ถ้าคุณคือคนจริง การสร้างภาพ มันก็ไม่จำเป็น....
ผู้นำหลายประเทศ พยายามสร้างภาพลักษณ์ตัวเองให้เป็นรูปแบบต่างๆ เพื่อเรียกคะแนนนิยม
เช่นเดียวกับคนในสังคม ที่เรามักจะพูดกันอยู่เสมอเกี่ยวกับการสร้างภาพลักษณ์ให้ดูดี
...แต่มันอาจไม่จำเป็นเลย ถ้าคุณมีดีจริงๆ...
ป้าไปแล้วนะ😊😊😊😊
เยอรมนี ประเทศที่ว่ากันว่า ประชากรปอนด์ต่อปอนด์ มีคุณภาพที่สุดในโลก....
...แน่นอน ว่าคนประเทศนี้ส่วนมาก การศึกษาสูง ความเป็นอยู่ดี วิจารณญาณในการตัดสินใจในทางการเมืองย่อมต้องมีมาตรฐานสูงไปด้วย
...แต่ใครจะคิด ว่าพวกเขามีผู้นำ ที่ถ้าเป็นคนไทยคงไม่เลือก เพราะภาพลักษณ์มันไม่ได้อย่างแรง ในสายตาเรา
..." มนุษย์ป้า " ...
ผมเชื่อว่าใครก็ตามที่ไม่รู้จัก สุภาพสตรีสูงวัยคนนี้ว่าเป็นใคร ก็ต้องมองแบบนั้น
...และใครจะเชื่อว่าคนเยอรมันเลือกเธอมาเป็นผู้นำยาวนานถึง 4 สมัย
...แต่มนุษย์ป้าคนนี้แหละ คือสตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก!....
...และเป็นผู้นำชาติที่แข็งแกร่งในทุกด้านที่สุดของยุโรปในปัจจุบัน...
...ดังนั้น เธอจึงไม่ใช่แค่ผู้นำของชาติ เพียงชาติเดียว แต่ยังเป็นผู้นำของสหภาพยุโรปอีกด้วย...
...ผมกำลังพูดถึง อังเคลล่า แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเยอรมนี ผู้ซึ่งอยู่ในตำแหน่งมาถึง 16 ปี และกำลังจะก้าวลงจากตำแหน่งคนนั้น...
เยอรมนี กำลังจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในวันพรุ่งนี้
ซึ่งก่อนหน้านี้ ป้าแมร์เคิล บอกแล้วว่า "พอ" เลยไม่ลงรับสมัครเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีต่อในครั้งนี้...
...พอคือพอจริงๆนะ ไม่ใช่แบบบางประเทศ ปากบอกพอแล้ว แต่ไปนั่งบงการหลังฉาก ในเยอรมันทำแบบนั้นไม่ได้หรอก...
ว่ากันว่า ถ้าป้าลงแข่งอีก ป้าก็ชนะอีกแหละ
ไม่ใช่ชนะเพราะสายสัมพันธ์ทางการเมือง ไม่ใช่มีเปรียบเพราะกติกาใดๆ เหมือนบางที่ ที่หวังจะอยู่ 20 ปี
...แต่ทั้งหมด เป็นเพราะผลงานของตัวป้าเอง...
ป้าแมร์เคิลนั้น ชนะเลือกตั้งมาตั้งแต่ปี 2005 โน่นเลย
ผ่านมาหมดแล้ว ทั้งวิกฤติเศรษฐกิจ จนมาถึงโควิด ป้าก็พาประเทศของป้ารอดมาได้อย่างดีโดยตลอด
ในวิกฤติเศรษฐกิจช่วงปี 2010 นั้น เยอรมนีของป้าได้รับการย่องย่องอย่างมากในการบริหาร ที่ทำให้ประเทศแทบไม่บอบช้ำอะไรเลย
...ชะลอตัวลงน่ะใช่ แต่ไม่เจ็บตัวมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
มาโควิดรอบนี้ ก็ยังเหมือนเดิม เยอรมันยังเป็นประเทศที่เจ็บตัวน้อย เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านที่มีศักยภาพใกล้เคียงกันอย่างอังกฤษ หรือฝรั่งเศส
...ฝีมือป้าล้วนๆ....
