2 ต.ค. 2021 เวลา 02:50 • ธุรกิจ
รู้จักเยอรมนี ผ่าน 10 บริษัท ที่ใหญ่สุดในประเทศ
4
หากพูดถึง 10 บริษัทที่ใหญ่ที่สุด หรือมีมูลค่าตลาดมากที่สุดของแต่ละประเทศ
ก็พอจะบอกได้อย่างคร่าว ๆ ว่า ประเทศเหล่านั้นมีอุตสาหกรรมด้านไหนที่โดดเด่น
หรือให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมอะไร ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ บริษัท Top 10 เหล่านั้น มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองไหนของประเทศบ้าง
ฝรั่งเศส ประเทศที่บริษัทมีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องของแบรนด์หรู บริษัท Top 10 ทั้งหมดล้วนมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองหลวง ซึ่งก็คือกรุงปารีส และเขตปริมณฑล
2
เช่นเดียวกับประเทศไทย ที่บริษัท Top 10 ล้วนมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองหลวง
คือ กรุงเทพมหานคร และเขตปริมณฑล
1
แต่สำหรับประเทศเยอรมนี ซึ่งมีประชากร 82 ล้านคน มากกว่าฝรั่งเศส และไทยเล็กน้อย
แต่บริษัท Top 10 สัญชาติเยอรมัน กลับมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ถึง 8 เมือง กระจายในหลายภูมิภาคทั่วประเทศ
7
10 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนีมีอะไรบ้าง และตั้งอยู่เมืองไหนของประเทศแห่งนี้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
หากพูดถึงแบรนด์สัญชาติเยอรมัน คนทั่วโลกย่อมรู้ดี ว่าเป็นสินค้าที่มีมาตรฐาน และมีคุณภาพสูงไม่แพ้ใคร ประเทศแห่งนี้มีบริษัทมากมายที่มีชื่อเสียงระดับโลก
ทั้งบริษัทยานยนต์ วิศวกรรม เคมีภัณฑ์ ยารักษาโรค หรือแม้แต่ภาคการเงิน
3
ซึ่งก็สะท้อนมาถึง 10 บริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในเยอรมนี ที่เป็น..
- บริษัทยานยนต์ 2 บริษัท
- บริการขนส่งและสารสนเทศ 2 บริษัท
- วิศวกรรม 1 บริษัท
- อุตสาหกรรมไอที 1 บริษัท
- การเงินและประกันภัย 1 บริษัท
- บริษัทยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ 3 บริษัท
6
แต่สิ่งที่น่าสนใจมาก ๆ ก็คือ สำนักงานใหญ่ของบริษัทเหล่านี้ ตั้งอยู่ในเมืองน้อยใหญ่ถึง 8 เมือง กระจายอยู่ในหลายภูมิภาคทั่วประเทศ
1
ซึ่งที่มีการกระจายตัวของบริษัทใหญ่แบบนี้ ก็มีที่มาจากหลายสาเหตุ
ทั้งจากประวัติศาสตร์ ที่ประเทศเยอรมนีเกิดจากการรวมแคว้นใหญ่น้อยที่มีพัฒนาการเศรษฐกิจของตัวเอง ส่งผลให้ระบบการปกครองของเยอรมนีในปัจจุบันเป็นแบบกระจายอำนาจ
คือมีทั้งรัฐบาลกลาง และรัฐบาลท้องถิ่น 16 รัฐ ซึ่งเป็นอิสระต่อกัน แต่ละรัฐท้องถิ่นสามารถวางแผนบริหารจัดการในด้านเศรษฐกิจของตัวเองได้
4
รวมไปถึงการศึกษา ซึ่งแต่ละรัฐ ก็จะมีมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพสูงไม่แตกต่างกัน แล้วแต่ละมหาวิทยาลัยก็สามารถเชื่อมโยงภาควิชาการกับภาคธุรกิจได้อย่างเหนียวแน่น ทำให้ภาคธุรกิจในท้องถิ่นของเยอรมนี สามารถนำองค์ความรู้ มาต่อยอดเป็นนวัตกรรมในโลกธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว
4
อีกประการหนึ่งก็คือ ระบบคมนาคมขนส่งที่สะดวกสบายและทั่วถึง
เยอรมนีมีระบบทางหลวงที่มีประสิทธิภาพ เรียกว่า “เอาโทบาห์น” ที่เชื่อมโยงเมืองใหญ่น้อยเข้าด้วยกัน
และมีทางรถไฟระยะทางกว่า 40,625 กิโลเมตร ยาวกว่าทางรถไฟของประเทศไทย 8 เท่า
เชื่อมต่อการเดินทางของทั้งผู้คนและการขนส่งสินค้าทั่วประเทศ
6
ทำให้เมืองเล็ก เมืองใหญ่ ไม่ว่าจะตั้งอยู่ตรงส่วนไหนของประเทศ
ก็สามารถเป็นที่ตั้งของบริษัทที่จะขนส่งสินค้าไปที่ไหนก็ได้..
