27 ก.ย. 2021 เวลา 05:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
จะคว้ากำไรจาก “กองทุนรวม” ต้องดู 5 สิ่งนี้ให้เป็น!
หลายคนอาจจะได้ยินคำแนะนำว่าถ้าเพิ่งเริ่มต้นลงทุนให้ลองศึกษา “กองทุนรวม” เพราะเป็นสินทรัพย์การลงทุนที่เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่หัดลงทุน คำกล่าวนี้เป็นเรื่องที่ไม่เกินจริง แต่ก็เป็นเรื่องจริงที่ยังครอบคลุมไม่ทั้งหมด เพราะความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนรูปแบบใด ง่ายแค่ไหน
สิ่งหนึ่งที่เราจำเป็นต้องมีก็คือ “ความรู้ในสิ่งที่เราจะลงทุน”
วันนี้ aomMONEY จึงขอหยิบ 5 สิ่งที่เราจำเป็นต้องรู้และดูให้เป็น หากคิดจะลงทุนในกองทุนรวม โดยมีรายละเอียดดังนี้ครับ
✅ 1) ดูนโยบายการลงทุนของกองทุนนั้นๆ ให้เป็น , รู้ว่ากองทุนที่เราเลือกมีธีมการลงทุนยังไง?
ในการซื้อกองทุน เราจำเป็นต้องรู้ครับว่า กองทุนที่เราเลือกมีนโยบายลงทุนกับสินทรัพย์ประเภทไหน เช่น ตราสารหนี้ หุ้น หรืออสังหาฯ หรือไปลงทุนในกองทุนต่างประเทศอีกที วิธีดูตรงนี้ก็ไม่ยากเลยครับ เพียงแค่เพื่อนๆ เสิร์ชชื่อกองทุนใน Google ก็จะเจอกับ “หนังสือชี้ชวนส่วนสรุปการลงทุน (Fund Fact Sheet) ของกองทุนนั้นๆ” ในเปเปอร์ชุดนั้นจะมีส่วนอธิบายว่ากองทุนนั้นจะนำเงินไปลงทุนกับอะไร ที่ไหนบ้าง
✅ 2) ดูระดับความเสี่ยงและความผันผวนของกองทุน
ระดับความเสี่ยงของกองทุน (Risk Spectrum) มีทั้งหมด 8 เลเวล ไล่ตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำ-สูง ลองเช็กให้ดีว่ากองทุนที่เราสนใจมีความเสี่ยงอยู่ในระดับใด เรารับได้แค่ไหน และอีกจุดหนึ่งที่อยากให้ดูคือ “ปัจจัยความเสี่ยงที่สำคัญ” คือ กองทุนนั้นมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์มากน้อยแค่ไหน ยิ่งมีค่าความผันผวนของผลการดำเนินงาน (SD) สูง ก็แปลว่ากองทุนนั้นมีความผันผวนสูง แม้บางกองทุนจะบอกว่าความเสี่ยงต่ำ แต่มีความผันผวน SD สูง ก็แปลว่ามีความเสี่ยงสูงอยู่นะครับ
✅ 3) ดูสินทรัพย์ที่กองทุนเรานำเงินไปลงทุน
หนังสือชี้ชวนส่วนสรุปการลงทุน “จะมีอันดับสินทรัพย์ 5 ตัวแรกที่กองทุนเลือกลงทุน” เพื่อให้เราเห็นแนวโน้มสินทรัพย์ของกองทุนว่า เน้นธุรกิจแนวไหน ลงทุนในหุ้นเล็กหรือหุ้นใหญ่ โดยสิ่งที่เราต้องสังเกต คือตรงมุมขวาบนสุดหน้าแรกของหนังสือชี้ชวนฯ จะมีวันที่ระบุอยู่ว่า เปเปอร์ชุดนี้เป็นเอกสารข้อมูลวันที่เท่าไหร่ ซึ่งส่วนมากก็มักจะเป็นข้อมูลย้อนหลัง 1 เดือน
✅ 4) ดูผลตอบแทนย้อนหลังอย่างน้อย 5 ปี
ก่อนตัดสินใจเลือกลงทุนกองทุนสักกอง เราควรดูผลตอบแทนกองทุนย้อนหลังอย่างน้อย 5 ปี อย่าเลือกดูเฉพาะปีที่ผลตอบแทนดีๆ เพราะกองทุนมักจะมีทั้งขาดทุนและกำไร เราต้องดูว่าปีที่ขาดทุนนั้นตัวเลขชนะ Benchmark ของตลาดได้หรือไม่ บางครั้งปีนั้นๆ กองทุนติดลบก็จริง แต่ในตลาดขาดทุนมากกว่านั้นเสียอีก แปลว่ากองทุนที่เราสนใจก็เจ๋งพอตัวนะ
✅ 5) อย่ามองข้ามค่าธรรมเนียมกองทุน รวมไปถึงค่าธรรมเนียมขาซื้อเข้าและขายออก
ค่าธรรมเนียมมีผลกระทบกับผลตอบแทนที่เราจะได้รับ เพราะมันคือต้นทุนระยะยาว โดยค่าธรรมเนียมจะถูกหักจากยอด NAV รายวัน และจะมีค่าธรรมเนียมอีกอย่างหนึ่งที่เรียกเก็บจากผู้ถือหน่วย จะถูกหักทันทีที่ซื้อเพื่อนำไปซื้อหลักทรัพย์ให้เรา และเป็นค่าการตลาดนั่นเอง ให้พิจารณาค่าธรรมเนียมที่เป็นค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมด ถ้าเรารู้สึกว่าแพงไป ไม่คุ้มค่า ก็อาจพิจารณาเลือกซื้อกองทุนอื่นแทนครับ
และนี่คือ 5 สิ่งที่เราควรดูให้เป็น หากคิดจะทำกำไรจาก “กองทุนรวม” ก็หวังว่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ทุกคนนะครับ สำหรับใครที่มีเทคนิคนอกเหนือจากนี้ คอมเมนต์แนะนำกันไม่ได้นะครับ
#aomMONEY
◤ = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
👍 ชอบกด Like โดนใจ กด Share
และอย่าลืม ✅ See First
เพื่อที่จะได้ไม่พลาดข่าวสารใหม่ ๆ ก่อนใคร
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = ◢
ติดตามความรู้ทางการเงินในช่องทางอื่นๆ ได้ที่
📌 กลุ่มกองทุนไหนดี https://bit.ly/3aOjgMl
สนใจโฆษณาติดต่อ :
👉 Tel: 088-099-9875 (แน้ม)
โฆษณา