23 ก.ย. 2021 เวลา 06:48 • การตลาด
สรุป 4 การเปลี่ยนแปลงของ Food Delivery พร้อม 5 แนวทางปรับการตัวสำหรับร้านอาหารให้อยู่รอด จากงาน DAAT DAY 2021
จากสถานการณ์โควิดที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ ส่งผลให้พฤติกรรมในการใช้ชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยเฉพาะการสั่งอาหารที่มีการใช้บริการของ Food Delivery เข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศไทย ที่มีอัตราการเติบโตของ Food Delivery มากกว่า 100% แน่นอนว่าด้วยจำนวนความนิยมที่เพิ่มมากขึ้น ย่อมส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในมุมธุรกิจตามไปด้วย
โดยเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา แอดได้มีโอกาสไปเข้าฟังงาน DAAT DAY 2021 - Winning Tomorrow Together งาน Digital Advertising Seminar ในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งภายในงานมี Session ที่น่าสนใจในแวดวงการตลาดและโฆษณาดิจิทัล และหนึ่งในนั้นก็คือ Session: Food Delivery Insight During COVID-19 ที่มี Speaker คือ “คุณยอด ชินสุภัคกุล” CEO ของ LINE MAN Wongnai
บอกเลยว่าฟังจบ ได้ความรู้ Insight ในวงการเดลิเวอรีเพียบ! ซึ่งใครที่ไม่ได้เข้าไปฟัง ไม่ต้องเสียใจไปนะคร้าบ เพราะแอดได้สรุป 4 การเปลี่ยนแปลงของ Food Delivery ในครึ่งปีแรกมาให้แล้ว ถ้าอยากรู้ ก็ตามไปอ่านกันเลยครับ!
1. ความถี่และมูลค่าในการใช้บริการเพิ่มขึ้น
ก่อนที่จะเกิดมาตรการล็อกดาวน์ การบริการ Food Delivery เองก็ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากต้องกักตัวอยู่บ้านไม่ใช่จำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้น แต่เป็น “ความถี่” ในการสั่งอาหาร และ “มูลค่า” ของแต่ละออเดอร์ที่เพิ่มมากขึ้น
1
โดยเมื่อเราไม่สามารถออกไปนั่งกินอาหารที่ร้านข้างนอกได้ ทำให้เราต้องพึ่งพา Food Delivery ในทุกมื้อ จึงส่งผลให้ความถี่ในการสั่งอาหารเพิ่มมากขึ้น โดยคุณยอดได้เปิดเผยถึงประเภทของร้านอาหารที่มีจำนวนการสั่งออเดอร์มากที่สุด 10 อันดับ อันดับ 1 คือร้านกาแฟ ตามมาด้วยอันดับ 2 อาหารจานเดียว และอันดับ 3 อาหารตามสั่ง
นอกจากความถี่ที่เพิ่มขึ้นแล้วนั้น สิ่งที่น่าสนใจคือ จำนวน “มูลค่า” ต่อออเดอร์ก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เนื่องจากคนไม่สามารถออกไปนั่งกินอาหารในโอกาสพิเศษได้ จึงต้องใช้การสั่งผ่าน Food Delivery แทน ซึ่งร้านอาหารเองก็ได้มีการจัดโปรโมชั่นในวันพิเศษ ทำให้ตัวเลขค่าใช้จ่ายต่อรายการเพิ่มขึ้น
ตัวอย่างเช่น วันแม่ที่ผ่านมา ผู้บริโภคหันมาซื้อเค้กวันแม่ผ่าน Food Delivery กันมากขึ้น และทำให้วันแม่กลายเป็น New High ในการใช้บริการ Food Delivery เลยทีเดียว!
2. พื้นที่ให้บริการขยายไปรอบนอก
ในช่วงครึ่งปี 2021 ที่ผ่านมา วงการ Food Delivery ได้เติบโตและขยายบริการให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ทำให้พื้นที่ให้บริการที่จากเดิมมีการกระจุกตัวอยู่ที่ในกรุงเทพฯ ได้ขยายพื้นขึ้นไปในจังหวัด Tier 2 อย่าง พัทยา, ขอนแก่น หรือเชียงใหม่มากขึ้น และในจังหวัด Tier 3 อย่าง พิจิตร, แพร่, ลำพูน หรือกาญจนบุรีเองก็มีสัดส่วนการใช้งาน Food Delivery ที่มากขึ้น
2
สรุปได้ว่าในอนาคต Food Delivery จะขยายการให้บริการออกไปครอบคลุมทั่วประเทศไทยอย่างแน่นอน
1
3. คนเคยชินกับความสบาย ต่อให้ไม่มีโควิดก็ยังได้รับความนิยม
1
สำหรับคนในธุรกิจ Food Delivery อาจมีความกังวลว่าหากหมดวิกฤตโควิด-19 ไปแล้ว วงการเดลิเวอรีจะยังได้รับความนิยมเหมือนเดิมหรือไม่ คุณยอดได้ยืนยันว่า Food Delivery จะยังได้รับความนิยมเหมือนเดิมแน่นอน!