โดยเรื่องราวของเมืองซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่บริษัท Top 10 สัญชาติเยอรมัน
ลงทุนแมนจะขอเล่าจากบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองทางตอนใต้
แล้วค่อย ๆ ไล่ขึ้นมาทางตอนเหนือ โดยไม่ได้เรียงตามมูลค่าของบริษัท
3
ขอให้ทุกท่านสนุกกับการเดินทาง!
4
เริ่มจากเมืองแรก นครมิวนิก..
มิวนิก เป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย หรือไบเอิร์น รัฐใหญ่ที่มั่งคั่งทางตอนใต้ของเยอรมนี
เมืองแห่งนี้มีประชากรราว 1.3 ล้านคน เป็นศูนย์กลางการค้า การขนส่ง และศูนย์กลางอุตสาหกรรมทางตอนใต้
5
มิวนิกยังเป็นที่ตั้งของสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำหลายแห่ง เช่น Ludwig Maximilian University of Munich และ Technical University of Munich ที่มีชื่อเสียงมากในด้านวิศวกรรม มิวนิกจึงขึ้นแท่นเมืองศูนย์กลางเทคโนโลยีวิศวกรรมชั้นสูงของเยอรมนี
3
บริษัท Top 10 ที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองแห่งนี้ มีอยู่ถึง 2 แห่ง
แห่งแรกคือ Siemens บริษัทด้านวิศวกรรมไฟฟ้าชั้นนำของโลก..
1
จริง ๆ แล้ว Siemens ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1847 ที่กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี
แต่เมื่อเยอรมนีแพ้สงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้ต้องถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเทศ ที่มีระบอบเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน คือ เยอรมนีตะวันออกที่เป็นแบบคอมมิวนิสต์
และเยอรมนีตะวันตกที่ดำเนินเศรษฐกิจแบบทุนนิยมเสรี
2
เพื่อความสะดวกในการทำธุรกิจ Siemens จึงย้ายสำนักงานใหญ่จากกรุงเบอร์ลินมาอยู่ที่มิวนิก ซึ่งเป็นเมืองแห่งเทคโนโลยีวิศวกรรมของเยอรมนีตะวันตกแทน
1
Siemens มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า รถไฟฟ้า เครื่องมือแพทย์ ระบบอาณัติสัญญาณรถไฟฟ้า ไปจนถึงเทคโนโลยีกังหันลม
โดยมูลค่าบริษัทของ Siemens อยู่ที่ 4.7 ล้านล้านบาท
3
บริษัทอีกแห่งหนึ่งในเมืองนี้ คือ Allianz กลุ่มบริการการเงินชั้นนำของโลก ที่ดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวกับประกันและจัดการการลงทุน
และเป็น Top 3 บริษัทประกันที่มีสินทรัพย์มากที่สุดในโลก
มูลค่าบริษัทของ Allianz อยู่ที่ 3.1 ล้านล้านบาท
3
จากนครมิวนิก ขึ้นมาทางเหนือในรัฐบาวาเรียเช่นเดียวกัน เป็นที่ตั้งของเมืองเล็ก ๆ ที่มีประชากร 110,000 คน คือเมืองเออร์แลงเกน (Erlangen)
1
เออร์แลงเกน เป็นเมืองศูนย์กลางด้านการแพทย์ เพราะเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่บริษัท Siemens Healthineers บริษัทในเครือของ Siemens ที่ย้ายสำนักงานมาจากกรุงเบอร์ลิน
ในช่วงที่เยอรมนีถูกแยกประเทศเช่นเดียวกัน
2
siemens-healthineers
สาเหตุที่ย้ายมาที่เออร์แลงเกน เพราะเมืองนี้เคยเป็นฐานการผลิตของ Siemens มาก่อน
และมีสถาบันการศึกษาอย่าง University of Erlangen-Nuremberg ที่ช่วยสนับสนุนในงานวิจัยทางการแพทย์
1
Siemens Healthineers มีมูลค่าบริษัท 2.6 ล้านล้านบาท
เป็นผู้นำในผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ระดับโลก โดยเฉพาะเครื่องอัลตราซาวนด์ เครื่องเอกซเรย์ และเครื่อง CT Scan
1
