22 ก.ย. 2021 เวลา 12:49 • หนังสือ
😎😎 Creative Blindness - ภาวะสมองบอด (พร้อมวิธีรักษา) 😎😎 by Dave Trott
เล่มนี้ซื้อเพราะคำโปรยหลังปกที่ว่า...
"ตาบอดทำให้เรามองไม่เห็น
ใจบอดทำให้เรามีอคติ
แล้วถ้า "สมองบอด" ล่ะ มันจะร้ายแรงแค่ไหน?"
⚠️ ลองเปิดอ่านสัก 2-3 หน้า เห็นว่ามี case study เยอะดีเลยตัดสินใจซื้อ และเป็นหนึ่งในหนังสือไม่กี่เล่มที่อ่านจบภายในสามวัน!
▪️ภาพรวมโดยสรุปของ Creative Blindness คือเป็น anecdotes ทั้งเล่ม ได้ฟีลประมาณว่าคนเขียนเจอเคสอะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับ creativity ก็จดๆเอาไว้ พอได้ปริมาณและจำนวนเรื่องตามที่ต้องการ ก็เอามันมาตีพิมพ์เป็นหนังสือซะเลย
▪️หนังสือเล่มนี้จึงไม่มีทฤษฎีในการอธิบายใดๆ ว่า creativity คืออะไร ภาวะที่สมองตื้อ ตัน คิดงานไม่ออกมันเกิดขึ้นได้อย่างไร และจะรักษาอย่างไร นี่คือสิ่งที่ตอนแรกคาดหวังไว้ ว่าจะมาแนวเดียวกับ why we sleep หรือ atomic habits ที่มีทั้งเนื้อหาและตัวอย่างสถานการณ์ประกอบ แต่นี่จะเป็นสิ่งที่ไม่เจอในเล่มนี้ เพราะมันประกอบไปด้วยเคสตัวอย่างล้วนๆ
▪️ถึงอย่างงั้น ก็ยังเป็นหนังสือที่กระชับ เนื้อหาสนุก ไม่เวิ่น อ่านเอาเพลินได้เรื่อยๆ เป็นการยกตัวอย่างเคส และขมวดจบปิดท้ายแต่ละบทเป็นข้อแนะนำ ข้อคิดต่างๆที่ได้จากแต่ละเคส
📌 มีเคสนึงที่ชอบมากที่สุด คือในปี 1985 ที่กรุงวอชิงตัน ตั๋วไปดูฟุตบอลทีม Redskins เป็นที่ต้องการอย่างมาก ถึงขั้นต้องลงชื่อใน waitlist ถึง 25 ปีเลยทีเดียวกว่าจะได้เข้าชม ทีนี้ก็มีสถานี cable TV แห่งหนึ่ง มองเห็น high demand และ short supply ของตั๋วฟุตบอลทีมนี้เป็นโอกาส และได้ทำการส่งบัตรเชิญให้กับผู้คนที่โชคดีสุดๆกลุ่มนึงแบบ random และบอกพวกเค้าว่า คุณได้ตั๋วฟรี! เพียงแค่นำบัตรประชาชน (เพื่อยืนยันตัวตน) มาที่โรงแรมแห่งนี้ในวันนี้ๆ แล้วเดี๋ยวจะมีรถบัสพาทุกคนไปยังสนามเพื่อดูฟุตบอลทีมโปรด
📌 เมื่อถึงวันที่จะไปชมการแข่งขันฟุตบอล กลุ่มคนผู้โชคดีก็มารวมตัวกันที่ห้องจัดเลี้ยงในโรงแรมพร้อมบัตรประชาชน ในห้องจัดเลี้ยงมีทั้ง mascot, cheerleaders, อาหารสุดแสนอร่อย และดนตรีเพียบ! ทุกคนก็ enjoy กับ party กันอย่างเมามันก่อนเตรียมขึ้นรถบัสไปสนาม
📌 ระหว่างที่ทุกคนกำลังสนุกสนาน ทันใดนั้นประตูห้องจัดเลี้ยงก็ถูกเปิดออกด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมาก พร้อมกับตะโกนออกมาว่า ทุกคนในที่นี้ถูกจับแล้ว หมอบลงซะ!
📌 กลุ่มคนผู้โชคดีที่ถูกเลือกมาทั้งหมด แท้จริงคืออาชญากรที่หลบหนีการจับกุมมาหลายปี ทั้งในคดีเล็กๆ ไปจนถึงคดีใหญ่ ทางตำรวจเองก็ไม่มีทั้งงบ และเวลามากพอที่จะไล่ตามจับทีละคน เลยใช้อุบายของฟรีที่ทุกคนต้องการมาล่อ และอาชญากรเหล่านี้ก็พร้อมใจกันมาให้จับ (พร้อม ID card ยืนยันตัวตนไปอีก) เพราะอยากไปดูฟุตบอลทีมโปรดนั่นเอง! โดยบนบัตรเชิญได้มีการลงชื่อ I.M. Detnaw ไว้ ซึ่งจริงๆมันก็คือคำว่า I Am Wanted จากหลังไปหน้านั่นเอง
🔵 แผนการจับกุมทั้งหมดนี้ก็คือตัวอย่าง creativity ในหมู่ตำรวจ ที่สรุปได้ว่า it’s never just about understanding the job. It’s always about understanding people. 🔵
โฆษณา