6 ต.ค. 2021 เวลา 23:30
งานเต็มมือ ไม่มีเวลาได้หยุดพัก
รู้จักเทคนิคสร้างโปรดักทีฟให้งานเสร็จเร็วของ ‘Cal Newport’
เป็นไหม? ที่บางทีก็ยุ่งจนแทบไม่มีเวลาให้ตัวเอง งานหลักก็เยอะ งานรองก็แน่น ไหนจะหน้าที่ในชีวิตจริงที่ต้องรับผิดชอบอีก พอถึงวันหยุดทีไรก็ไม่เคยจะได้พักจริงๆ สักที
7
หันไปทางไหนก็มีแต่กองงานเต็มไปหมด เต็มมือถึงขั้นที่ว่า บางทีก็อยากโยนทิ้งไปสักอย่างสองอย่าง ซึ่งในความจริงแล้วก็คงจะเป็นไปไม่ได้สักเท่าไรใช่ไหม เพราะไม่ว่าจะเป็นงานหลักหรืองานรองก็ตาม ทุกงานก็ล้วนมีความสำคัญต่อชีวิตด้วยกันทั้งนั้น
4
อย่างที่รู้กันดีว่า ในยุคนี้การมีงานเพียงงานเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป แม้ว่าการมีงานรองเสริมเข้ามาด้วยจะเป็นการเพิ่มภาระความรับผิดชอบ และทำให้เรารู้สึกเหน็ดเหนื่อยมากขึ้นก็ตาม แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงในชีวิตอีกทางหนึ่งด้วย
2
คาล นิวพอต (Cal Newport) ผู้ที่ขึ้นชื่อว่า สามารถรับผิดชอบชีวิตทุกๆ ด้านได้อย่างดีเยี่ยม โดยเขามีงานประจำเป็นอาจารย์ด้านการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ (Georgetown university) มีอาชีพที่สองเป็นนักเขียน และนอกจากนี้ยังมีหน้าที่สำคัญในการเป็นสามี และพ่อที่ดี
2
จากที่เล่ามาทั้งหมด ภาระของเขาดูหนักอึ้ง น่าจะต้องทำงานพาดยาวไปวันหยุดใช่ไหมล่ะ แต่ในความจริงแล้ว ทุกอย่างตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง เพราะเขาสามารถเลิกงานได้ภายในเวลาห้าโมงครึ่งของทุกวัน และแทบจะไม่ทำงานในวันหยุดสุดสัปดาห์เลยด้วยซ้ำ แถมยังมีเวลาเหลือพอที่จะชุบชูจิตใจด้วยการทำงานอดิเรกอย่างการเขียนบล็อกอีกด้วย
1
เชื่อว่า หลายๆ คนก็คงชักจะสงสัยกันแล้วล่ะสิว่าเขาบริหารเวลายังไง งั้นไปดู 5 เทคนิคสร้างโปรดักทีฟให้งานเสร็จเร็วจนมีเวลาเหลือเฟือไปทำอย่างอื่นกัน
2
1. ทำ to-do list และจัดตารางเวลาชีวิต
6
การทำ to-do list เพื่อจัดลำดับความสำคัญเป็นเพียงแค่ขั้นแรกของการเริ่มต้น แต่ไม่เพียงพอสำหรับการทำงานได้อย่างชาญฉลาดหรอกนะ ก็เหมือนเวลาแข่งแรลลี่แล้วมีแผนที่อยู่ในมือนั่นแหละ เรารู้ว่า จะต้องไปที่ฐานไหนบ้าง แต่ไม่ได้กำหนดเวลาเอาไว้ว่า จะเดินทางกี่นาที และใช้เวลามากน้อยแค่ไหนในการแต่ละฐาน
จัดตารางเวลาให้ชัดไปเลยว่า เวลาไหนจะทำอะไร? แน่นอนว่า การจัดตารางเวลาอาจทำให้คุณต้องเสียเวลาสำหรับวางแผนอยู่พอสมควร แถมยังมาพร้อมกับความกดดันในตัวเองอีกด้วย แต่มันก็คงดีกว่าที่คุณไม่วางแผนอะไรเลย เพราะการทำแบบนั้นอาจทำให้หลายคนใช้เวลาเพลินเอาได้จนท้ายที่สุดแล้วกลายเป็นว่า งานเหลือบานเบอะ เสร็จเพียงแค่ไม่กี่อย่าง
1
2. กำหนด deadline จากนั้นวางแผนย้อนกลับขึ้นมา
3
อย่าทำงานไปเรื่อยๆ โดยไร้จุดหมาย เสร็จเมื่อไรก็กลับเมื่อนั้น ปักธงในใจไปเลยว่า “จะกลับบ้านกี่โมง?” และวางแผนย้อนกลับขึ้นมา
การทำแบบนี้เป็นวิธีการบังคับให้เรามีประสิทธิภาพโดยอัตโนมัติ ทำให้รู้ลิมิตของตัวเองเวลาที่มีคนมาขอให้ช่วยเหลือสิ่งต่างๆ และนอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในวิธีการช่วยลดความเครียดของคุณลงอีกด้วย