ถัดจากรัฐบาวาเรียมาทางตะวันตก เข้าสู่รัฐบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์ก รัฐที่มีความมั่งคั่งไม่แพ้รัฐบาวาเรีย เพราะเป็นที่ตั้งของเขตอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก
1
เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐนี้ก็คือ ชตุทท์การ์ท มีประชากร 630,000 คน
เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทยานยนต์ชั้นนำระดับโลกอย่าง Daimler ที่มีมูลค่า 3.2 ล้านล้านบาท
1
ปี 1886 Gottlieb Daimler วิศวกรชาวเมืองชตุทท์การ์ท ได้ออกแบบรถยนต์ 4 ล้อ ที่มีเครื่องยนต์ใช้น้ำมันได้สำเร็จ ตามหลังรถยนต์คันแรกของโลกที่ออกแบบโดย Karl Benz เพียงไม่กี่เดือน
2
Daimler Motors จึงถูกก่อตั้งในปี 1890 ที่เมืองชตุทท์การ์ท และเป็นคู่แข่งกับ Benz & Cie. มานานหลายปี ก่อนจะควบรวมเป็นบริษัทเดียวกันในปี 1926 เพื่อแข่งขันกับบริษัทรถยนต์อเมริกัน
และเลือกเมืองชตุทท์การ์ทให้เป็นฐานการผลิตหลักนับตั้งแต่นั้นมา
3
เหนือขึ้นมาจากเมืองชตุทท์การ์ท ในรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์ก ยังมีเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่งชื่อ วอลล์ดอร์ฟ (Walldorf)
1
ถึงแม้ วอลล์ดอร์ฟ จะมีประชากรเพียง 15,000 คน แต่เมืองแห่งนี้คือที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดของเยอรมนี นั่นก็คือ “SAP”
4
SAP เกิดขึ้นมาจากวิศวกรชาวเยอรมัน 5 คนที่เคยทำงานพัฒนาซอฟต์แวร์องค์กรให้กับ IBM
แต่ถูกยกเลิกโปรเจกต์กะทันหัน จึงลาออกมาจัดตั้งบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับองค์กรเองในปี 1972 และเลือกเมืองวอลล์ดอร์ฟ เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ในปี 1977 เพราะเป็นเมืองเล็ก ค่าครองชีพไม่สูง และอยู่ตรงกลางระหว่างเมืองใหญ่ 2 เมือง คือ ชตุทท์การ์ททางตอนใต้ และแฟรงก์เฟิร์ตทางเหนือ
8
บริษัทได้พัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับวางแผนข้อมูลและทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กร หรือเรียกว่า Enterprise Resource Planning หรือ ERP ซึ่งมีองค์กรและบริษัทชั้นนำทั่วโลกเป็นลูกค้าสำคัญ
จน SAP เติบโตและกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในเยอรมนี ณ เวลานี้ โดยมีมูลค่าราว 5.5 ล้านล้านบาท..
3
ถัดขึ้นมาทางเหนือจากรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์ก เข้าสู่ รัฐเฮสเซิน ซึ่งเป็น ศูนย์กลางการเงินของสหภาพยุโรป
1
เพราะรัฐแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของเมืองแฟรงก์เฟิร์ต อัม ไมน์ ซึ่งมีทั้งธนาคารกลางยุโรป ตลาดหุ้นเยอรมนี และสำนักงานใหญ่ของธนาคาร Big 4 ของเยอรมนี
6
ถึงแม้จะไม่มีบริษัท Top 10 ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ต
แต่ไม่ไกลจากแฟรงก์เฟิร์ต ก็เป็นที่ตั้งของเขตอุตสาหกรรมยาและไบโอเทคโนโลยีที่สำคัญของประเทศ
เมืองแรกอยู่ทางตอนใต้ของแฟรงก์เฟิร์ต เป็นเมืองที่มีชื่อว่าดาร์มสตัดท์ (Darmstadt)
เมืองที่มีประชากร 160,000 คนแห่งนี้ เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัท Merck บริษัทยาที่มีมูลค่าบริษัท 3.4 ล้านล้านบาท ถือเป็นบริษัทยาที่มีมูลค่าบริษัทมากที่สุดของเยอรมนี
1
