จะซื้อบ้าน ทำไมต้องบังคับซื้อประกันอัคคีภัยด้วย ?
เราคงรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ ถ้าหากเราจะซื้อบ้านสักหลังที่ราคาก็หนักเอาการอยู่แล้ว ยังต้องถูกบังคับซื้อประกันภัยเข้าไปอีก
และเราคงไม่พอใจที่ธนาคารไม่ถามไถ่ความสมัครใจในการทำประกันจากเราก่อน แล้วในความเป็นจริงผู้ซื้อจะต้องทำประกันอัคคีภัยบ้านตามที่ถูกบังคับหรือไม่ แล้วเบี้ยประกันบ้านจะแพงแค่ไหน มาติดตามจากบทความนี้กันค่ะ
ประกันอัคคีภัยบ้าน คือ ประกันวินาศภัยประเภทหนึ่งที่คุ้มครองความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ โดยครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากธรรมชาติและเหตุสุดวิสัยจากมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นไฟป่า ฟ้าผ่า ไฟฟ้าลัดวงจร หรือเหตุเพลิงไหม้จากแก๊สหุงต้ม
แต่ประกันอัคคีภัยจะครอบคลุมทรัพย์สินในบ้านมากน้อยเพียงใด และครอบคลุมทรัพย์สินในบ้านด้วยหรือไม่ ก็ยังขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละประกันด้วย
📌 จำเป็นต้องซื้อประกันอัคคีภัยบ้านหรือไม่
เมื่อกู้ซื้อบ้านกับธนาคาร จะถูกบังคับทำประกันอัคคีภัยบ้านตามกฎหมาย เพื่อใช้เป็นหลักประกันให้กับธนาคารในกรณีที่บ้านเกิดความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้
จึงเป็นเหตุผลที่ผู้กู้ซื้อบ้านจะถูกบังคับให้ทำประกันอัคคีภัยพร้อมกับการซื้อบ้านทุกครั้ง โดยปฏิเสธไม่ได้และจำเป็นต้องต่อประกันอัคคีภัยในระหว่างการผ่อนบ้านจนกว่าจะหมดสัญญาด้วย
หากแต่ไม่จำเป็นต้องทำ เมื่อซื้อบ้านเป็นเงินสด กฎหมายไม่ได้บังคับให้ผู้ที่ซื้อบ้านด้วยเงินสดต้องทำประกันอัคคีภัยบ้าน ดังนั้น ผู้ซื้อบ้านด้วยเงินสดจึงไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อประกันเพิ่มแต่อย่างใดค่ะ
แต่ทั้งนี้ เจ้าของบ้านก็ควรทำประกันไว้ด้วยเพื่อความอุ่นใจ เพราะไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดเพลิงไหม้ขึ้นเมื่อใด หรือจะมีไฟลุกลามมาจากบ้านข้าง ๆ หรือไม่ หากมีประกันติดบ้านไว้ เงินสินไหมทดแทนก็จะช่วยบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นได้
📌 อัตราค่าเบี้ยประกันอัคคีภัยบ้าน
โดยทั่วไปแล้ว เบี้ยประกันภัยบ้านต่อปีจะคิดประมาณ 0.1% จากทุนประกัน เช่น ต้องการทุนประกันบ้านราคา 2 ล้านบาท ผู้ซื้อก็ต้องจ่ายเบี้ยประกัน 2,000 บาทต่อปี โดยเบี้ยประกันอัคคีภัยบ้านจะถูกลง หากซื้อประกันให้ครอบคลุมต่อเนื่อง 2-3 ปี
