Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าของสาว(เหลือ)น้อย
•
ติดตาม
2 ต.ค. 2021 เวลา 09:06 • บันเทิง
เลข ๗ เลขเด็ดในตำนาน ✍ 📗
พระธิดารจนากับพระพี่นางทั้ง 6 Cr:FB_Partida added a new photo
เลข 7 เป็นเลขศักดิ์สิทธิ์ในความเชื่อของชาวจีนและชาวอินเดีย ขณะที่ชาวญี่ปุ่นจะถือว่าเป็นเลขมงคลสูงสุด
1
ในคัมภีร์ไบเบิล ระบุไว้ว่า พระเจ้าทรงสร้างโลกใช้เวลาสร้างโลกทั้งสิ้น 6 วัน และทรงใช้เวลาอีก 1 วัน สำหรับเป็นวันหยุดพักผ่อน จึงเป็นที่มาของการกำหนดให้ 1 สัปดาห์ มี 7 วัน และมี 1 วันเป็นวันหยุดพักผ่อน แต่ประเทศไทยภาครัฐหยุดให้พักผ่อน 2 วัน เสาร์-อาทิตย์ ตรงนี้แม่เหน่ง No comment...แฮ่ๆ...เพราะเป็นข้าราชการในระบบราชการไทย
ว่าด้วยเลข 7 กันต่อ บางคนเชื่อว่า เลข 7 เป็นเลขบาปเคราะห์ แต่สำหรับแม่เหน่งสนใจเลข 7 ในแง่ที่ว่าตำนานหรือนิทานปรัมปราหลายเรื่องที่เชื่อมโยงกับเลข 7 แล้วตำนานเหล่านั้นก็มีเรื่องราวแสนสนุก เศร้า
โรแมนติก คละเคล้ากัน เป็นตำนานลือลั่นในแต่ละประเทศ
เรามาตามเลข 7 ให้เลข 7 นำทางเข้าสู่ตำนานแห่งความรักลึกซึ้ง ตราตรึงหัวใจกันเถอะ
สังข์ทอง 🤴👸
ตามภาพจั่วหัวเลยนะคะ ภาพปกเป็นรูปนางรจนากับพี่สาวทั้ง 6 นาง สาวๆในวรรณคดีไทยเรื่องสังข์ทอง ที่ถูกนำมาเล่นเป็นละครนอก และนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์มากครั้งที่สุดเรื่องหนึ่ง เอาเป็นว่าจะเล่าแบบสายย่อจริงๆนะคะ เพราะท่านผู้อ่านคงอ่าน ฟัง ดู กันมาไม่น้อย
สังข์ทอง เป็นเรื่องราวของพระเอกที่พระมารดา คลอดลูกออกมาเป็นหอยสังข์ จึงถูกขับออกจากวัง แต่ไม่วายจะถูกจองล้างจองผลาญจาก มเหสีฝ่ายซ้าย อยู่กับสองตายายไม่ทันไร มเหสีฝ่ายซ้ายก็จับพระสังข์น้อยไปปล่อยลงน้ำ พญานาคช่วยไว้ แล้วนำไปมอบให้นางพันธุรัต ยักษี พระสังข์เติบใหญ่ รู้ว่าแม่เลี้ยงตัวไซ้รเป็นยักษ์ จึงลักรูปเงาะ ไม้เท้า เกือกแก้ว แล้วหนีขึ้นเขา นางพันธุรัตตามมา แต่ขึ้นไปหาลูกยาไม่ได้ ทิ้งมนต์มหาจินดา เรียกเนื้อเรียกปลาไว้ให้ แลัวสิ้นชีพไป ณ เชิงเขานั้น
พระสังข์เหาะมาถึงเมืองสามล ท้าวสามลกับนาง
มณฑากำลังจัดพิธีเลือกคู่ให้พระธิดาทั้ง 7 พี่นางทั้ง 6 ได้คู่ เหลือแต่หนูรจนาน้องนุชสุดท้อง ที่เห็นรูปทองซ่อนอยู่ในรูปเงาะ เสี่ยงมาลัยเหมาะเจาะลงที่เจ้าเงาะทันที
เสด็จพ่อไม่ปลื้ม ขับเจ้าเงาะและรจนา ไปอยู่กระท่อมปลายนา กลั่นแกล้งให้หาเนื้อหาปลา แข่งกับเจ้าพระยา 6 เขย ถูกพระสังข์แกล้งกลับตัดปลายหู ปลายจมูก แลกปลาเนื้อผูกเพียงปลายไม้ไป สามลโกรธใหญ่ แต่ทำอะไรไม่ได้เสียที
พระอินทร์ร้อนอาสน์ ทนดูไม่ไหว ต้องช่วยพ้นภัยไปท้าตีคลี ท้าวสามลส่ง 6 เขยไปพ่ายแพ้บรรลัยไม่สมใจเลย สุดท้ายงอนง้อสังข์ทองลูกพ่อ ขอช่วยสักที พระสังข์ตีคลีชนะพระอินทร์ ใกล้สิ้นเคราะห์กรรม
พระอินทร์สอดมือ ขอช่วยอีกครั้ง ดลใจให้ท้าวยศวิมล พระบิดา พระสังข์ ออกตามหานางจันเทวี พระมารดา ชวนกันเดินป่า เข้ามาในวัง แกะสลักชิ้นฟักแกงให้พระสังข์ หมดสิ้นเคราะห์กรรม จดจำเรื่องราวจากลายสลัก ได้พบพร้อมพักตร์ พระสังข์ รจนา เสด็จยาตรา ตามท้าวยศวิมล จันทเทวี จรลีกลับเมืองยศวิมลเอย...เตลง...เตล๊ง...เตล่ง...เตลง...เตลง...