Merck ก่อตั้งโดย Friedrich Jacob Merck เภสัชกรชาวเมืองดาร์มสตัดท์ ตั้งแต่ปี 1668 จนปัจจุบันบริษัทมีอายุ 353 ปี ถือเป็นบริษัทยาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังดำเนินกิจการมาจนถึงปัจจุบัน
5
ส่วนทางตะวันตกของแฟรงก์เฟิร์ต แม่น้ำไมน์ไหลจากเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ไปบรรจบกับแม่น้ำไรน์
แม่น้ำสายสำคัญที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจและการขนส่งของเยอรมนี
จุดที่แม่น้ำทั้ง 2 สายมาบรรจบกัน เป็นที่ตั้งของเมืองไมนซ์ (Mainz) ในรัฐไรน์ลันด์-พฟัลซ์
2
เมืองไมนซ์ มีประชากร 210,000 คน แต่เมืองแห่งนี้มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์โลก
ถึง 2 ครั้ง
1
ครั้งแรกในปี 1448 เมื่อโยฮันเนส กูเทนแบร์ก นักประดิษฐ์ชาวเมืองไมนซ์ ได้นำแท่นพิมพ์ที่พัฒนาขึ้นมา ตีพิมพ์คัมภีร์ไบเบิลภาษาละตินเป็นครั้งแรก เปิดทางให้เกิดการพิมพ์ตำรับตำราต่าง ๆ และนำพายุโรปให้เข้าสู่ยุคแห่งความสว่างไสวทางปัญญา
5
ชื่อของเขาได้รับเกียรติให้ตั้งเป็นชื่อของมหาวิทยาลัยแห่งเมืองไมนซ์
คือ Johannes Gutenberg University Mainz
 
ในอีกเกือบ 600 ปีต่อมา นักวิจัยจากโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยแห่งนี้
ก็ได้ทำให้โลกรู้จักกับวิทยาการล้ำหน้าอีกครั้ง เพราะได้ก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ
ที่มุ่งเน้นพัฒนายาชีวภาพชนิดภูมิคุ้มกันบำบัดจาก mRNA
บริษัทนั้นมีชื่อว่า “BioNtech”
5
BioNtech ก่อตั้งในปี 2008 โดยคู่นักวิจัยสามี-ภรรยา Uğur Şahin และ Özlem Türeci ซึ่งเคยทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาเซลล์มะเร็งในโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยแห่งเมืองไมนซ์
4
workpointtoday
ด้วยความสำเร็จในการต่อยอดจากยาชีวภาพ พัฒนาจนกลายเป็นวัคซีน mRNA ป้องกันโควิด 19 ที่มีประสิทธิภาพ จนได้รับการร่วมทุนจาก Pfizer บริษัทยายักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน
1
มูลค่าบริษัทของ BioNtech จึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ปี 2020
จนสามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในบริษัท Top 10 ของเยอรมนีในตอนนี้ ด้วยมูลค่าถึง 2.3 ล้านล้านบาท
1
จากเมืองไมนซ์ แม่น้ำไรน์ไหลขึ้นไปทางตอนเหนือ เข้าสู่รัฐที่มีประชากรมากที่สุดของเยอรมนี
และเป็นเขตอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ รัฐนี้มีชื่อว่า “นอร์ดไรน์-เวสท์ฟาเลิน”
1
ด้วยประชากรกว่า 18.7 ล้านคน รัฐนอร์ดไรน์-เวสท์ฟาเลิน จึงเป็นที่ตั้งของเมืองสำคัญมากมาย
โคโลญ เป็นเมืองศูนย์กลางการขนส่งและอุตสาหกรรมเคมี
ดึสเซลดอร์ฟ เมืองหลวงของรัฐ ศูนย์กลางอุตสาหกรรมเหล็ก
และเมืองหลวงเก่าของเยอรมนีตะวันตก คือ กรุงบอนน์
1
กรุงบอนน์ เป็นอดีตเมืองหลวงของประเทศเยอรมนีตะวันตก เมื่อครั้งที่เยอรมนีถูกแบ่งเป็น 2 ประเทศ ทำให้เมืองเล็ก ๆ ที่มีประชากรเพียง 300,000 คนแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการ และรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง
2
ซึ่งปัจจุบัน กรุงบอนน์ ก็ยังเป็นที่ตั้งสำนักงานของหน่วยงานเหล่านี้อยู่ แม้รัฐวิสาหกิจหลายแห่งจะถูกแปรรูปเข้าสู่ตลาดหุ้นแล้ว
