27 ก.ย. 2021 เวลา 19:13 • การศึกษา
ปัญหาการเรียนออนไลน์
บทความนี้จะเขียนอธิบายถึงปัญหาที่เหล่า นักเรียน/นักศึกษา พบเจอในการเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้าน
หลังจากเกิดเหตุการณ์โรคระบาดโควิด-19 เมื่อช่วงท้ายปี 2019 ทำให้เกิดผลกระทบต่าง ๆ มากมายที่ยังคงกระทบมาจนถึงปัจจุบัน หนึ่งในผลกระทบนั้นก็คือการที่ นักเรียน/นักศึกษา ไม่สามารถเข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยและโรงเรียนได้ตามปกติ
ตั้งแต่ปีการศึกษา 2563 เทอมที่ 1 ทางสถานศึกษาทั่วประเทศ ได้ออกคำสั่งให้นักเรียน/นักศึกษา เรียนออนไลน์อยู่ที่บ้าน ซึ่งเป็นทางออกที่ดีในการระมัดระวังการติดเชื้อโรคระบาด
แต่ปัญหามันจะตกไปอยู่ที่นักเรียน/นักศึกษา ผู้ปกครอง
ปัญหาของผู้ปกครองคือ การที่เด็กได้เรียนออนไลน์อยู่ที่บ้าน จะทำให้ผู้ปกครองเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น อย่างน้อย ๆ ก็คือค่าไฟ เพราะเด็กต้องใช้มือถือหรือคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา
ทั้งนี้ในช่วงที่โรคระบาดเกิดขึ้นช่วงแรก ทางสถานศึกษาบางแห่งก็ไม่ได้ลดค่าเทอมให้กับนักเรียน/นักศึกษา ก็จะกลายเป็นเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ปกครองของเด็ก
ด้วยภาระค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นบางครอบครัวก็ไม่มีเงินให้เด็กเรียน ในช่วงสถานการณ์แบบนี้ จึงต้องจำยอมให้บุตรหลาน ออกจากโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย ก็กลายเป็นว่าอนาคตของเด็กก็อาจจะจบลงไปแล้ว
ปัญหาของนักเรียน/นักศึกษา
ต้องยอมรับก่อนว่าด้วยสถานการณ์แบบนี้ การที่จะไปเรียนที่สถานศึกษาย่อมเป็นไปได้ยาก และอาจจะเสี่ยงมากเกินไปด้วย เด็กบางคนยอมรับและเข้าใจ แต่ใช่ว่าเด็กจะยอมรับได้ทั้งหมด
การเรียนออนไลน์ปัญหามันมีหลายแบบ เช่น อุปกรณ์ในการเรียนไม่ก็พร้อม เด็กหลายคนที่ทางบ้านไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไร จึงจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เก่า ๆ ในการเรียนออนไลน์ ซึ่งอุปกรณ์เก่า ๆ เหล่านี้แหละที่เป็นปัญหาสำคัญ
สมมติว่า นายสมชายกำลังเรียนอยู่ แต่อยู่ ๆ มือถือดันค้างเลยทำให้พลาดเนื้อหาการเรียนที่สำคัญไป
ปัญหาต่อมาคือสมาธิของผู้เรียน แน่นอนว่าการเรียนออนไลน์ ประสิทธิภาพในการเรียนมันไม่มากเท่ากับเรียนในห้องอยู่แล้ว
ระหว่างที่เรียนอยู่ จะมีสิ่งเร้าอยู่รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นเสียงพ่อแม่ เสียงน้อง เสียงพี่ หรือเสียงรบกวนต่าง ๆ เสียงเหล่านี้จะทำให้ผู้เรียนไม่ได้โฟกัสกับการเรียนเต็มที่
หรือบางคนก็ไม่ได้สนใจการเรียน แค่เปิดไมค์กับกล้องไว้ แล้วก็นั่งเล่นเกมก็มี ปัญหาพวกนี้จะทำให้ประสิทธิภาพในการรับรู้น้อยลง และจะกลายเป็นการเรียนที่ด้อยคุณภาพ
ปัญหาต่อไปคือปัญหาครอบครัว
บางทีครอบครัวก็ไม่เข้าใจในตัวเด็ก ยกตัวอย่างเช่น เด็กกำลังนั่งเรียนออนไลน์อยู่ แต่พ่อก็ใช้งานเด็กให้ไปล้างจานระหว่างที่กำลังเรียน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ปกครองไม่ควรทำเด็ดขาด!
อีกหนึ่งตัวอย่าง คือ การที่เด็กเรียนออนไลน์และนั่งดูจอมือถือหรือคอมพิวเตอร์ทั้งวัน แต่ผู้ปกครองเข้าใจว่าเด็กกำลังเล่นเกมอยู่ ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเหมือนกัน
เพราะแค่เรียนออนไลน์มันก็ท้อและเหนื่อยพอตัวอยู่แล้ว แต่มาเจอคำพูดของพ่อแม่ที่บั่นทอนจิตใจมันยิ่งทำให้เหนื่อยและท้อมากขึ้น
ตอนนี้สถานการณ์โควิดในประเทศก็ยังไม่ดีขึ้น แต่ว่าช่วงเทอมสอง ปีการศึกษา 2564 สถาบันหลาย ๆ แห่งก็จะเริ่มทยอยเปิดเรียนแล้วให้นักเรียน/นักศึกษา เข้ามาเรียนในสถานศึกษาแล้ว
ซึ่งยังถือว่าเสี่ยงกับการติดเชื้ออยู่ แต่ถ้าจะให้เรียนออนไลน์ตลอดจนจบการศึกษา ก็คงไม่ได้เหมือนกัน
ปัญหาเหล่านี้จะสามารถแก้ไขได้อย่างไร ทางภาครัฐจะมีมาตรการแก้ไขปัญหาเหล่านี้หรือไม่ คงต้องรอดูก่อนอีกที...
โฆษณา