25 ก.ย. 2021 เวลา 15:39 • ดนตรี เพลง
เทปคาสเซ็ท 📼 (tape cassette) สิ่งของตกยุคที่ใครหลายๆคนลืมเลือนเพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การฟังเพลงเข้าถึงได้ง่ายและเร็วยิ่งกว่าเดิม ในยุค 5G
รูปจาก pixabay
กลายเป็นเพียงแค่ของสะสม
ยุคสมัยนี้จะเล่นเพลงหรือเปลี่ยนเพลงทำได้ง่ายเพียงแค่ปลายนิ้ว แต่กับเทปคาสเซ็ทแล้วนั้นตรงกันข้าม การที่จะได้ฟังเพลงๆ นึงต้องทำการกรอเทปแบบกะเอาว่าถึงเพลงที่เราจะฟังแล้วหรือยัง ยิ่งถ้าเรากำลังฟังเพลงแรกหน้า A อยู่ แล้วจะเปลี่ยนเป็นเพลงแรกของหน้า B ต้องกรอลงมาให้ถึงเพลงสุดท้ายของหน้า A ก่อนแล้วค่อย REVERSE กลับหน้าเทปไปหน้า B (แต่บางเครื่องไม่มีระบบนี้ต้องนำเทปออกมากลับหน้าเอง) ซึ่งการกรอใช้เวลานานอยู่พอสมควร แต่บางเครื่องจะมีเลข COUNTER ช่วยนับเวลาก็ช่วยได้
สิ่งเหล่านี้ยังไม่รวมปัญหาต่างๆที่เจอ เช่น เส้นเทปยับ, เส้นเทปยานทำให้เสียงหายบ้างสะดุดบ้างที่หนักที่สุดก็คือเสียงเพี้ยนไปจากเดิมจึงเป็นเหตุผล ที่ทำให้มีปุ่มปรับความถี่เสียงติดมากับเครื่องเล่นเทปเราสามารถปรับเสียงแหลมทุ้มของศิลปินได้เองถ้าคนที่ฟังบ่อยๆก็จะรู้ว่าเสียงศิลปินควรจะอยู่ที่ความถี่ประมาณไหน สามารถเลื่อนปรับได้ตามใจต้องการ
เครื่องเล่นเทป ยี่ห้อ sony (ซ้าย) และยี่ห้อ Aiwa (ขวา)
ต้นกำเนิดเครื่องเล่นเทปคาสเซ็ทอยู่ที่ประเทศเยอรมัน โดย บริษัท AEG เป็นผู้คิดค้นขึ้น เครื่องแรกของโลกนั้นมีชื่อว่า "Magnetophon "ซึ่งมีขนาดใหญ่และราคาสูง ต่อมาทางบริษัท philips ได้พัฒนาขึ้นมาในช่วงยุค 60s ซึ่งเล็กและเบากว่าเดิมทำให้เป็นที่นิยมเพราะเนื่องด้วยราคาที่ถูกลงเข้าถึงได้ง่าย
เทปได้รับความนิยมในช่วงปี 80s-90s เป็นช่วงก้ำกึ่งระหว่างยุคแผ่นเสียงปี 60s ลงไป และยุคสมัยแห่ง CD/DVD ต่างๆ ตั้งแต่ยุค 2000s ขึ้นไป เพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ที่ได้รับความนิยม จนสุดท้ายก็เลือนหายไปตามกาลเวลา
ปัจจุบันจะมีเพียงกลุ่มคนและศิลปินบางกลุ่มเท่านั้นที่ยังนิยมใช้อยู่ และตัวเทปก็เริ่มเป็นสิ่งที่หายากในอนาคต โดยเฉพาะเทปของศิลปินบางม้วนอาจจะกลายเป็นของหายากและมีคุณค่ากับการเก็บสะสมไว้ซึ่งราคาจะแพงมากน้อยขึ้นอยู่กับปีผลิตและจำนวน และ ล็อตที่ผลิตว่ามากแค่ไหน
หากใครที่สนใจเครื่องเล่นเทปและเทปคาสเซ็ทสามารถหาซื้อได้ตามกลุ่ม facebook instagram หรือตลาดขายของมือสองอย่าง kaidee ราคาเฉลี่ยม้วนละ 20-200 ส่วนเครื่องเล่นเทปมีตั้งแต่ราคาหลัก100 ไปจนถึงหลักหมื่น
โฆษณา