แต่เบี้ยประกันบ้านจะแพงขึ้น หากผู้ซื้อต้องการความคุ้มครองอื่นนอกจากเหตุเพลิงไหม้ เช่น ต้องการให้ประกันคุ้มครองความเสียหายจากการถูกโจรกรรม หรือความเสียหายจากอุทกภัย เป็นต้น โดยผู้ซื้อสามารถขอให้บริษัทประกันออกแบบความคุ้มครองได้ตามความต้องการได้
📌 ควรเลือกประกันอัคคีภัยบ้านมูลค่าเท่าไรดี
หากมีความเสียหายที่อยู่ในความคุ้มครองของประกันบ้าน ผู้ซื้อจะได้รับสินไหมทดแทนตามมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่เกินมูลค่าของที่อยู่อาศัยและทุนประกัน
ดังนั้น ผู้ซื้อไม่จำเป็นต้องทำประกันเกินมูลค่าบ้านแต่อย่างใด เช่น บ้านราคา 2 ล้านบาท แต่เลือกทุนประกัน 4 ล้านบาท หากเกิดความเสียหายทั้งหมด ก็จะได้รับสินไหมทดแทนสูงสุดเพียง 2 ล้านบาทเท่านั้นค่ะ
ทั้งนี้ ผู้กู้ก็ควรเลือกทุนประกันที่คุ้มครองไม่น้อยกว่า 70% ของมูลค่าบ้าน เช่น บ้านราคา 2 ล้านบาท ก็ควรเลือกทุนประกันอย่างน้อย 1.4 ล้านบาท หากเกิดความเสียหาย ผู้ซื้อก็จะได้สินไหมทดแทนเต็ม 100% จากมูลความเสียหายที่ไม่เกินทุนประกัน
แต่ถ้าเลือกทุนประกันต่ำกว่านั้น สินไหมทดแทนจะลดลงตามสัดส่วนของทุนประกัน เช่น เลือกทุนประกัน 60% หากเกิดความเสียหาย ก็จะได้รับสินไหมทดแทนเพียง 60% จากมูลค่าความเสียหายที่ไม่เกินทุนประกันค่ะ
📌 ควรทำประกันอัคคีภัยบ้านกับใคร
โดยปกติเมื่อตกลงทำสัญญากู้ซื้อบ้าน ธนาคารเจ้าของสัญญาจะเป็นผู้เสนอประกันอัคคีภัยบ้านจากบริษัทในเครือหรือพันธมิตรของตนเอง และให้ผู้ซื้อทำสัญญาพร้อมกันในคราวเดียวค่ะ
แต่ถ้ารู้สึกว่าประกันบ้านที่ธนาคารเสนอมีเงื่อนไขที่ไม่ดีพอ ผู้ซื้อก็สามารถเลือกทำประกันกับบริษัทอื่นได้ แต่ผู้รับผลประโยชน์จากประกันนั้นต้องเป็นธนาคารเจ้าของสัญญา ซึ่งธนาคารเจ้าของสัญญาจึงจะยอมรับได้
ประกันอัคคีภัยบ้าน ช่วยคุ้มครองความเสียหายของบ้านเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ และยังเป็นประกันวินาศภัยที่คุ้มค่า
หากไม่ได้ถูกบังคับให้ทำประกันตามเงื่อนไขของธนาคาร ก็ยังควรทำประกันอัคคีภัยไว้เพื่อความอุ่นใจ หากเกิดเหตุที่บ้านได้รับความเสียหาย ก็ยังมีเงินสินไหมทดแทนช่วยเยียวยาได้ค่ะ
💦.....อีกอย่างที่สำคัญคือไม่ควรเก็บกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยไว้ที่บ้านตัวเอง แต่ควรฝากไว้ที่อื่น หรือนำไปฝากธนาคารก็ได้ค่ะ เพื่อป้องกันไม่ให้เอกสารเสียหายในกรณีหากเกิดไฟไหม้ขึ้นมาจริง ๆ เพราะว่าถ้าเก็บไว้ในบ้านแล้วไฟไหม้เราจะต้องเสียเวลาทำเรื่องนานมากกว่าจะได้เงินคืนค่ะ
Cr. DDproperty
เรียบเรียงโดย : ลงทุนในบัญชีและภาษี
ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่มีให้กันเสมอค่ะ
🌷🌷❤❤🙏🙏🙏🙏❤❤🌷🌷
- 20
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
