29 ก.ย. 2021 เวลา 05:45 • ประวัติศาสตร์
ตอน 2.5 ทำไมต้องกลับมุม - ปรัตยามาคุย
ฮองเฮาจากความลับของสามก๊ก
สวัสดีครับ ผมเขียนสามก๊กมุมกลับไปได้สองตอนแล้ว ถ้าเพื่อน ๆ ติดตามอ่านจะเห็นว่าการเขียนแบ่งเป็นสองแนว คือแนวเหน็บแนมกับแนวประวัติศาสตร์ อย่างตอนแรกที่เขียนเหน็บเล่าปี่ล้วน ๆ แต่พอมาตอนสองกลับเป็นประวัติศาสตร์ แนวประวัติศาสตร์นี่ได้ฟีดแบ็กไม่ค่อยดีนัก มีติชมเข้ามาว่าน่าเบื่อไปนิด แต่มันจำเป็นต้องเขียน
1
สามก๊กถูกเขียนขึ้นจากบันทึกจดหมายเหตุ ผสมกับนิทานเรื่องเล่าในโรงน้ำชา ปรุงแต่งด้วยทัศนคติของผู้แต่ง ทำให้หลายเรื่องในสามก๊กดูขัดกับสามัญสำนึก ยิ่งฉบับแปลไทยที่ใช้สำเนียงฮกเกี้ยนเพี้ยน ๆ แบบไทย ยิ่งทำให้สามก๊กหลุดออกไปจากประวัติศาสตร์ทำให้หลายเรื่องยิ่งดูไร้เหตุผล
หลายเรื่องในสามก๊กทำให้ผู้อ่านเกิดความค้างคาใจ เกิดคำถามในใจ ตัวผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น อย่างเช่นสามก๊กมักบรรยายว่าฮ่องเต้ไร้ความสามารถ ลุ่มหลงสุรานารี ผมก็เกิดคำถามในใจว่ามันเป็นแบบนั้นจริง ๆ หรือ หรืออย่างเตียวหุย มันโง่ขนาดที่เชื่อคนที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกคุยกันไม่กี่ประโยคถึงขนาดขายบ้านขายทรัพย์สินเลยเหรอ นี่มันเตียวหุยโอนไวชัด ๆ
เมื่อสงสัยก็ค้นคว้า คำตอบที่ได้นั้นทำให้ผมอยากเขียนสามก๊กมุมกลับ อยากแชร์ความรู้นั้นให้กับเพื่อน ๆ ที่สนใจอ่านสามก๊กเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น ผู้แต่งสามก๊กเขียนถึงเล่าปี่ว่าเล่าปี่ถูกส่งไปเรียนหนังสือสิบปี เขียนแค่สั้น ๆ ประโยคสองประโยค แล้วก็ผ่านไปเหมือนว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร แต่ถ้าเราพิจารณาให้ดี ประโยคสั้น ๆ นี้คือคีย์ที่บ่งบอกถึงตัวตนที่แท้จริงของเล่าปี่ที่ผมเอามาเขียนเหน็บในตอนแรก เรื่องฮ่องเต้ไร้ความสามารถยิ่งต้องไปค้นลึกลงไปในประวัติศาสตร์ ผู้แต่งสามก๊กนั้นร้ายกาจจริง ๆ บิดเบือนประวัติศาสตร์หน้าตาเฉย ในสามก๊กไม่เอ่ยถึงความเลวของขุนนาง ทุกอย่างป้ายขี้ให้กับฮ่องเต้กับขันที ถ้าเราไม่อ่านประวัติศาสตร์เราจะไม่มีทางจับไต๋ผู้แต่งสามก๊กได้เลย เป็นที่มาว่าทำไมผมถึงต้องเขียนแนวประวัติศาสตร์ด้วย
ตอนต่อ ๆ ไปที่ผมจะเขียนก็คงจะวนเวียนสลับกันอยู่สองแนวนี้แหละครับ เหน็บบ้างจริงจังบ้าง ตอนหน้าไม่พรุ่งนี้ก็อาจจะมะรืนคงจะได้ลงให้อ่านกัน
สวัสดีครับ
ปล. แปะรูปฮองเฮาตอนท่องบท คนอะไรน่ารักจริง ๆ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา