30 ก.ย. 2021 เวลา 11:12 • ประวัติศาสตร์
“ดิลโด้ (Dildo)” เซ็กส์ทอยที่มีประวัติศาสตร์กว่า 30,000 ปี
2
“ดิลโด้ (Dildo)” เป็นเซ็กส์ทอยที่แพร่หลาย เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้นิยมเซ็กส์ทอยทั่วโลก
1
แต่เซ็กส์ทอยชิ้นนี้ไม่ใช่ของใหม่ หากแต่มีประวัติความเป็นมายาวนานอย่างน่าเหลือเชื่อ สามารถย้อนกลับไปได้ตั้งแต่ยุคหินเลยทีเดียว
จากการขุดพบอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายดิลโด้ สามารถย้อนอายุไปได้ตั้งแต่ยุคหิน นักวิทยาศาสตร์ก็คาดเดาว่าอุปกรณ์ที่พบนั้นอาจจะไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อบำบัดความต้องการทางเพศ หากแต่เป็นอุปกรณ์ในการดำรงชีพ แต่ในภายหลัง เมื่อมีการตรวจสอบลักษณะ หลายคนก็ลงความเห็นว่าดิลโด้นั้นมีใช้มาตั้งแต่ยุคหินแล้ว
ต่อมาในสมัยกรีกโบราณ ก็ยังมีการใช้ดิลโด้ โดยดิลโด้ที่แปลกที่สุดนั้นทำมาจากขนมปัง หากแต่ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าดิลโด้ในสมัยนี้ทำขึ้นเพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาหรือเพื่อบำบัดความใคร่
ทางด้านจีน ในสมัยราชวงศ์ฮั่น ก็ได้มีดิลโด้เช่นกัน โดยมีการขุดพบหลุมศพในสมัยราชวงศ์ฮั่น และพบข้าวของเครื่องใช้ในสมัยโบราณมากมาย โดยหนึ่งในนั้นคือเซ็กส์ทอย
3
ชาวฮั่นในสมัยนั้น เชื่อว่าวิญญาณจะยังคงอยู่ในสุสาน จึงมีการฝังสิ่งของๆ ผู้ตายไปพร้อมกับผู้ตาย ซึ่งนั่นก็รวมถึงดิลโด้ที่ทำจากสัมฤทธิ์ และเซ็กส์ทอยเหล่านี้ก็เป็นที่แพร่หลายในชนชั้นสูงชาวฮั่น
ทางด้านยุโรป ในสมัยศตวรรษที่ 16-18 ดิลโด้ไม่ใช่สิ่งที่ได้รับการยอมรับและถูกมองว่าน่าอับอาย ก่อนที่จะแพร่หลายในหมู่ชนชั้นสูงในเวลาต่อมา หากแต่ก็ยังไม่ได้รับการยอมรับมากนัก
ในช่วงเวลาเดียวกัน ที่ญี่ปุ่นนั้น ค่อนข้างให้การยอมรับเซ็กส์ทอยมาก โดยใน “ชุงกะ (Shunga)” ซึ่งเปรียบเสมือนกับหนังสือโป๊ยุคแรกๆ ของญี่ปุ่น ก็ได้มีภาพของดิลโด้อยู่ด้วย และต่อมา เมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นทำการแบนชุงกะในปีค.ศ.1722 (พ.ศ.2265) ก็มีการแอบขายดิลโด้ในตลาดมืด
ชุงกะ (Shunga)
ต่อมาดิลโด้ก็ยังคงแพร่หลายในสังคมต่างๆ และมีการพัฒนาทั้งในเรื่องของรูปทรงและวัสดุ โดยในยุค 70 (พ.ศ.2513-2522) ก็ได้มีการทำดิลโด้ที่ทำจากซิลิโคน โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้ในทางการแพทย์ หากแต่ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ในทุกวันนี้ เซ็กส์ทอยนั้นไม่ใช่เรื่องที่ต้องปกปิดเหมือนกับแต่ก่อน และตลาดเซ็กส์ทอยก็เป็นตลาดที่ใหญ่มาก มีข้อมูลในปีค.ศ.2015 (พ.ศ.2558) ว่ามีมูลค่าตลาดสูงถึง 15,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 450,000 ล้านบาท) เลยทีเดียว
โฆษณา