21 ก.ย. 2021 เวลา 01:38 • สุขภาพ
Intranasal vaccine : ทางเลือกใหม่ในการป้องกันโควิด
รูปแบบของวัคซีนโควิดที่เราคุ้นเคยในปัจจุบันนี้คือวัคซีนชนิดฉีดเข้ากล้ามเนื้อ (Intramuscular) ซึ่งมีหลักการเตรียมวัคซีนอยู่หลากหลาย ทั้งวัคซีนเชื้อตาย, Viral vector, Protein subuint, หรือ mRNA vaccine
ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดวัคซีนชนิด Intramuscular จะทำให้มีภูมิชนิด IgG ต่อเชื้อโควิดภายในร่างกายสำหรับป้องกันการก่อโรค ดังนั้น จุดสำคัญที่จะทำให้วัคซีนชนิด Intramuscular มีประสิทธิภาพคือจะต้องกระตุ้นให้ร่างกายสร้าง IgG ที่จำเพาะต่อเชื้อในปริมาณที่มาก และมีความสามารถในยับยั้งตัวเชื้อ (Neutralization) ได้ อย่างไรก็ตาม IgG ที่เกิดขึ้นจากวัคซีนชนิด Intramuscular นั้นมักจะมีบทบาทสำคัญต่อการป้องกันระบบทางเดินส่วนล่าง (เช่นในปอด) แต่สำหรับทางเดินหายใจตอนต้น IgG จะมีบทบาทป้องกันได้ก็ต่อเมื่อมีระดับของ serum IgG ที่สูงมากจริง ๆ ดังนั้นเซลล์บริเวณทางเดินหายใจตอนต้น ก็อาจจะตกเป็นเป้าหมายของการติดเชื้อ ให้เชื้อเข้ามาเพิ่มจำนวน และแพร่เชื้อให้คนรอบข้างได้อยู่ (ดูได้จากรูปประกอบ)
แต่สำหรับวัคซีนในรูปของการฉีดเข้าจมูก (Intranasal) นั้นจะ Concept จะแตกต่างออกไป การให้วัคซีนชนิด Intranasal จะทำให้เกิดภูมิชนิด IgA ทั้งภายใน Serum และเยื่อเมือกต่าง ๆ ภายในทางเดินหายใจ (Respiratory fluid) ซึ่ง IgA ที่พบได้ใน respiratory fluid นี้เองที่จะมีบทบาทสำคัญมากในการป้องกันการติดเชื้อในทางเดินหายใจตอนต้น และทำให้ผู้ที่ได้วัคซีนชนิด Intranasal แล้วบังเอิญติดเชื้อขึ้นมามีโอกาสที่จะแพร่เชื้อให้คนรอบข้างน้อยกว่าผู้ที่ได้วัคซีนชนิด Intramuscular
เท่านั้นยังไม่พอ วัคซีนชนิด Intranasal ยังช่วยให้มีการสร้าง memory B และ T cell ภายใน Respiratory fluid ซึ่งภูมิประเภทนี้จะมีบทบาทในการทำลายตัวเชื้อโดยตรง ลดการแบ่งตัวของเชื้อ และช่วยให้ Recover จากการติดเชื้อได้ดีขึ้น เมื่อประกอบกับ IgA ที่กระตุ้นขึ้นมา วัคซีนชนิด Intranasal จึงมีคุณสมบัติในการสร้างภูมิสองชั้น ที่ช่วยในการป้องกันการติดเชื้อโควิดได้ตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการเลย
2
สำหรับในปัจจุบัน วัคซีนชนิด Intranasal ยังมีอยู่เพียง 7 ตัวเท่านั้น แบ่งเป็นวัคซีนชนิด Live-attenuated 3 ตัว Viral vector 3 ตัว (มีของ AZ เป็นหนึ่งในนั้นด้วย) และ Protein subunit 1 ตัว ซึ่งทั้ง 7 ตัวนี้ยังอยู่ใน Clinical study phase I อยู่ จึงต้องรอลุ้นกันต่อไปว่าผลการศึกษาของวัคซีนกลุ่มนี้นั้นจะออกมาเป็นอย่างไร แต่เนื่องจากรูปแบบของการเตรียมวัคซีนบางตัวจึงทำให้พอคาดเดาข้อห้ามใช้ได้ เช่น ห้ามใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี, ผู้ใหญ่อายุมากกว่า 49 ปีหรือมีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกัน สำหรับ Intranasal vaccine ชนิด Live-attenuated
ซึ่งในอนาคต อาจมีการนำเอาวัคซีนชนิด Intranasal มาปรับใช้เข้ากับ Regimen ในการฉีดวัคซีน โดยอาจจะเป็นการฉีดวัคซีนชนิด Intramuscular 2 dose เพื่อเพิ่มภูมิชนิด IgG ก่อน (เนื่องจากจะได้ภูมิที่ยาวนานมากกว่า) จากนั้นจึงค่อยใช้วัคซีนชนิด Intranasal เป็น Booster ในช่วงที่มีการระบาดของเชื้อหนัก ๆ ก็เป็นได้
Reference : Lund FE. Randall TD. (2021). Scent of a vaccine: Intranasal vaccination should block SARS-CoV-2 transmission at the source. Science. 373(6553): 397-399.
โฆษณา