1 ต.ค. 2021 เวลา 02:59 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุปมุมมองการเข้าซื้อกองทุนต่างประเทศ
by หนีดอย ประจำวันที่ 1 ต.ค. 2021
"เดือนก.ย.ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงมากถึง 5.3%
ทำให้เป็นเดือนที่ดัชนีนี้มีสถิติย่ำแย่ที่สุดในรอบ 10 ปี
ปธน.โจ ไบเดนได้ลงนามรับรองร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว
ให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐให้มีงบประมาณใช้จ่ายแล้ว
จนถึงวันที่ 3 ธ.ค.นี้ หลีกเลี่ยงไม่ให้หน่วยงานถูกปิดการดำเนินงาน"
4
📌 มาดูภาพรวมดัชนีจาก Investing.com
📌 ตลาดเอเชียเริ่มกันที่ ดัชนี CSI300 +0.67% ​(ที่ 4866 จุด), ดัชนี HSTECH -1.26% (ที่ 6101 จุด)
📌 ส่วนทองคำราคาอยู่ที่ 1755 ขณะที่ราคาแร่เงินอยู่ที่ 22.04 USD/Oz.
(ข้อมูลจาก investing.com/indices/major-indices)
📌 สำหรับดัชนี Fear & Greed index ล่าสุดสำหรับตลาดสหรัฐอยู่ที่ 25 (Greed < Fear) (ข้อมูลจาก money.cnn.com/data/fear-and-greed/)
📌 ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าความขัดแย้งในสภาคองเกรสเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐนั้น อาจส่งผลให้สหรัฐผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยความกังวลดังกล่าวส่งผลให้เกิดแรงเทขายในหุ้นกลุ่มต่าง ๆ เป็นวงกว้าง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ดิ่งลงอย่างหนัก
1
📌 ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีทำสถิติย่ำแย่ในเดือนก.ย. โดยได้รับปัจจัยลบจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้, ความขัดแย้งในสภาคองเกรสเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ, การที่สภาคองเกรสอาจให้การอนุมัติการปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคล รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
1
📌 ทั้งนี้ ตลอดเดือนก.ย. ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 4.3%, ดัชนี S&P500 ร่วงลง 4.8% และดัชนี Nasdaq ดิ่งลง 5.3% ส่งผลให้เดือนก.ย.2564 เป็นเดือนที่ Nasdaq ทำสถิติย่ำแย่ที่สุดในรอบ 10 ปี ส่วนตลอดทั้งไตรมาส 3/2564 นั้น ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 1.9%, ดัชนี S&P500 ขยับขึ้น 0.2% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.4%
📌 แม้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายระงับเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐเมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่นักลงทุนกังวลว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกขัดขวางจากสมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภา ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเตือนว่า สภาคองเกรสมีเวลาไม่ถึง 3 สัปดาห์ในการพิจารณาเรื่องการขยายเพดานหนี้ โดยหากสภาคองเกรสล้มเหลวในการดำเนินการดังกล่าว ก็จะส่งผลให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ
📌 ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐได้ลงนามรับรองร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวแล้วในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย ซึ่งจะช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐให้มีงบประมาณใช้จ่ายจนถึงวันที่ 3 ธ.ค.นี้ และหลีกเลี่ยงไม่ให้หน่วยงานเหล่านี้ต้องถูกปิดการดำเนินงาน การลงนามดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากวุฒิสภาสหรัฐให้การอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเมื่อวานนี้ ด้วยคะแนนเสียง 65-35 และหลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐให้การอนุมัติด้วยคะแนนเสียง 254-175
