24 ก.ย. 2021 เวลา 00:55 • ปรัชญา
ขาดแรงจูงใจ
ทำไมต้องให้ใจถูกจูง...วันหนึ่งเมื่อไม่มีอะไรจูงแล้ว...ใจจึงไม่รู้ว่าจะเดินต่อยังไง
เป็นความน่าสงสารอย่างยิ่ง...เพราะเราคุ้นเคยกับการถูกจูงมายาวนาน..จนกลายเป็นนิสัย
เรียนหนังสือ...เอาเกรด เอาใบปริญญาจูง
ทำงาน...เอาเงินจูง
ทำอะไร...ก็เอาเป้าหมายเอาความสำเร็จมาจูง
ใจไม่มีพลังที่จะจูงตัวเอง...จึงต้องอาศัยบุคคลอื่น สิ่งอื่นลากไป..เมื่อถูกปล่อยจึงรู้สึกถึงความว่างเปล่า ไร้เป้าหมาย ขาดที่พึ่ง โดดเดี่ยว
จะว่าไป...ใจมันมีพลังอยู่ในตัว..ไม่จำเป็นต้องให้สิ่งอื่นดึง ฉุด ลาก ผลัก ดัน นั่นคือ ตัวเราเกิดมาพร้อมกับศักยภาพ...แต่เราไม่รู้จักวิธีในการดึงมันออกมาใช้ ไม่รู้จะสตาร์ทตรงไหน จึงปล่อยให้ศักยภาพหลับไหลไปเรื่อยๆ จนขึ้นสนิม กลายเป็นความเฉื่อยชา กลายเป็นไม่มีไฟ
เราสามารถจูงใจตนเองได้...ด้วยการตั้งเป้าหมายในชีวิตให้ชัดเจน คนอื่นเขาจูงใจเราได้ระยะหนึ่ง เช่น ครูอาจารย์จูงใจตอนที่เรียนหนังสือ พ่อแม่จูงใจได้ตอนที่เราท้อถอย เป็นต้น...แต่สักวันหนึ่ง เราจะต้องเดินด้วยตัวเอง เพราะแต่ละคนจะต้องรับผิดชอบชีวิตของตัวเอง...เดินผิดเราก็เจ็บปวดเอง คนอื่นเพียงแค่ปลอบใจ เดินถูกเราก็ภูมิใจเอง คนอื่นเพียงแค่ยินดี
จึงต้องสร้างพลังของใจให้เข้มแข็ง ให้ใจได้มีกำลังหรือกำลังใจ...ที่จะขับเคลื่อนใจให้ก้าวไปข้างหน้า มองหาความหมายในสิ่งที่ทำ...เห็นคุณค่าในสิ่งที่เป็น ตั้งเป้าหมายและเล็งเข็มทิศให้ชัดเจน..
ใจที่มีพลังอยู่ในตัวเอง...จึงเป็นใจที่อิสระ ไม่ต้องตกเป็นทาสของสิ่งใดที่ถูกจูงไป...มีเสรีภาพที่จะเดิน จะพัก จะคิด จะตระหนัก...เพราะรู้ว่าตนไปไหน ถึงไหน อีกเท่าไหร่ เป้าหมายคืออะไร
ผู้เขียนอาจารย์ Montree Linphoo
โฆษณา