แม้เราอาจกล่าวว่า เยอรมนีนั้นมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว แต่ถ้าพิจารณาจริงๆ ประเทศที่มีระดับใกล้เคียงกัน หรือแม้กระทั่งใหญ่กว่าอย่าสหรัฐฯ และจีน ก็ทำไม่ได้แบบที่เยอรมันทำ ในการรับมือกับเรื่องต่างๆเหล่านี้
...สิ่งที่แตกต่างกัน ก็คือผู้นำประเทศนี่เอง...
ป้าเมอร์เคลนั้น มีพื้นฐานวิธีคิดแบบที่เป็นวิทยาศาสตร์มาก
ซึ่งก็ต้องเป็นแบบนั้นแหละ เพราะป้าเป็นด็อกเตอร์ด้านควอนตัมฟิสิกส์ และนิวเคลียร์ ซื่งว่ากันว่าเป็นศาสตร์ที่ยาก และซับซ้อนที่สุดในโลก
ดังนั้น ระดับมันสมองไม่ต้องพูดถึง เข้าขั้นอัจฉริยะเลยก็ว่าได้
ด้วยวิธีคิดแบบวิทยาศาสตร์ จึงมองอะไรแบบเป็นเหตุผล มีความระมัดระวังสูง
มันทำให้ กระบวนการคิดของป้าแก เป็นลำดับมาก
แต่มันเบสิค เรียบง่าย และได้ผลเสมอ
...จะว่าไปก็น่าแปลก เรื่องวิธีคิดที่ง่ายลักษณะนี้ กลับไม่ค่อยได้นับการยอมรับมากนัก มันอาจเพราะดูไม่เหนือชั้น หรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้...
...ดูเหมือนมนุษย์เราจะชอบอะไรที่มันลึกลับซับซ้อน มากกว่าเหตุผลที่เรียบง่าย แต่เป็นจริงเสมอ...ซึ่งก็แปลกดี
ตัวอย่างที่ชัดเจนมากคือการรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจในช่วงปี 2010
เยอรมนีนี่แหละ คือประเทศต้นแบบการอุ้มธุรกิจเอาไว้ก่อน ด้วยแนวคิดที่เรียบง่ายว่า ถ้าธุรกิจรอด คนก็มีงานทำ หัวใจหลักวิธีคิดของป้าแก มีแค่นี้จริงๆ
ในขณะที่สหรัฐฯในขณะนั้น ใช้วิธีการทางการเงินสลับซับซ้อนมากมาย จนเป็นภาระอีรุงตุงนังมีจนถึงทุกวันนี้
จนมารอบโควิดนี่แหละ เพิ่งจะซึ้งและรับวิธีของเยอรมันมาใช้ จนรอดมาได้อย่างที่เห็น ซึ่งถ้าสหรัฐฯใช้วิธีดั้งเดิม ป่านนี้เราคงไม่เห็นการฟื้นตัวที่ดีแบบนี้หรอก
แน่นอน ป้าแกต้องไม่ใช่คนเก่งคนเดียว แกต้องมีทีมที่ดีด้วย ...
...แต่ทีม จะไม่มีประโยชน์เลย ถ้าสุดท้ายคนตัดสินใจ มันไม่ได้เรื่อง หรือไม่ฟังใคร...
...ดังนั้น เครดิตจึงอยู่ที่ป้าเมอร์เคลไปเต็มๆ...
การเลือกตั้งเยอรมันที่กำลังจะเกิดขึ้น เป็นที่จับตามองของทั่วโลก
เพราะมันไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงผู้นำเยอรมนีเองเท่านั้น แต่ยังหมายถึง การเปลี่ยนแปลงผู้นำยุโรปอีกด้วย
นโยบายยุโรปหนึ่งเดียว จะเดินหน้าหรือถอยหลัง การเลือกตั้งครั้งนี้ของเยอรมัน จะมีผลอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาป้าเมอร์เคล สนับสนุนมาเต็มที่ตลอด
...ซึ่งถ้าผู้นำใหม่ของเยอรมนี ไม่ได้คิดแบบนั้น มันจะมีผลถึงสภาพโดยรวมของสหภาพยุโรปไปด้วย ซึ่งหลายคนก็กังวลเรื่องนี้ไม่ใช่น้อยเลย....
