1 ต.ค. 2021 เวลา 12:29 • ปรัชญา
ที่เราแตกต่างจากสัตว์ พืช หรือสรรพชีวิตอื่นก็ตรงที่เกิดมาเป็นตัวตนแล้วนอกจากจะดิ้นรนหาปัจจัยพื้นฐานเพื่อความอยู่รอดแล้วยังรู้จักตั้งคำถามและค้นหาคำตอบแบบนี้
การหาความหมายของชีวิตตนเองจากการคิดคำถามและหาคำตอบนั่นแหละที่ทำให้ความหมายในชีวิตของผู้คนแตกต่างกัน บางคนพอใจแค่ตั้งคำถามง่าย ๆ หาคำตอบแบบพื้น ๆ บางคนแม้แต่ตั้งคำถามก็ถามตามคนอื่นเมื่อตอบก็จดจำเอาตามคำตอบของคนอื่นเช่นคิดตามทำตามครู อาจารย์ ผู้นำ ศาสดาที่ตนเองนับถือแต่บางคนคิดและเชื่อจากการครุ่นคิดใคร่ครวญของตนเองเป็นสำคัญ นั่นก็เป็นเพียงส่วนน้อยนัก
1
แต่ถ้าเรามีเวลาศึกษาเรื่องพวกนี้มากพอ เราจะค้นพบว่าคำถามแบบนี้ทำให้เกิดศาสนา ปรัชญาสำนักต่าง ๆ มากมาย ที่สำคัญคำตอบของนักคิด นักปราชญ์ ศาสดาของลัทธิ ศาสนาต่าง ๆ เหล่านั้นก็มีทั้งเหมือนและแตกต่างกันมาก เช่นถ้าเป็นศาสนาที่นับถือพระเจ้าว่าเป็นผู้สร้าง ทุกชีวิตจะเป็นไปตามพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ในลัทธิศาสนาฮินดูบางสาขาชีวิตมนุษย์นี่จะถูกลิขิต(เขียน)ไว้ชัดเจนเลยว่าเกิดมาเมื่อไร โชคชะตา ตั้งแต่เกิดจนตายถูกเขียนไว้เรียบร้อยเช่นแต่งงานกับใคร ตายเพราะอะไร เมื่อไร ตามที่เรามักพูดกันว่า "พรหมลิขิต" หรือที่เราพูดว่า "ตามดวง"
แนวคิดเรื่องพรหมลิขิตนี่ยังมีปรากฏในวัฒนธรรมโบราณอื่น ๆ อีกมากมายเช่น ในเทพปกรณัมอิยิปต์ ในพระคัมภีร์ของศาสนายิวและศาสนาคริสต์
ในพระคัมภีร์ใหม่(The New Testament)ของคริสต์ ระบุถึง The Book of Life ว่า ใครที่ไม่มีชื่อปรากฏในหนังสือนี้เมื่อถึงวันพิพากษาจะถูกส่งในทะเลแห่งไฟ คนจำพวกนี้หมายถึงพวกนอกศาสนารวมถึงผู้ไม่ศรัทธาทั้งหลาย ส่วนผู้ที่นับถือ ผู้ที่ศรัทธาในพระเจ้าจะมีชีวิตนิรันดร์ในสรวงสวรรค์
สำหรับคนนับถือศาสนาพุทธ โดยทั่ว ๆ ไปจะเบลอ ๆ กับความเชื่อแบบชีวิตมนุษย์ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยโดยพระพรหม บางทีก็งง ๆ บวกรวมเข้ากับชีวิตเป็นไปตามกรรม ทำอะไรได้สิ่งนั้นสรุปคือเป็นไปตามกฏแห่งกรรม ส่วนคนที่เชื่อทั้งพรหมลิขิตกับเชื่อกรรมเก่าพร้อมกันทั้งสองอย่างก็จัดเป็นประเภทความคิดไม่ชัดเจนขัดแย้งในตัวเอง
ความเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรมค่อนข้างจะก้าวหน้าเพราะสอดคล้องกับหลักเหตุผลตามองค์ความรู้ทางวิทยาการยุคปัจจุบันหรือที่เรียกว่าวิทยาศาสตร์แต่ก็ยังมีความคลุมเครือมากมายในเรื่องของกรรมเก่า บางคนก็บอกว่าเป็นผลมาจากการเกิดในชาติก่อนซึ่งนับชาติได้มากมายแบบนับไม่ถ้วน บางชาติอาจเป็นสัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่งโดยใช้คำรวม ๆ ว่าเวียนว่ายตายเกิด ชีวิตจึงคือความทุกข์ ทางพ้นทุกข์มีทางเดียวคือนิพพานซึ่งหมายถึงตายโดยไม่มีการกลับมาเกิดอีก