3. วางแผนทั้งสัปดาห์
2
การมองแค่วันนี้ โดยไม่คิดถึงวันพรุ่งนี้เป็นเพียงคำสอนที่ย้ำเตือนให้หลายคนเต็มที่กับปัจจุบันเท่านั้น ถ้าหากคุณไม่มองไปถึงอนาคต ก็ไม่มีทางเลยที่จะก้าวไปข้างหน้าได้
2
ลิสต์งานทั้งหมดที่ต้องทำ แล้วหยิบปฏิทินขึ้นมา สร้าง weekly focus ไปเลยว่า จะทำงานชิ้นนี้วันไหน ตอนเช้าหรือบ่าย? และพอวางงานลงล็อกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมทำ last week’s review ด้วยนะ เพื่อประเมินว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำงานสำเร็จไปแล้วกี่ชิ้น ตกหล่นตรงไหนไปรึเปล่า? โดยคุณสามารถนำเทคนิคนี้ไปปรับใช้กับการทำงานเป็นทีมได้เช่นกัน
4. เน้นที่ ‘คุณภาพ’ ไม่ใช่ปริมาณ
1
คาล นิวพอต บอกเอาไว้ว่า “เวลาคนอื่นตัดสินเรา พวกเขามักตัดสินจากสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดเสมอ ฉะนั้น หากต้องการประสบความสำเร็จ คุณควรทำงานให้น้อยชิ้น และเปลี่ยนเป็นการทำงานที่มีอยู่ให้เจ๋งเป้งไปเลย”
ลองถามตัวเองว่า “อะไรคือคุณค่าที่แท้จริงของชีวิตเรา?” จากนั้นดูว่า “มีสิ่งไหนที่ไม่จำเป็นต้องทำบ้างไหม?” ถ้ามีก็รีบตัดมันทิ้ง เอาเวลาไปทุ่มให้สิ่งที่เราให้คุณค่าให้ ‘สุดยอด’ ดีกว่าเนอะ หรือกำจัดสิ่งที่เหลือทิ้งไปเลย เพียงแต่ว่า ให้คุณลงแรง ทุ่มเทไปกับสิ่งที่สำคัญที่สุดให้เสร็จก่อน ถ้าคอมพลีตแล้วถึงค่อยมาหยิบเป้าหมายที่เหลือเพื่อโฟกัสต่อจนมันครบทั้งหมดนั่นเอง
5. ทำงานจิปาถะให้น้อยลง โฟกัสไปที่ ‘งานลึกซึ้ง’
2
“ในประวัติศาสตร์ ไม่เคยมีใครเคยได้เป็นซีอีโอเพราะตอบอีเมลหรือประชุมได้มากกว่าคนอื่น”
1
งานจิปาถะจะช่วยหยุดคุณจากการไล่ออกได้ แต่ในขณะเดียวกัน งานลักษณะนี้ก็กินเวลานาน และให้ผลลัพธ์ที่ต่ำมากเช่นกัน ดังนั้น เอาเวลาที่เหลือไปทุ่มกับ ‘งานลึกซึ้ง’ เพื่อพาตัวเองให้เติบโตในหน้าที่การงานดีกว่า ก็ชัวร์อยู่แล้วล่ะว่า มันอาจจะต้องใช้พลังงาน และความทุ่มเทมากเลยทีเดียว แต่มันก็คุ้มค่าที่จะแลกอยู่แล้ว จริงไหม?
.
.
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเทคนิคไม่กี่ข้อที่เรานำมาฝากกัน อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีอีกตั้งเยอะที่ช่วยบริหารจัดการเวลาให้ดียิ่งขึ้นได้ สำหรับใครที่มีเทคนิคอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ก็สามารถมาแชร์เพิ่มเติมกันได้นะ เรารออ่านอยู่!
.
เรียบเรียงโดย Chompoonut Suwannochin
Sources: หนังสือ Thank God It’s Monday ขอบคุณโลกนี้ที่มีงานประจำ เขียนโดย อานนทวงศ์ มฤคพิทักษ์
.
.
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
1
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
.
.
“Knowledge is the only way to success”
- - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามคอนเทนต์เพื่อพัฒนาตัวเองสู่ความสำเร็จจาก Future Trends ได้ที่
(อย่าลืมกด See First เพื่อไม่ให้พลาดคอนเทนต์ใหม่ในทุก ๆ วัน)
#FutureTrends #KnowledgeforSuccess
โฆษณา