1
เพราะคนได้เคยชินกับความสะดวกสบายในการสั่งอาหารแบบนี้แล้ว ดังนั้นจึงยากที่จะกลับไปใช้ชีวิตในแบบเดิม ซึ่งปรากฎการณ์นี้เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า “โควิด” เป็นตัวเร่งที่ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนเร็วขึ้นนั่นเอง
4. ร้านอาหารแทบ “ทุกร้าน” ปรับตัวมาใช้ Food Delivery
แน่นอนว่าจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ร้านอาหารแทบทุกร้าน ต้องปรับตัวและหันมาใช้บริการ Food Delivery กันมากขึ้นเพื่อตามกระแสของผู้บริโภคให้ทัน
1
แม้กระทั่งร้านอาหาร Fine Dining ที่มีการนำเมนูพิเศษสำหรับเดลิเวอรี หรือร้านบุฟเฟ่ต์ที่จัดเซตกินที่บ้าน ทำให้การแข่งขันในวงการ Food Delivery มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น และร้านค้าเองก็ต้องมีการปรับตัวให้เข้าสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที!
ภายใน Session คุณยอดเองก็ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเริ่มต้นเปิดร้านอาหารเดลิเวอรี ซึ่งเราได้สรุปออกมาทั้งหมด 5 คำแนะนำดังนี้!
1. ศึกษาคู่แข่งบริเวณเดียวกัน: สิ่งที่แรกควรทำหากอยากจะเปิดร้านอาหารก็คือการลงพื้นที่ศึกษาคู่แข่งในบริเวณที่คุณอยู่ เพื่อหาว่าอะไรที่ขายดี อะไรที่นิยม และหาสิ่งที่แตกต่างมาปรับใช้กับร้านอาหารของคุณ
2
2. ทำ Self Promotion ดึงดูดลูกค้า: จัดโปรโมชั่นลดราคา, ซื้อเป็นเซต หรือ 1 แถม 1 ก็จะช่วยดึงดูดลูกค้า แถมยังเพิ่มยอดรายการใช้จ่ายต่อหัวให้สูงขึ้นอีก!
2
3. ลง Ads ในแอป Food Delivery: ถ้าหากร้านไหนมีกำลัง การลง Ads จะช่วยเพิ่มการมองเห็น และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น!
1
4. คงคุณภาพอาหารและรสชาติ: โปรโมชั่นอาจช่วยดึงดูดลูกค้าได้ในช่วงแรก แต่การคุณภาพอาหาร และรสชาติก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกค้ากลับมาอุดหนุนอีกรอบ
5. ภาพถ่ายอาหารต้องปัง!: สิ่งสำคัญสำหรับร้านอาหารเดลิเวอรีก็คือ “ภาพถ่าย” ที่จะต้องดึงความโดดเด่นน่ากินของอาหารออกให้ได้มากที่สุด! ดังนั้นร้านค้าจึงต้องให้ความสำคัญกับภาพถ่าย ให้สวยน่ากิน แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงด้วย
1
จากเทรนด์ Food Delivery ที่มีการเติบโตสูงขึ้น นอกจากร้านอาหารที่ทยอยปรับตัวทำเมนูแบบเดลิเวอรีแล้ว แพลตฟอร์ม Food Delivery เองก็มีบริษัทใหม่ ๆ เปิดตัวเข้ามาในสงครามนี้อย่างต่อเนื่อง! เราในฐานะผู้บริโภคเอง ก็ได้แต่จับตามองกันว่าในอนาคต เมื่อมีการแข่งขันที่สูงขึ้นแบบนี้ Food Delivery จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหนบ้าง~
2
แต่นอกจากความรู้ใน Session: Food Delivery Insight During COVID-19 นี้ แล้วนั้น ภายในงาน DAAT DAY 2021 - Winning Tomorrow Together ยังมีข้อมูลดี ๆ จาก Speaker มากประสบการณ์อีกเพียบ! ยังไงก็รอติดตามกันได้นะครับ เดี๋ยวแอดจะมาสรุปให้อ่านอีกแน่นอนน~~
โฆษณา