📌 ปธน.ไบเดนได้แถลงภายหลังการลงนามเพื่อบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวว่า "กฎหมายงบประมาณชั่วคราวถือเป็นความจำเป็นและเป็นความเร่งด่วนของสหรัฐ อย่างไรก็ดี รัฐบาลยังมีภารกิจอีกมากที่ต้องทำ" ทั้งนี้ สภาคองเกรสลงมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อไม่ให้หน่วยงานของรัฐบาลต้องถูกชัตดาวน์ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันพฤหัสบดีที่ 30 ก.ย. ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดปีงบประมาณปัจจุบัน ซึ่งหากสภาคองเกรสล้มเหลวในการดำเนินการดังกล่าว ก็จะส่งผลให้พนักงานของรัฐบาลกลางสหรัฐต้องถูกเลิกจ้างงานในช่วงเวลาที่สหรัฐยังคงเผชิญกับวิกฤตด้านสาธารณสุข อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
📌 ก่อนหน้านี้ นักลงทุนในตลาดการเงินมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาชัตดาวน์ในสหรัฐ หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ร่างกฎหมายนั้นได้ถูกขัดขวางโดยวุฒิสมาชิกสังกัดพรรครีพับลิกัน ซึ่งนักลงทุนกังวลว่าอาจส่งผลให้หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐต้องปิดการดำเนินงานในช่วงสิ้นเดือนก.ย. เนื่องจากขาดงบประมาณ
📌 นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อคืนนี้ เพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และเน้นย้ำความสำคัญของการใช้นโยบายการเงินและการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
1
📌 ก่อนหน้านี้ นายพาวเวลและนางเยลเลนได้กล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อวันอังคาร โดยระบุเตือนว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาได้ชะลอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และสหรัฐจะเผชิญภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูงเป็นระยะเวลานานกว่าที่คาดไว้
1
📌 สำหรับในการกล่าวถ้อยแถลงเมื่อคืนนี้ นายพาวเวลยังคงเตือนว่าแรงกดดันจากเงินเฟ้อจะยาวนานกว่าที่คาดไว้ แม้เงินเฟ้อเป็นปัจจัยเพียงชั่วคราว ทางด้านนางเยลเลนกล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ในระดับต่ำ แม้ว่าเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นก็ตาม และเรียกร้องอีกครั้งหนึ่งให้สภาคองเกรสปรับเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ มิฉะนั้นจะเกิดหายนะตามมา
📌 สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2564 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 6.7% ในไตรมาส 2 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 6.5% และสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 6.6% หลังจากที่ขยายตัว 6.3% ในไตรมาส 1
📌 ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 11,000 ราย สู่ระดับ 362,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 335,000 ราย โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าการจ้างงานในสหรัฐชะลอตัวลง
📌ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนส.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนส.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
📌ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ 3.4% ในเดือนก.ย. หลังปรับตัวขึ้น 7 เดือนติดต่อกัน เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นที่มีการขยายตัวสูง อาทิ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เพื่อเข้าซื้อหุ้นที่ปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจ อาทิ กลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงาน
1
📌 สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 2% เมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลแรงงานที่ซบเซา อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาตลอดทั้งเดือนก.ย. สัญญาทองคำร่วงลงรุนแรงถึง 3.4% ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 34.1 ดอลลาร์ หรือ 1.98% ปิดที่ 1,757 ดอลลาร์/ออนซ์