16 ปีของการอยู่ในอำนาจ ของป้า เต็มไปด้วยผลงานในแง่ดีมากกว่า ในทุกด้าน
ป้าทำให้เราเห็นว่า มนุษย์เราไม่ต้องทำตัวเหนือชั้น ไม่ต้องมีภาพลักษณ์อะไร ก็ประสบความสำเร็จได้ในสิ่งนั้นๆ
...ไม่ต้องมีภาพ ผู้นำทางการทหาร แต่ทุกคนก็เกรงใจ...
...เงียบๆ ในเวทีระหว่างประเทศ แต่ทุกการตัดสินใจ ใครก็ต้องฟัง
...ไม่มีภาพนักการเงินระดับเทพ แต่ก็มีความสามารถพอจะกรองข้อมูลออกมาใช้ได้
เป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากจริงๆ และเชื่อว่าคนเยอรมันเอง ก็น่าจะเสียดายไม่น้อยกับการพอแล้วของป้า...
ป้าเมอร์เคล เป็นอะไรที่สอนเราได้ดีในหลายอย่าง
เป็นตัวอย่างที่ทำให้เราเห็นชัดเจนว่า ความสามารถที่แท้จริงนั้นสำคัญกว่าภาพลักษณ์
ทำให้เราเห็นว่า กระบวนการคิด มีรากฐานมาจากการศึกษา ดังนั้นเมื่อต้องเลือกใช้คน ก็ต้องพิจารณาสิ่งนี้เพราะสามารถบอกได้ถึงวิธีคิดของเขาเหล่านั้นได้
...ที่สำคัญและผมชอบมากที่สุด คือ ป้าทำให้เราเห็นว่า ความเรียบง่ายนั้น สำคัญเพียงใด และทรงพลังขนาดไหน
...แนวคิดสลับนซับซ้อน อาจทำให้คน คนหนึ่งดูฉลาด แต่ความเรียบง่ายที่มีเหตุผลรองรับนั้น คือของจริง และทรงพลังกว่ามาก...
ผมดูเรื่องของป้าแล้วนึกถึงหนังกำลังภายในนะ...
...เหมือนยอดคนที่ไม่โดดเด่น และไม่อยากเด่น เรียบง่าย เพราะเข้าใจสภาวะสรรพสิ่ง ที่แท้จริงแล้ว ...
...ไร้กระบวนท่า เพราะที่สุดของกระบวนท่า คือไร้กระบวนท่า...อะไรแบบนั้น...
คงต้องจับตาดูผลการเลือกตั้งเยอรมันเร็วๆนึ้นะครับ ว่าจะออกมาเป็นรูปแบบไหน
มันส่งผลกระทบกับเราพอสมควรเลยแหละ โดยเฉพาะกับท่านที่ลงทุน
ซึ่งถ้าไม่ใช่คนที่มีแนวทางเดียวกับป้าเมอร์เคลเข้ามามีอำนาจในเยอรมัน ก็น่าจะป่วนกันพอดูเลยแหละ ใครถือเงินยูโรไว้ก็ระวังหน่อยแล้วกัน
...ส่วนกับป้า อังเกลล่า มาร์เคลนั้น...
...ต้องบอกว่า นี่คือตัวอย่างของผู้นำที่ดีที่สุดในโลกยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง...
...ซึ่งควรอย่างยิ่ง ที่ใครก็ตามที่มีอำนาจ หรืออยากมีอำนาจควรศึกษา...
...แม้กระทั่งคนทั่วไป ก็ควรจะทำแบบนั้นเช่นกัน ...
...เพราะนี่แหละ คือของจริง และจริงแท้ ที่หาดูได้ไม่ง่ายนัก...
ป้าแกก็เหมือนรถประเทศแกนั่นแหละ เชย เรียบๆ
แต่ใครๆก็รู้ว่ารถเยอรมันนั้นดีที่สุดในโลก
...รถเบนซ์แท้ๆ มันไม่ต้องไปใส่อะไรเพิ่มหรอก...
...ไม่ใช่เบนซ์ซัวเถา ที่ต้องติดโน่น โหนนี่ เพื่อให้เป็นเบนซ์......
...จะเป็นเบนซ์แท้ หรือเบนซ์ซัวเถา ก็ลองคิดกันดูครับ....
- 19
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
