เงินบาทอ่อนค่าใกล้แตะ 34 บาทต่อเหรียญ สูงสุดในรอบ 4 ปี
เมื่อช่วงเช้าของเมื่อวานนี้ ถือเป็นนับเป็นสถิติใหม่ ในรอบ 4 ปี ของเงินบาทที่มีการอ่อนค่ามาหลายวันแล้ว ล่าสุดเงินบาทได้ปรับตัวสูงขึ้นแตะที่ระดับ 33.97 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เหตุนี้เกิดขึ้นมาจากทีค่าเงินดอลลาร์มีการแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆอย่างเช่น เยน (Yen) และ ยูโร (Euro) ไม่เว้นแม้กระทั่งทองคำที่อ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 1729 ดอลลาร์ต่ออนซ์ สืบเนื่องมาจากการประกาศลดการอัดฉีดเงินเข้าระบบ หรือสภาพคล่องของธนาคารกลางเฟด (Federal Reserve) ของประเทศสหรัฐอเมริกา และมีการส่งสัญญาณของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่ตลาดได้มีการคาดการไว้ และส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) พุ่งไปที่ 1.45% สูงสุดในรอบ 3 เดือน
ในแง่ของนักลงทุนก็อาจจะมีความเสี่ยงที่ fund flow จะไหลออกจากตลาดทุน อย่างหุ้น และคิปโต ไปสู่สินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่าเช่นพันธบัตรรัฐบาล
แต่หากมองในแง่ของผู้ส่งออกไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางมาเที่ยวไทยนั้น ก็อาจจะเป็นสัญญาณที่ดี เพราะจะทำให้ราคาสินค้าของไทยในสกุลเงินดอลลาร์ถูกลง ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของผู้ส่งออกไทยทำให้เดือนสิงหาคมที่ผ่านมานั้นมียอดส่งออกโตต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 8.93% และจะยิ่งช่วยเพิ่มแรงกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย จับจ่ายใช้สอยมากขึ้น เพราะจะสามารถแลกเงินบาทได้มากขึ้นหากใช้ทุนเงินดอลลาร์เท่าเดิมเทียบกับช่วงที่เงินบาทมีการแข็งค่า ทั้งนี้การอ่อนค่าลงของค่าเงินบาท นั้นเป็นสิ่งที่น่าจับตามอง และจะต้องอยู่ในอัตราการอ่อนค่าที่เหมาะสม หากอ่อนค่าเร็วเกินไปก็อาจจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี เพราะส่วนนึงนั้นหมายถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนของไทย ดูน่าเชื่อถือน้อยลงในสายตาประชาคมโลกนั้นเอง
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