คำถามเดียวกันนี้ถ้าไปถามคนมุสลิมซึ่งจัดเป็นกลุ่มที่แนบแน่นกับศาสนาของตนมากกว่าคนกลุ่มอื่น ๆ คำตอบจะไม่มีอย่างอื่นนอกจากวลีที่ว่า..Inshallah หรือ In shaa Allah แปลได้ว่า God willing หรือ If God wills เป็นภาษาไทยก็..ตามแต่พระประสงค์ของพระเจ้าหรือยอมรับถ้านั่นคือพระประสงค์ของพระองค์
การตั้งคำถามนี้ถ้าเป็นในคนที่เคร่งศาสนาแบบดั้งเดิมเท่ากับเป็นการทดสอบความเคร่ง ความศรัทธาเลย คนในศาสนาแบบโบราณไม่สามารถมีเจตจำนงเสรีใด ๆ ชีวิตทั้งชีวิตต้องอยู่เส้นทางกำหนดโดยพระเจ้าเท่านั้น หมายถึงคนเราควรปฏิบัติตนตามกรอบปฏิบัติตามคำสอนอย่างเคร่งครัดไม่สามารถคิดต่างหรือหาคำตอบแบบอื่นได้ เมื่อมีปัญหาชีวิตที่แก้ไม่ได้ก็ต้องพยายามสวดภาวนาว่าพระเจ้าจะดลใจให้แก้ปัญหาไปในทิศทางใด
มาถึงยุคที่มนุษย์อยู่อย่างเสรีชนได้มากขึ้น วิทยาศาสตร์ก็เจริญมากจนได้คำตอบที่ค่อนข้างชัดเจนว่าสรรพชีวิตเกิดขึ้นมาได้อย่างไร คนยุคใหม่สามารถคิดหาคำตอบในเรื่องของปรัชญาของชีวิต คุณค่าที่ตนควรยึดถือ ไม่ได้ถูกกดดันบังคับให้ศรัทธาหรือคล้อยตามลัทธิ ศาสนา ไม่ได้ถูกบ้งคับโดยผู้มีอำนาจเผด็จการใด ๆ ความหมายของชีวิต คำตอบในเรื่องคุณค่าจึงเป็นเรื่องที่ค้นหาได้เองอย่างเสรี แน่นอนว่ามีกรอบของค่านิยมร่วมของสังคม กรอบของกฏหมาย ศีลธรรมอันดีงามของประชาชนกำกับอยู่อีกที
มาดูกันว่าใครต้องการคำตอบนี้แบบไหน จากคำถามว่าคุณเกิดมาเพื่อสิ่งใด
1. เคร่งศาสนา
- คริสต์ เป็นคริสเตียนที่ดี, ชีวิตนี้อุทิศให้พระเจ้า
- อิสลาม God's path, Inshalla ..ตามกรอบวิถีมุสลิมที่ดี, ตามแต่พระประสงค์ของอัลเลาะห์
- พุทธ ชีวิตเป็นไปตามกฏแห่งกรรม ยอมรับชะตากรรม หาทางหลุดพ้น แสวงหานิพพาน(ตายแล้วตายเลยไม่เกิดอีก)
- กรีกโบราณ สร้างชื่อเสียงเกียรติยศเป็นวีระบุรุษให้โลกจดจำ
2. คอมมิวนิสต์, สังคมนิยม
- แบ่งปัน, รับใช้สังคม, มีชีวิตเพื่อมวลชน อุทิศตนเพื่อพรรค(คอมมิวนิสต์)
3. เสรีนิยมแบบ American dream
- ค้นพบทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม สร้างความร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี จากนั้นบริจาคไปทั่วโลกใน World Issues ต่าง ๆ แบบ มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์, Bill Gate, Warren Buffett ..ฯลฯ
4. เกรียน ๆ FC ของ Jav ..ชีวิตนี้ขอได้หลับนอนกับสาว ๆ ให้ได้สัก 3000 คน
ฯลฯ
สุดท้ายเราโชคดีที่เกิดมาในยุคนี้ ในสังคมนี้ที่สามารถตั้งคำถามและหาคำตอบว่าเราเกิดมาเพื่ออะไรได้
รีบหาความหมาย รีบหาคำตอบให้ตัวเองถ้ายังพอมีเวลาว่างจากการต่อสู้ดิ้นรนทำมาหากิน ว่างจากการแก้ปัญหาชีวิตประจำวันได้อย่างดี มีความสุข ไม่เจ็บไม่ปวดส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย แน่นอนว่าไม่ว่าเราจะพบคำตอบที่เราพอใจหรือไม่พวกเราทุกคนไม่มีเวลาตั้งคำถามแบบนี้นานนัก ชีวิตคนสั้นนิดเดียว
แค่มีเวลาตั้งคำถามแบบนี้และคิดหาคำตอบได้ไม่ว่าจะตอบแบบไหนก็ถือว่าโชคดีมากแล้วที่มีโอกาสพอที่จะคิดใคร่ครวญ ..ขอให้เจอคำตอบที่ดีสำหรับตนเองทุกคนก็แล้วกัน
โฆษณา