📌 สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) ขานรับรายงานที่ว่า จีนจะสั่งซื้อน้ำมันเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้องการภายในประเทศ โดยขณะนี้จีนกำลังเผชิญวิกฤตขาดแคลนพลังงานและส่งผลกระทบต่อภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะภาคการผลิต สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 75.03 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 12 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 78.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
📌 นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.70 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก เย็นวานนี้ที่ระดับ 33.85 บาท/ดอลลาร์ เช้านี้บาทเปิดแข็งค่า สอดคล้องกับภูมิภาคที่เคลื่อนไหวในทิศทางแข็งค่าเล็กน้อย จากการที่ดอลลาร์เผชิญแรงขายทำกำไร ประกอบกับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ดอลลาร์ย่อตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้ คือ ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ย. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.65-33.80 บาท/ดอลลาร์
📌 ส่วนตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการวันนี้ (1 ต.ค.) เนื่องในวันชาติ
Cr. สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
💵Lists กองทุนใน Watchlists ทั้งหมดที่น่าสนใจ (โปรดอ่านหมายเหตุด้านล่างประกอบ)
1 ASP-DISRUPT 💵💵💵
2 ASP-EUG 💵💵💵
3 ASP-EVOCHINA 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
4 ASP-JHC
5 ASP-ROBOT 💵💵💵
6 B-Bharata
7 B-GTO 💵💵💵
8 B-INNOTECH 💵💵💵
9 BCAP-CLEAN 💵💵💵
10 BCAP-CTECH 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
11 BCARE 💵💵💵
12 K-CHANGE-A 💵💵💵
13 K-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
14 K-HIT 💵💵💵
15 K-USA-A 💵💵💵
16 K-USXNDQ-A 💵💵💵
17 K-WORLDX 💵💵💵
18 KF-EUROPE 💵💵💵
19 KF-GTECH 💵💵💵
20 KF-ORTFLEX
21 KF-US 💵💵💵
22 KFCMEGA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
23 KFGBRAND-A 💵💵💵
24 KFHTECH-A 💵💵💵
25 KFINFRA-A
26 KT-ASHARES-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
27 KT-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
28 KT-EURO/K-EUSMALL 💵💵💵
29 KT-PRECIOUS 💵💵💵
30 KT-WTAI-A 💵💵💵
1
31 LHCYBER-A
32 LHESPORT-A / WE-PLAY 💵💵💵
33 LHINNO-A 💵💵💵
34 LHMOBILITY 💵💵💵
35 M-EM 💵💵💵
36 MATECH-A
37 MFTECH 💵💵💵
38 ONE-DISC-RA 💵💵💵
39 ONE-GECOM 💵💵💵
40 ONE-UGG-RA 💵💵💵
41 P-CGREEN 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
42 PRINCIPAL GCLEAN-A 💵💵💵
43 PRINCIPAL GCLOUD-A
44 PRINCIPAL GHEALTH-A 💵💵💵
45 Principal VNEQ-A
46 PWIN 💵💵💵
47 SCBDJI(A) 💵💵💵
48 SCBGOLD (แบบไม่ Hedge) 💵💵💵
49 SCBGOLDH (แบบ Hedge) 💵💵💵
50 SCBKEQTG 💵💵💵
51 SCBNK225
52 SCBS&P500 💵💵💵
53 SCBSEMI 💵💵💵
54 SCBUSSM
55 T-ES-GGREEN 💵💵💵
56 T-ES-GINNO / TMB-ES-GINNO 💵💵💵
57 T-GLOBALENERGY / MRENEW 💵💵💵
58 T-Premium Brand 💵💵💵
59 TBIOTECH 💵💵💵
60 TCHCON 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
4
61 TCHTECH-A / SCBCTECHA 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
62 TCLOUD
63 TGENOME 💵💵💵
64 TGHDIGI 💵💵💵
65 TMB-ES-AUTOMATION 💵💵💵
66 TMB-ES-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
67 TMB-ES-STARTECH 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
68 TMBAGLF 💵💵💵
69 TMBCOF 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
70 TMBGQG 💵💵💵
71 TNEWENGY 💵💵💵
72 TNEXTGEN / WE-CYBER 💵💵💵
73 UCHI 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
74 UCI 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
