองคำผมได้ทำคลิปมุมมองทองคำเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (19 ก.ย. 2021) ในแง่ของปัจจัยทางกราฟเทคนิค และปัจจัยพื้นฐาน สำหรับใครที่อยากดูรายละเอียดคลิกได้เลยที่ https://www.blockdit.com/posts/614742e19b5d1e0c58e1f2a4
💵คำแนะนำการขายสำหรับคนที่ต้องการรินกำไรขายออกบ้างหรือจะขายทั้งหมดก็ตาม โดยผมใช้ RSI ที่เกิน 70 ในตัว ETF ที่เป็นกองแม่ของกองทุนนั้นๆ หรือแยกดูเป็นหุ้นรายตัว พบว่ามี RSI เกิน 70 มากกว่าครึ่ง หรือ ดัชนีอยู่ใกล้แนวต้านเดิม พบว่ามีกองที่เริ่มน่าขายรินกำไรออกได้ ได้แก่
1. กองทุนอินเดีย
2. กองทุนดัชนี Nasdaq เช่น K-USXNDQ-A
3. กองทุนดัชนี S&P 500 เช่น SCBS&P500
4. กองทุนทั่วโลก : TMBGQG/K-WORLDX, B-GTO หรือ กองทุนที่เน้นหุ้นใหญ่อย่าง Microsft, Facebook
5. UEV
6. ONE-UGG-RA, K-CHANGE-A, K-HIT (คนที่ซื้อกลางพ.ค.)
7. KFGBRAND-A
8. กองทุนหุ้นสหรัฐ Mid-small caps : SCBUSSM, ABAGS
9. กองทุน Tech เช่น B-INNOTECH, KF-GTECH, KFHTECH-A
10. กองทุนหุ้นสหรัฐ เช่น K-USA-A, KF-US, SCBUSAA
11. กองทุนยุโรป เช่น ASP-EUG, KF-EUROPE, KT-EURO/K-EUSMALL
12. Cloud computing เช่น Tcloud, Principal Gcloud-A
13. กองทุนญี่ปุ่น เช่น ASP-JHC, SCBNK225
สำหรับการขายเหมาะกับคนที่ได้กำไรมาเยอะแล้ว 25% ขึ้นไป สามารถรินกำไรออกได้ครับ (ทั้งนี้แล้วแต่ผู้ลงทุนพิจารณา ไม่ต้องถึงกับ 25% ก็ได้ครับ)
2
📌สำหรับข้อมูลข้างต้น เหมาะกับคนอยากจับจังหวะการลงทุน หากใครมีแผนทำ DCA ซื้อทุกๆเดือนอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องดูส่วนนี้นะครับ ให้ทำตามวินัยเดิมที่ตั้งใจไว้ได้เลยครับ
📌หมายเหตุ ความเห็นข้างต้น เป็นการใช้กราฟเทคนิคดูจุดเข้าซื้อ ไม่ได้ยืนยันความถูกต้อง 100% เพราะซื้อแล้ว ราคาอาจย่อลงได้กว่าเดิม และการซื้อกองทุนก็ไม่ได้ราคา Real time ตามหน้าหุ้นนั้นๆครับ
🌟 มุมมองดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก By หนีดอย
DOW JONES, S&P500, NASDAQ, RUSSELL2000
CSI300, HSI, HSTECH, KOSPI
NIKKEI225, SENSEX, SET, VN30, STOXX50, STOXX600
ประจำวันที่ 18 ก.ย. 2021 https://www.blockdit.com/posts/6145c860b4d7ab0c695a54ba
🌟 Series : Review Tiger Broker โบรคเกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับผม เมื่อต้องการลงทุนหุ้นต่างประเทศ :
🌟 Clip มุมมอง Cryptocurrency | By หนีดอย
BTC, ETH, XRP, BNB, ADA, LTC, DOGE, SOL
ประจำวันที่ 19 ก.ย. 2021 : https://www.blockdit.com/posts/6146ce7bb4d7ab0c69c7009a
🌟 แจกตาราง “กองทุน” 622 กองทุน (อัพเดท 31 ก.ค. 2021)
ครอบคลุม SSF, RMF, PVD จัดเป็นทั้งหมด 18 กลุ่ม ดังนี้
1. Money Market
2. Healthcare
3. Global
4. China
5. US
6. Asia Ex.Japan
7. ASEAN
8. Gold & Mining
9. Commodities
10. REITs
11. Emerging Markets
12. Europe
13. Japan
14. South Korea
15. India
16. Vietnam
17. Technology
18. Oil
ปล. การจัดทำตารางนี้อาจมีไม่ครบทุกกองในประเทศไทย
พิเศษ!!! เพียงกด Like และกด Share โพส เปิด Public
 พร้อมแคปภาพเพื่อรับไฟล์ตารางกองทุน เป็น Excel
แล้วส่งภาพมาทาง Inbox ทาง FB Fanpage หนีดอยได้เลย...
โดยทางไฟล์จะสามารถคลิกที่ชื่อกองทุน
แล้วลิงค์ไปยังรายละเอียดกองทุนแต่ละกองได้
3
ติดตามหนีดอยได้ที่
📌Blockdit - blockdit.com/needoy
📌Telegram - t.me/needoy
📌Line (openchat) - bit.ly/lineneedoy
📌YouTube - bit.ly/youtubeneedoy
📌Spotify : spoti.fi/2NLRVBK
📌Apple Podcast : apple.co/3pC8Gwh
📌Podbean : bit.ly/podbeanneedoy
📌Google Podcast : bit.ly/googlepodcastneedoy
📌 คัมภีร์หนีดอย ใน 20 ชั่วโมง ที่สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหานักลงทุนที่อยากรู้ว่าเราควรรู้อะไรในการลงทุนทุกสินทรัพย์ สามารถเลือกเรียนหัวข้อที่สนใจได้ เช่น อยากเข้าใจกราฟ เรียนแต่หัวข้อที่ 4 แต่ถ้าต้องการรู้หมดทุกศาสตร์ อยากลงทุนแบบจริงจัง 20 ชั่วโมงที่ว่านี้จะทำให้เข้าใจภาพรวมทั้งหมด
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งหมดได้ที่ www.blockdit.com/posts/60b1da0997d8a40c5a2e4809
📌 เพียง 200 บาทต่อ 1 ชั่วโมง เท่านั้น!!!
สนใจติดต่อรายละเอียดได้ที่ Line : cescassawin
โฆษณา