มรดกที่ไม่ได้มาในรูปแบบของเงิน...
Cr. https://bestlifeonline.com/real-missing-treasures/
ช่วงนี้เลี่ยงกับคำนี้ไม่ได้จริงๆค่ะ พอนึกถึงเรื่องเงินแล้ว เรากลับเอะใจขึ้นมาว่าแล้วอะไรที่เราได้มาที่ไม่ใช่เงินทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจบ้าง...
ย้อนไปประมาณ พ.ศ. 2560 เราถูกตรวจพบว่ามีก้อนเนื้อขนาดเล็ก (จากการสัมผัส) อยู่ที่เต้านมข้างขวา หมอเลยตัดสินใจผ่าก้อนเนื้อนั้นออกมาเพื่อตรวจว่าเป็นเนื่้อร้ายหรือไม่
กว่าผลจะออกต้องรอประมาณ 2 สัปดาห์ ความรู้สึกช่วงนั้นทั้งกลัว และจิตตกมาก แต่ก็ได้กำลังใจจากเพื่อนๆและครอบครัวที่คอยหล่อเลี้ยงเราอยู่
2 สัปดาห์ผ่านไป ผลปรากฏว่า เป็นก้อนเนื้อขนาด 2.5 ซ.ม. เป็นแค่ก้อนไขมันธรรมดาค่ะ.. โอ๊ย!! โล่งใจไปในระดับหนึ่ง แต่หมอยังต้องให้เราคอยสังเกตและตรวจเต้านมด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง เพราะเรามีโอกาสเป็นได้อีก (ตอนที่ตรวจเจอก้อนเนื้ออายุ 24 เท่านั้นเอง) ก็ยังโชคดีที่ยังไม่ใช่ข่าวร้าย
ถัดมาอีก 2 ปี ก็มีเจ้าเนื้องอกก้อนเล็กมาอยู่ในมดลูกอีก (นี่มันอะไรกัน) ทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติ อาการจิตตกก็หวนกลับมาอีกครั้ง แต่ยังไม่ผ่าออกนะคะ หมอให้ยาปรับฮอร์โมนและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทั้งหมดที่จะก่อให้เกิดก้อนในมดลูก ด้วยความกลัว เพราะเกิดมาชีวิตนี้ยังใช้ไม่คุ้มเลย เลยตัดสินใจปรับพฤติกรรมของตนเองใหม่ทั้งหมด งดอาหารที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจน หรืออาหารที่อาจมีฮอร์โมนเร่งโตต่างๆ เช่น ในเนื้อไก่ เครื่องในไก่ หรือแม้แต่น้ำเต้าหู้ที่เรากินเกือบทุกวัน ก็ต้องหยุดกิน และสิ่งที่ต้องทำเพิ่มขึ้นคือออกกำลังกาย ...
ใช้เวลาในการรักษาและพบหมอตามนัดอย่างสม่ำเสมอ ควบคู่กับการปรับพฤติกรรมนานอยู่เป็นปีค่ะ แล้วเราก็ได้ฟังข่าวดีคือ..ก้อนนั้นมันหายไปจากมดลูกเราแล้ว สิ่งที่ทำมาก็ไม่สูญเปล่า แต่คงต้องดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่องและดีขึ้นกว่าเดิม
ประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เรากลับมาคิดว่า ทำไมเราต้องเจออะไรแบบนี้ ส่วนหนึ่งมาจากพันธุกรรมค่ะ คุณแม่เคยผ่าตัดก้อนเนื้อในมดลูก และจากนั้นท่านก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง เราได้แม่มาเต็มๆ และอีกส่วนหนึ่งคือการใช้ชีวิตของเราเอง ที่ผ่านมาประมาทมาก กินทุกอย่างที่อยากกิน ไม่ใส่ใจเรื่องของการออกกำลังกาย
ทุกวันนี้เราปรับหมดค่ะ ทั้งการกินการออกกำลังกาย ทำได้ดีกว่าเดิมเยอะมาก แล้วสุขภาพก็ดีขึ้นจริงๆ ฮอร์โมนสมดุลขึ้น อารมณ์ดีขึ้น ร่างกายแข็งแรง แต่เรายังคงต้องสังเกตอาการผิดปกติของตัวเองเสมอ เพราะเจ้าวายร้ายมันยังสามารถกลับมาหาเราได้อีก อย่างน้อยเรายังโชคดีที่ตรวจพบเร็ว และปรับตัวได้ทัน ไม่ยอมแพ้ให้เจ้าวายร้ายสารพัดก้อนเนื้อนั้นมาทำอะไรเราได้
ถึงแม้ว่ามรดกชิ้นนี้เราไม่เคยอยากได้เลย แต่เมื่อเราได้มันมาแล้ว อยู่ที่ตัวเราว่าเราจะจัดการอย่างไร จะเก็บมันไว้ หรือตัดมันออกไปจากชีวิต
ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และติดตามกันนะคะ ประสบการณ์ครั้งนี้สอนให้เราไม่ประมาทในการใช้ชีวิต และหวังว่าคงพอเป็นแนวทางในการใช้ชีวิตของใครหลายๆคนได้ค่ะ...ขอบคุณค่า
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