หนึ่งในนั้นคือ Deutsche Post บริษัทขนส่งสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี มีมูลค่าบริษัท 2.6 ล้านล้านบาท ซึ่งในปี 2002 Deutsche Post ก็ได้เข้ามาถือหุ้น 100% ใน DHL Group บริษัทด้านขนส่งและโลจิสติกส์ ที่มีบริการขนส่งทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศทั่วทุกมุมโลก
1
อีกบริษัทหนึ่ง คือ Deutsche Telekom บริษัทที่ให้บริการด้านโทรคมนาคม
มีมูลค่าบริษัท 3.1 ล้านล้านบาท เป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเมื่อวัดจากรายได้ โดยหนึ่งในบริษัทลูกก็คือ T-Mobile แบรนด์ที่ให้บริการเครือข่ายสื่อสารในหลายประเทศของยุโรป
2
จากรัฐนอร์ดไรน์-เวสท์ฟาเลินขึ้นมาทางเหนือ การเดินทางก็มาถึงบริษัทสุดท้ายในบริษัท Top 10
มาอยู่ที่รัฐนีเดอร์ซัคเซิน รัฐแห่งนี้ มีเมืองเล็ก ๆ ชื่อโวล์ฟสบวร์ก (Wolfsburg) ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางของประเทศเยอรมนีพอดี
1
ถึงแม้เมืองโวล์ฟสบวร์กจะมีประชากรเพียง 120,000 คน
แต่ก็เป็นเมืองที่ชาวเมืองมี GDP ต่อหัวสูงที่สุดในเยอรมนี เพราะเป็นที่ตั้งโรงงานของ
บริษัทยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ชื่อบริษัทมีความหมายว่ารถของประชาชน
นั่นคือ “Volkswagen”
2
รถของประชาชน เกิดจากความคิดที่จะสร้างรถขนาดเล็ก กะทัดรัด และใคร ๆ ก็ครอบครองได้ของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำเยอรมนีในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง แต่แผนการนี้เป็นจริงก็หลังจบสงคราม
2
เมื่อ Heinrich Nordhoff ขึ้นมาเป็นผู้บริหาร ก็ได้ปรับกลยุทธ์การตลาด และใช้ข้อได้เปรียบของรถ Volkswagen ที่มีราคาไม่แพง และขนาดกะทัดรัด รูปร่างเหมือนแมลง หรือ “Beetle” จนสามารถบุกตลาดสหรัฐฯ และตลาดโลกได้สำเร็จ
2
Volkswagen เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนครอบครองรถยนต์อีกหลายแบรนด์ ทั้งรถสัญชาติเยอรมันและอังกฤษ
และกลายเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงสุดในทวีปยุโรป ด้วยมูลค่า 5.2 ล้านล้านบาท
2
ซึ่ง Volkswagen ก็เป็นผู้จ้างงานรายใหญ่ที่สุดของเมืองโวล์ฟสบวร์ก และเป็นส่วนสำคัญมากที่ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นเมืองที่มั่งคั่งที่สุดของเยอรมนี..
2
การเดินทางทั่วเยอรมนี ผ่าน 10 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
ไม่ได้บอกแค่ว่า ประเทศแห่งนี้กำลังให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมอะไร ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต
แต่ยังบอกให้เรารู้ว่า การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ไม่จำเป็นต้องถูกกำหนดจากเมืองใหญ่ หรือเมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรมเพียงไม่กี่แห่งของประเทศเท่านั้น
1
หากรัฐบาลมีการกระจายอำนาจที่ดี ท้องถิ่นก็จะสามารถบริหารจัดการเศรษฐกิจโดยเข้าใจคนท้องถิ่นอย่างแท้จริง
2
หากรัฐบาลมีการกระจายการศึกษาที่มีคุณภาพ ผู้คนในเมืองเล็ก ๆ ก็สามารถเข้าถึงองค์ความรู้ และต่อยอดสร้างธุรกิจ จนเติบโตกลายเป็นบริษัทระดับโลกได้
1
หากประเทศมีระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวก มีประสิทธิภาพ และทั่วถึง บริษัทในเมืองเล็ก ๆ ก็สามารถขนส่งสินค้าของตัวเองไปขายที่ไหนก็ได้
“ไม่ว่าจะอยู่ในเมืองเล็กหรือเมืองใหญ่ ใคร ๆ ก็มีความฝันที่ยิ่งใหญ่ได้เสมอ”
คำนี้อาจเป็นนิยามที่ดีที่สุด ของ 10 บริษัทที่ใหญ่สุด ของประเทศเยอรมนี..
โฆษณา