27 ก.ย. 2021 เวลา 01:52 • ปรัชญา
เมื่อซักครู่ได้ดูหนังเรื่อง Big Eyes เรื่องเกี่ยวศิลปินหญิงนามว่า มาร์กาเร็ต คีน ที่วาดรูปเด็กตาโตแบบดูเศร้าๆ เรื่องนี้สร้างมาจากเรื่องจริง ช่วงแรกรูปภาพของเธอไม่ได้รับการยอมรับ คนมองว่ามันไม่ใช่งานศิลปะด้วยซ้ำ แต่สามีเธอเป็นนักขาย(เขาอ้างว่าตัวเองเป็นศิลปิน ซึ่งจะกล่าวต่อไป) หาวิธีขาย และวิธีโปรโมทได้ดี โดยร่วมกับนักหนังสือพิมพ์(สร้างข่าว ช่วยโปรโมท ออกงานสังคมต่างๆ) จนผลงานเริ่มเป็นที่ยอมรับและเป็นที่ต้องการมากขึ้น
ลืมบอกไปว่าทุกผลงานสามีเธอจะใช้ชื่อว่าเขาเป็นคนวาด เธอกับเขาช่วยกันปกปิดความลับนี้ โดยเธอจะแอบสร้างผลงานเงียบๆอยู่กับบ้าน ให้สามีออกไปพรีเซนต์
จนต่อมาฐานะดีขึ้น สามีก็เริ่มลืมตัวกับชื่อเสียงปลอมๆของเขา ส่วนเธอเริ่มรู้สึกเหมือนกำลังสูญเสียตัวตน ถูกมองข้าม ถูกฉกฉวยผลงาน เธอจึงอยากแสดงงานในนามของตนบ้าง แต่ถูกสามีขัดขวาง
ต่อมาความขัดแย้งมากเข้าๆ จนทั้งคู่หย่าร้างกัน เธอออกมาฟ้องสังคมและฟ้องศาลว่า ที่ผ่านมาผลงานนั้นเธอเป็นคนสร้างขึ้น สามีเธอทำงานศิลปะไม่เป็น(หรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่คนวาดภาพพวกนี้)
สุดท้ายศาลตัดสินให้ทั้งคู่วาดภาพในศาลเพื่อพิสูจน์ผลงาน เธอวาดได้สบายมากเพราะเธอเป็นผู้วาดจริงๆ ในขณะที่สามีวาดไม่ได้ โดยอ้างว่าเจ็บแขน สุดท้ายศาลตัดสินให้เธอชนะคดี เธอสามารถกอบกู้ชื่อเสียงและตัวตนกลับมาได้ และได้หย่าร้างเธอย้ายไปอยู่กับลูกสาว
ส่วนอดีตสามีที่ถูกเปิดโปงไม่ยอมรับว่าตนเองไม่ได้วาด แต่ก็ไม่เคยสร้างผลงานอีก ส่วนเธอแต่งงานใหม่สร้างผลงานและมีชีวิตที่มีความสุข หนังจบลงตรงนี้ ดูเรื่องนี้แล้วได้ข้อคิดดังนี้ครับ
1.ความลวง อาจหลอกคนได้ในบางที่ บางเวลา บางคนเท่านั้น สุดท้ายความจริงจะชนะ อยากรู้ว่าใครของจริงของปลอมให้ทำเลยดูสิจะทำได้เหมือนที่พูดไหม คนจริงย่อมทำได้สบายๆ แต่ของเก๊จะมีข้ออ้างสารพัด ด้วยไม่ต้องการการพิสูจน์กลัวสิ่งที่ตนลวงไว้จะถูกเปิดเผยครับ เห็นด้วยและชอบมากที่ศาลตัดสินแบบนี้ รู้ๆกันไปเลยครับ 555
2.การอยู่ใต้ชื่อเสียงของผู้อื่นนั้นเจ็บปวด โดยเฉพาะคนเป็นศิลปินย่อมประสงค์จะสร้างงานเพื่อสื่อสารกับผู้คน การต้องหลบซ่อนตัวตนในนามของผู้อื่นทำให้ศิลปินเจ็บปวดยิ่งกว่าตายเสียอีก
3.คำว่าเป็นศิลปะหรือไม่ เป็นคำที่กำกวมอยู่มาก ใครจะเป็นผู้ตัดสิน ศิลปิน นักวิจารณ์ หรือคนในแวดวงนี้เป็นผู้ตัดสิน หรือใช้คนทั่วไปก็ได้ ผมให้ทั้งสองทางนั่นแหละ แต่หนักมาทางหลังนิดหน่อย เพราะเหตุว่าศิลปินสร้างงานให้คนดู ไม่ใช่เน้นให้เฉพาะคนในวงการดูเท่านั้น ถ้าผู้เสพสะเทือนอารมณ์ความรู้สึกได้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว(ในแง่ศิลปะคือการสื่อสารทางอารมณ์แบบหนึ่ง) และผมเชื่อว่าศิลปะที่สูงส่ง จะต้องจรรโลงจิตวิญญาณ ชักนำให้ผู้คนเข้าสู่ความงาม ความดี ความจริง อันเป็นอุดมคติทางวิญญาณครับ
4.ชื่อเสียง ความสำเร็จ บางทีทำให้คนบ้าคลั่ง ลืมตัว โลกธรรมมีผลกับชีวิตเรามากถ้าเรายึดมั่นมัน แต่จะเบาบางลงถ้าเราเพิกเฉยไม่สนใจมัน แต่ถ้าจะให้หมดความสนใจในโลกธรรมอย่างถาวรต้องปฏิบัติธรรมจนบรรลุผลนั่นแหละจึงจะสิ้นไปอย่างสิ้นเชิงครับ
5.หนังมีบางแง่มุมสะท้อนถึงสิทธิสตรีในบางส่วนด้วย แง่นี้สนับสนุนครับ หนังชี้ให้เห็นว่าในสมัยนั้นผู้หญิงยังไม่ได้รับการยอมรับให้ออกมาทำอะไรมากมาย แต่เดี๋ยวนี้ดีขึ้นเยอะครับ พัฒนากันต่อไปครับ
คร่าวๆเกิดความคิดประมาณนี้ครับ ลองไปหาดูนะครับ หนังโทนไม่หนักมาก ดูสบายๆพอได้คิดอะไรครับ พิจารณาดูนะครับ พ่อแม่พี่น้องประชาชน
โฆษณา