75 UEDTECH 💵💵💵
76 UEV
77 WE-CANB, MCANN 💵💵💵
78 WE-CHIG 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
79 WE-GOLD 💵💵💵
80 WE-TENERGY / SCBCLEANA 💵💵💵
4
📌หมายเหตุ : หลังจากทางการจีนได้ลงดาบบริษัทกลุ่มการศึกษาในประเทศทั้งหมดที่ครอบคลุมระดับ K-12 ให้เปลี่ยนเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร และมีเงื่อนไขข้อจำกัดในการระดมทุนต่างๆ เพื่อไม่ให้เป็นผลเสียกับเด็กในระยะยาว และเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายทางบ้านที่ทำให้อัตราการเกิดของประชากรจีนน้อยลงจากค่าเรียนกวดวิชา ทำให้พื้นฐานหุ้นกลุ่มนี้เปลี่ยนไปถาวร โดยได้รับการยืนยันจากทางการในวันที่ 25 ก.ค. 2021 ยังไม่รวมถึงที่ทางการจีนเข้ามามีบทบาทการควบคุมบริษัทเทค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแง่การผูกขาด หรือ ความปลอดภัยของข้อมูลที่จัดเป็นความมั่นคงของชาติ ซึ่งส่งผลให้มีการถอดแอพไม่ให้ผู้ใช้งานใหม่สามารถ Download ได้ เช่น Didi Global ที่ทำการ Listing ในตลาดสหรัฐฯ โดยไม่มีกำหนดว่าระยะเวลาการตรวจสอบหรือคุมเข้มในหลายๆอุตสาหกรรมจะสิ้นสุดเมื่อไหร่
ภายหลังรัฐบาลจีนออกกฎเกณฑ์เพื่อควบคุมธุรกิจภาคการศึกษาในวันที่ 24 ก.ค. ได้สร้างแรงกดดันให้ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงในช่วงที่ผ่านมา โดยรายงานจาก Bloomberg เผยว่าหน่วยงานกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ในจีนจัดการประชุมด่วน ในวันที่ 28 ก.ค. 2021 หลังตลาดหุ้นจีนถูกเทขายอย่างหนัก เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการผ่อนคลายความกังวลที่เกิดขึ้น เกิดสัญญาณที่ดีต่อตลาดหุ้นจีนในระยะสั้น ที่เข้ามาช่วยลดความกังวลจากรัฐบาลจีนที่อาจกระจายการควบคุมไปยังอุตสาหกรรมอื่น
ทางผู้เขียนจึงขอแบ่งออกเป็น 3 แนวทางในการลงทุนหุ้นจีนจากนี้เป็นต้นไป ดังนี้
1. ยังคงถือต่อ เนื่องจากทางผู้จัดการกองทุนน่าจะมีการลดหุ้นกลุ่มการศึกษาหรือกลุ่มเสี่ยงออก หลังจากทุกอย่างคลี่คลาย ระยะยาวน่าจะส่งผลดี
2. ลดสัดส่วนหรือรินขายออก เนื่องจากหากมีเหตุการณ์ลงดาบแบบนี้ทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้แทบตอกฝาโลง ก็เป็นไปได้ว่าจะมีอีกหลายธุรกิจที่จะตามมา เพื่อทำให้ค่าใช้จ่ายของประชาชนลดลง เพื่อส่งเสริมการมีบุตรให้มากขึ้นได้ในครอบครัว
3. ทยอยซื้อเพิ่ม เพราะเป็นโอกาสดีที่หุ้นพื้นฐานดี ราคาลงมาพอสมควรแล้ว และมองว่า ทางการจีนไม่น่าลงดาบหนักๆ ในอุตสาหกรรมอื่นแบบนี้
💵💵💵 คือ น่าทยอยสะสมวันนี้ หากใครอยากทยอยลงทุน
🇨🇳🇨🇳🇨🇳 คือ น่าทยอยสะสมสำหรับกลุ่มกองทุนจีนกรณีที่เราอยู่ในข้อ 3 ของหมายเหตุ
💵หรือหากใครคิดว่าการดีดขึ้นมามากในรอบนี้ จะถือโอกาสขายหรือสับเปลี่ยนกองเพื่อลดสัดส่วนหุ้นเทคฯ ก็ทำได้ตามแผนการที่เราตั้งใจไว้ได้เช่นกันครับ
📌โดยทองคำมีแนวรับที่น่าเข้าสะสมทองคำที่ระดับ 1660, 1680, 1700, หรือ 1730 เพื่อคงปริมาณทองคำอยู่ในพอร์ทการลงทุนราวๆ 5-15%
📌กรณีที่คนมีแล้วอยากจะขายรินกำไรออก ก็มีแนวต้านตั้งแต่ 1775, 1800, 1840, 1890, 1900, หรือ 1920 ครับ ที่พอทยอยขายได้
💵สำหรับทองคำผมได้ทำคลิปมุมมองทองคำเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (26 ก.ย. 2021) ในแง่ของปัจจัยทางกราฟเทคนิค และปัจจัยพื้นฐาน สำหรับใครที่อยากดูรายละเอียดคลิกได้เลยที่ https://www.blockdit.com/posts/615078894baa340c8c9d2929
💵คำแนะนำการขายสำหรับคนที่ต้องการรินกำไรขายออกบ้างหรือจะขายทั้งหมดก็ตาม โดยผมใช้ RSI ที่เกิน 70 ในตัว ETF ที่เป็นกองแม่ของกองทุนนั้นๆ หรือแยกดูเป็นหุ้นรายตัว พบว่ามี RSI เกิน 70 มากกว่าครึ่ง หรือ ดัชนีอยู่ใกล้แนวต้านเดิม พบว่ามีกองที่เริ่มน่าขายรินกำไรออกได้ ได้แก่
1. กองทุนอินเดีย
2. กองทุนดัชนี Nasdaq เช่น K-USXNDQ-A
3. กองทุนดัชนี S&P 500 เช่น SCBS&P500
4. กองทุนทั่วโลก : TMBGQG/K-WORLDX, B-GTO หรือ กองทุนที่เน้นหุ้นใหญ่อย่าง Microsft, Facebook
