23 ก.ย. 2021 เวลา 03:00
Five-Hour Rule กฎทองแห่งการพัฒนาตัวเอง
กุญแจสู่ความสำเร็จที่คนเก่งระดับโลกทำกัน
คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมคนเก่งๆ ระดับโลกถึงประสบความสำเร็จอย่างมากมาย? เป็นเพราะพวกเขามีต้นทุนชีวิตที่เหนือกว่า ดวงที่ดีกว่า มีเวลาที่มากกว่า หรือทุ่มเทมากกว่าเรากันแน่?
จริงๆ แล้วคำตอบของเรื่องนี้ก็คือ ‘การพัฒนาตัวเอง’ บางคนอาจจะคิดว่า แค่นี้ก็ยุ่งมากพออยู่แล้ว เอาเวลาไปก้มหน้าก้มตาทำงานน่าจะดีกว่า เพราะถ้าเป็นการทำงานแล้วก็ดูจะให้ผลลัพธ์ที่เห็นผลได้ชัดเจนกว่า
สำหรับใครที่กำลังคิดแบบนี้อยู่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรหรอกนะ แต่ถ้าคุณลองไปดูกิจวัตรของคนเก่งระดับโลกหลายๆ คนแล้ว ก็จะพบว่า ไม่ว่าจะยุ่งมากแค่ไหน พวกเขาก็ยังมีเวลาสำหรับพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
ซึ่งสิ่งที่พวกเขาเหล่านี้มักจะทำกันเป็นประจำก็คือการให้เวลากับตัวเอง 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์หรือที่เรียกว่า ‘กฎ 5 ชั่วโมง’ นั่นเอง
และก่อนจะไปทำความรู้จักกฎนี้กัน ต้องบอกก่อนว่า กฎนี้ไม่ใช่กฎที่เราเหมารวมขึ้นเองจากกิจวัตรที่คล้ายๆ กันของเหล่าคนดังเหล่านี้ แต่มันมีที่มาที่ไป และมีผู้คิดค้นด้วย
กฎ 5 ชั่วโมงหรือ Five-Hour Rule คือกฎการใช้เวลาสำหรับการพัฒนาตัวเองสัปดาห์ละ 5 ชั่วโมง และถ้าถัวเฉลี่ยเป็นวันแล้ว ก็ตกอยู่ที่ 1 ชั่วโมงต่อวัน (ในทุกๆ วันธรรมดา หรือ 5 วันไหนในแต่ละสัปดาห์ก็ได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการจัดสรรเวลาของแต่ละคน) โดยผู้คิดค้นกฎนี้คือไมเคิล ซิมมอนส์ (Michael Simmons) ซึ่งเขาก็ไปได้ไอเดียมาจากการสังเกตพฤติกรรมของนักประดิษฐ์เอกของโลกอย่างเบนจามิน แฟรงคลิน (Benjamin Franklin) ที่มักจะใช้เวลาไปกับการเรียนรู้เรื่องต่างๆ และให้เวลากับตัวเอง
วันนี้ เราเลยจะพาทุกคนไปดูกันว่า ในกฎ 5 ชั่วโมงนี้ประกอบด้วยกิจกรรมอะไรกันบ้าง
.
1. การอ่าน (Reading)
.
วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) นักลงทุนระดับโลกใช้เวลากว่า 80 เปอร์เซ็นต์ไปกับการอ่าน และการคิด บิลล์ เกตส์ (Bill Gates) ซีอีโอของไมโครซอฟต์ (Microsoft) อ่านหนังสือมากถึง 50 เล่มต่อปี บารัค โอบามา (Barack Obama) อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอ่านหนังสืออย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง การอ่านถือเป็นหนึ่งในกิจวัตรพวกเขาเหล่านี้มาโดยตลอดตั้งแต่สมัยที่ยังไม่ประสบความสำเร็จจนได้รับการยอมรับอย่างมากมายในทุกวันนี้
.
