1 ต.ค. 2021 เวลา 13:45 • ประวัติศาสตร์
นักเคมีชาวยิวที่ช่วยให้กองทัพอังกฤษรอดพ้นจากเงื้อมมือของ ‘ฮิตเลอร์’ ที่ต่อมาได้เป็นประธานาธิบดีคนแรกของ ‘อิสราเอล’
• Chaim Weizmann
คือประธานาธิบดีคนแรกของ อิสราเอล ที่มาจากการเลือกตั้ง เขาเกิดในครอบครัวของชาวยิวใน เบราลุส (ในตอนนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิรัสเซีย) เมื่อโตขึ้นก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำไซออนิสต์ และมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับ ‘Theodor Herzl’ (บิดาแห่งไซออนิสต์)
เขาได้ศึกษาต่อทางด้านชีวเคมีในประเทศอังกฤษ จนกลายเป็นอัจฉริยะ และยังเป็นเพื่อนกับ ‘อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์’ (Albert Einstein) อีกด้วย ด้วยความที่เขาเก่งด้านเคมีเป็นอย่างมาก ทำให้เขามีอำนาจในการต่อรอง และได้มาซึ่งอะไรหลายๆ อย่าง ที่เป็นประโยชน์ต่อการเคลื่อนไหวของกลุ่มไซออนิสต์
ไวซ์มานน์ คือผู้นำไซออนิสต์ที่มีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งประเทศอิสราเอล จากการที่เขาเป็นผู้ที่ทำให้ ‘คำประกาศบัลโฟร์’ (Balfour Declaration) นั้นเกิดขึ้น อีกทั้งยังเป็นผู้ที่ทำให้รัฐบาลอังกฤษ และอเมริกา สนับสนุนการสถาปนาประเทศอิสราเอลอีกด้วย
• ต่อชีวิตให้กองทัพอังกฤษ และการได้มาของคำประกาศบัลโฟร์
ในช่วงของสงครามโลกครั้งที่ 1 ในขณะที่สงครามกำลังตีงเครียด กองทัพของอังกฤษก็ได้ประสบปัญหาครั้งใหญ่ เนื่องจากไม่สามารถผลิต อะซิโตน (Acetone) ได้เพียงพอต่อการใช้เป็นวัตถุระเบิด โดยก่อนหน้าที่จะมีสงครามได้มีการนำเข้ามาจากออสเตรีย และเยอรมัน ซึ่งกลายเป็นศัตรูของประเทศไปแล้วจึงไม่สามารถนำเข้าอะซิโตนได้อีกต่อไป
วินสตัน เชอร์ชิล (Winston Churchill) จึงได้ทำการติดต่อไปยังไวซ์มานน์ว่าสามารถที่จะผลิตอะซิโตนจำนวน 30,000 ตันได้หรือไม่ เขาได้ตอบเชอร์ชิลล์กลับไปว่า จากการทดลองของเขาสามารถผลิตอะซิโตนจากแป้งในข้าวโพดได้จำนวนหนึ่งแล้ว หลังจากนั้นเขาได้ตัดสินใจลาออกจากงานที่แมนเชสเตอร์แล้วย้ายไปที่ลอนดอน เพื่อทำการพัฒนากระบวนการผลิตอะซิโตนให้ได้ตามที่กองทัพอังกฤษต้องการ
Winston Churchill (📷  Yousuf Karsh)
ในปี 1917 เขาได้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยสามารถผลิตอะซิโตนได้จำนวน 3,000 ตันต่อปี แต่การสกัดจากข้าวโพดนั้นทำให้สูญเสียทรัพยากรจำนวนมาก เขาจึงได้ทำการศึกษาทดลองต่อกับพืชที่กินไม่ได้ โดยที่เขาได้ทำการทดลองสกัดจากต้น เกาลัดม้า (Horse Chestnut) และประสบความสำเร็จจนกลายเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับไวซ์มานน์
หากปราศจากความช่วยเหลือของไวซ์มานน์นั้น กองทัพอังกฤษคงจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากในการเอาชนะฮิตเลอร์ ด้วยเหตุนี้เองทำให้เขาเป็นตัวแปรสำคัญในการเจรจากับรัฐบาลอังกฤษให้สนับสนุนเจตจำนงของกลุ่มไซออนิสต์ และได้มาซึ่งคำประกาศบัลโฟร์ ที่แสดงถึงการสนับสนุนของรัฐบาลอังกฤษในการสถาปนารัฐสำหรับชาวยิวในดินแดนที่ปัจจุบันคือประเทศ อิสราเอล
1
หลังจากที่สงครามจบลง ไวซ์มานน์ ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นประธานของสภาไซออนิสต์โลก (World Zionist Organization) และในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1949 เขาได้ถูกเลือกให้เป็นประธานาธิบดีคนแรกของอิสราเอล (ที่มาจากการเลือกตั้ง)
• เพียง 11 นาทีหลังจากการสถาปนาอิสราเอล
Harry S. Truman (📷 National Archives and Records Administration. Office of Presidential Libraries. Harry S. Truman Library)
ในวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1948 เดวิด เบนกูเรียน (David Ben-Gurion) ได้ประกาศการสถาปนาประเทศอิสราเอล ท่ามกลางการต่อต้านจากประเทศอาหรับรอบๆ แต่เพียง 11 นาทีหลังจากคำประกาศนั้นได้เผยแพร่ออกไป ประธานาธิบดี แฮร์รี่ ทรูแมน (Harry S. Truman) ของสหรัฐฯ ได้ออกมายอมรับการสถาปนาอิสราเอลอย่างเป็นทางการ
ซึ่งเบื้องหลังของการสนับสนุนครั้งนี้จะเป็นผลงานของใครไปไม่ได้นอกจาก ‘ไวซ์มานน์’ เขาได้พบประธานาธิบดี ทรูแมน ที่ทำเนียบขาว (White House) จากความช่วยเหลือของ Edward Jacobson ที่เป็นเพื่อนสนิทของทรูแมน
หลังจากการสนทนาที่ทำเนียบขาวจบลง ทรูแมนนั้นประทับใจ และชื่นชอบไวซ์มานน์เป็นอย่างมาก และได้ให้คำมั่นสัญญาว่า หากชาวยิวนั้นสถาปนารัฐอิสราเอลเมื่อไหร่ สหรัฐฯ จะยอมรับการก่อตั้งประเทศอย่างเป็นทางการ และให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
ถ้าจะพูดถึงบทบาทของ ไวซ์มานน์ ในการสถาปนาอิสราเอลนั้น คงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เขาคือผู้เล่นคนสำคัญที่ทำให้มีประเทศอิสราเอลในทุกวันนี้ และเขายังถูกยกย่องให้เป็น ‘บิดาแห่งไซออนิสต์สมัยใหม่’ จากชาวยิวจำนวนมากอีกด้วย
โฆษณา