5. UEV
6. ONE-UGG-RA, K-CHANGE-A, K-HIT (คนที่ซื้อกลางพ.ค.)
7. KFGBRAND-A
8. กองทุนหุ้นสหรัฐ Mid-small caps : SCBUSSM, ABAGS
9. กองทุน Tech เช่น B-INNOTECH, KF-GTECH, KFHTECH-A
10. กองทุนหุ้นสหรัฐ เช่น K-USA-A, KF-US, SCBUSAA
11. กองทุนยุโรป เช่น ASP-EUG, KF-EUROPE, KT-EURO/K-EUSMALL
12. Cloud computing เช่น Tcloud, Principal Gcloud-A
13. กองทุนญี่ปุ่น เช่น ASP-JHC, SCBNK225
2
สำหรับการขายเหมาะกับคนที่ได้กำไรมาเยอะแล้ว 25% ขึ้นไป สามารถรินกำไรออกได้ครับ (ทั้งนี้แล้วแต่ผู้ลงทุนพิจารณา ไม่ต้องถึงกับ 25% ก็ได้ครับ)
📌สำหรับข้อมูลข้างต้น เหมาะกับคนอยากจับจังหวะการลงทุน หากใครมีแผนทำ DCA ซื้อทุกๆเดือนอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องดูส่วนนี้นะครับ ให้ทำตามวินัยเดิมที่ตั้งใจไว้ได้เลยครับ
📌หมายเหตุ ความเห็นข้างต้น เป็นการใช้กราฟเทคนิคดูจุดเข้าซื้อ ไม่ได้ยืนยันความถูกต้อง 100% เพราะซื้อแล้ว ราคาอาจย่อลงได้กว่าเดิม และการซื้อกองทุนก็ไม่ได้ราคา Real time ตามหน้าหุ้นนั้นๆครับ
🌟 มุมมองดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก By หนีดอย
DOW JONES, S&P500, NASDAQ, RUSSELL2000
CSI300, HSI, HSTECH, KOSPI
NIKKEI225, SENSEX, SET, VN30, STOXX50, STOXX600
ประจำวันที่ 25 ก.ย. 2021 https://www.blockdit.com/posts/614ef7c78c8eb40c9355e537
🌟 Series : Review Tiger Broker โบรคเกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับผม เมื่อต้องการลงทุนหุ้นต่างประเทศ :
🌟 Clip มุมมอง Cryptocurrency | By หนีดอย
BTC, ETH, XRP, BNB, ADA, LTC, DOGE, SOL
ประจำวันที่ 26 ก.ย. 2021 : https://www.blockdit.com/posts/615018be7e5da30c8cea82fd
🌟 แจกตาราง “กองทุน” 622 กองทุน (อัพเดท 31 ก.ค. 2021)
ครอบคลุม SSF, RMF, PVD จัดเป็นทั้งหมด 18 กลุ่ม ดังนี้
1. Money Market
2. Healthcare
3. Global
4. China
5. US
6. Asia Ex.Japan
7. ASEAN
8. Gold & Mining
9. Commodities
10. REITs
11. Emerging Markets
12. Europe
13. Japan
14. South Korea
15. India
16. Vietnam
17. Technology
18. Oil
ปล. การจัดทำตารางนี้อาจมีไม่ครบทุกกองในประเทศไทย
พิเศษ!!! เพียงกด Like และกด Share โพส เปิด Public
 พร้อมแคปภาพเพื่อรับไฟล์ตารางกองทุน เป็น Excel
แล้วส่งภาพมาทาง Inbox ทาง FB Fanpage หนีดอยได้เลย...
โดยทางไฟล์จะสามารถคลิกที่ชื่อกองทุน
แล้วลิงค์ไปยังรายละเอียดกองทุนแต่ละกองได้
2
ติดตามหนีดอยได้ที่
📌Telegram - t.me/needoy
📌Line (openchat) - https://bit.ly/lineneedoy
📌Spotify : spoti.fi/2NLRVBK
📌Apple Podcast : apple.co/3pC8Gwh
📌 คัมภีร์หนีดอย ใน 20 ชั่วโมง ที่สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหานักลงทุนที่อยากรู้ว่าเราควรรู้อะไรในการลงทุนทุกสินทรัพย์ สามารถเลือกเรียนหัวข้อที่สนใจได้ เช่น อยากเข้าใจกราฟ เรียนแต่หัวข้อที่ 4 แต่ถ้าต้องการรู้หมดทุกศาสตร์ อยากลงทุนแบบจริงจัง 20 ชั่วโมงที่ว่านี้จะทำให้เข้าใจภาพรวมทั้งหมด
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งหมดได้ที่ www.blockdit.com/posts/60b1da0997d8a40c5a2e4809
📌 เพียง 200 บาทต่อ 1 ชั่วโมง เท่านั้น!!!
สนใจติดต่อรายละเอียดได้ที่ Line : cescassawin
โฆษณา