พกหนังสือติดตัวตลอดเวลาหรือติดตั้งแอปพลิเคชันอีบุ๊ก (e-books) บนมือถือของคุณ ทำยังไงก็ได้ให้มันอยู่ใกล้ตัวมากที่สุดเพื่อที่จะหยิบขึ้นมาอ่านได้ทุกเมื่อ
ส่วนใครที่บอกว่า ไม่มีเวลาจริงๆ งั้นนึกภาพเศษเวลาของแต่ละวันดู เวลาที่นั่งรถไปทำงาน รอใครบางคนก่อนเริ่มการประชุม ลองคิดเล่นๆ ว่า แทนที่จะนั่งไถฟีดบนโลกโซเชียลให้เวลาผ่านพ้นไป แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นการอ่านหนังสือแทน คุณก็มีความรู้ และมุมมองใหม่ๆ มากขึ้นกว่าเดิมแล้ว
ซึ่งการอ่านที่ว่าก็อาจจะไม่ต้องเอาเป็นเอาตายถึงขั้นต้องอ่านทั้งเล่มให้จบในทันทีเสมอไป ค่อยๆ เก็บเล็กผสมน้อยไปเรื่อยๆ เดี๋ยวพอรู้ตัวอีกที ครบ 1 ปี คุณก็อ่านจบไม่รู้กี่เล่มต่อกี่เล่มแล้ว เผลอๆ เจ้าความรู้เหล่านี้ก็อาจจะช่วยต่อยอดให้คุณประสบความสำเร็จในอนาคตได้อีกด้วยนะ
2. การทบทวนตัวเอง (Reflection)
หากพูดถึงการทบทวนตัวเองแล้ว หลายคนอาจนึกถึงช่วงกลางปีหรือสิ้นปีใช่ไหมล่ะ แต่จริงๆ แล้ว อะไรแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่ต้องรอให้เวลาเนิ่นนานแล้วถึงค่อยทำก็ได้ เพราะมันเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย และควรทำอย่างยิ่งในทุกๆ วัน
โดยการทบทวนก็สามารถเป็นได้หลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเขียนลงบนกระดาษหรือการให้เวลาตัวเองได้คิดทบทวนเฉยๆ และนอกจากนี้มันก็เป็นสิ่งที่ทำได้ในเวลาสั้นๆ หรือทำไปพร้อมๆ กับการทำอย่างอื่นได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น แจ็ค ดอร์ซีย์ (Jack Dorsey) ผู้ก่อตั้งทวิตเตอร์ (Twitter) ที่ใช้เวลา 1 ชั่วโมงของแต่ละวันเพื่อทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาในระหว่างที่เดินไปทำงาน เป็นต้น
3. การทดลอง (Experiment)
ราล์ฟ วอลโด เอเมอร์สัน (Ralph Waldo Emerson) นักกวีชาวอเมริกันเคยกล่าวไว้ว่า “ชีวิตคือการทดลอง ยิ่งทดลองก็ยิ่งช่ำชอง”
เราจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่า อะไรเวิร์กหรือไม่เวิร์กผ่านการนั่งคิดเพียงอย่างเดียว อนุญาตให้ตัวเองได้ลองผิดลองถูกบ้าง จริงๆ มันก็มีสิทธิ์จะล้มเหลวหรือผิดพลาดได้แหละ แต่ไม่ต้องไปกลัว เป็นเรื่องธรรมดามากๆ ถ้าล้มก็แค่ลุก! ลุกขึ้นยืนใหม่ให้ได้ในทุกๆ ครั้งเหมือนกับ ‘ตุ๊กตาล้มลุก’ ไม่มีใครประสบความสำเร็จได้โดยไม่เคยล้มเหลว และไม่ลงมือทำ อย่ามัวแต่นั่งนิ่ง ให้โอกาสตัวเอง(ทด)ลองได้แล้ว ขอให้สนุกกับมันนะ!
มองการพัฒนาตัวเองให้เหมือน ‘การออกกำลังกาย’ ไม่ต้องรอให้ถึงช่วงเวลาหรือวันพิเศษ ทำวนไปทุกๆ วัน ถึงแม้จะต้องเจียดเวลาสักเล็กน้อย และดูท่าจะยังไม่เห็นผลในทันที แต่มันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง แล้วคุณล่ะ พร้อมเป็นตัวเองเวอร์ชันที่ดีที่สุดในทุกๆ วันแล้วหรือยัง?
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
.
.
“Knowledge is the only way to success”
- - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามคอนเทนต์เพื่อพัฒนาตัวเองสู่ความสำเร็จจาก Future Trends ได้ที่
(อย่าลืมกด See First เพื่อไม่ให้พลาดคอนเทนต์ใหม่ในทุก ๆ วัน)
#FutureTrends #KnowledgeforSuccess
โฆษณา