เตล้ง...เตลง...เตล่ง...เตลง
พระสุธน - มโนราห์ 🦚
นางกินรีทั้งเจ็ดนาง Cr : pinterest
พระสุธน - มโนราห์ เป็นวรรณกรรมเลื่องชื่อมาแต่สมัยอยุธยา นางมโนราห์เป็นธิดาองค์สุดท้องของท้าว
ทุมราชผู้เป็นพระยากินนร ซึ่งมีราชธิดาถึง 7 องค์
วันหนึ่งธิดาทั้ง 7 องค์ของท้าวทุมราช ลงเล่นน้ำในสระน้ำอโนดาต และถอดปีกถอดหางทิ้งไว้บนขอบสระ
พรานบุญ เห็นเหล่านางกินรีลงเล่นน้ำ จึงใช้บ่วงนาคบาศจับนางมโนราห์ไว้ได้ และนำนางไปถวายแก่พระสุธน โอรสแห่งเมือง ปัญจาลนคร
พระสุธนนั้น มีเรื่องขุ่นแค้นกับปุโรหิต เมื่อพระสุธนออกรบ ปุโรหิตก็ใส่ร้ายทำนายว่าเมืองจะพิบัติ ให้นำนางมโนราห์ มาบูชายัญ ท้าวอาทิตยวงศ์ พระบิดาของพระสุธนทรงยินยอม
นางมโนราห์ จึงออกอุบายขอปีกขอหาง รำบูชาอัคคี แล้วเลยบินหนี ไปพบฤาษี จึงฝากภูษา ธำมรงค์ไว้ให้พระสุธน
เมื่อกลับจากการศึก พระสุธนได้ลงโทษปุโรหิต และออกตามหามโนราห์ ได้ธำมรงค์มาจากฤาษี จากนั้นก็ตามหามโนราห์ มาถึงสระอโนดาต แล้วแอบเอาธำมรงค์ใส่คณโฑของนางกำนัลคนหนึ่งไป นางกำนัลนำน้ำไปสรงองค์ธิดามโนราห์ แหวนตกลงลงมาที่นางพอดี ทำให้นางรู้ว่าพระสุธนมาตามหา จึงแจ้งพระบิดา
ท้าวทุมราชอยากลองใจลูกเขย จึงให้พระสุธนหา
มโนราห์ให้พบ ในหมู่พระธิดาทั้ง 7 นาง ที่พี่น้องตระกูลนี้ หน้าตาละม้ายคล้ายกันหมด
เดือดร้อนพระเอกตัวจริงกระทิงแดง...ของเราต้องเข้ามาช่วย คือ ท่านพระอินทร์ นั่นเอง พระองค์ทรงแปลงองค์เป็นแมลงวันทอง ไปจับผมของนางมโนราห์ ทำให้พระสุธนจำได้ และเลือกถูกคน พระสุธนจึงได้อยู่เคียงคู่มโนราห์อย่างมีความสุข
วันซีซี 🎑 🧧วันแห่งความรักจีน ตรงกับวันขึ้น 7 ค่ำ เดือน 7 วันนี้บนท้องฟ้าจะปรากฏกลุ่มควันสีขาวพาดผ่าน เรียกกันว่า "ทางช้างเผือก" สุดปลายทางช้างเผือกเป็นที่พบกัน ของ " สาวทอผ้า กับหนุ่มเลี้ยงวัว "
สาวทอผ้า กับ หนุ่มเลี้ยงวัว
ข้ามกำแพงเมืองจีน ข้ามแม่น้ำฮวงโห ข้ามเทือกเขาทิเบต ไปพบกับตำนานสาวทอผ้ากับหนุ่มเลี้ยงวัว
หนิวหลาง อาศัยอยู่กับพี่ชายและพี่สะใภ้ แต่พี่สะใภ้ชอบพูดจาถากถางเขาอยู่เสมอ เขาจึงหนีออกจากบ้านพร้อมวัว 1 ตัว เขาออกเดินทางไปจนถึงสระน้ำ ไปเจอนางฟ้า 7 องค์ กำลังเล่นน้ำอยู่ เจ้าวัวช่วย หนิวหลางขโมยเสื้อผ้าของนางฟ้า...555...คล้ายเรื่อง พระสุธน มโนราห์ เลยนิ
เมื่อนางฟ้าเล่นน้ำเสร็จไม่พบเสื้อผ้า จึงให้น้องสุดท้อง จือหนี่ว์ ที่แปลว่าสาวทอผ้า มาขอเสื้อผ้าคืนจากหนิวหลาง ทันใดนั้นหนิวหลางก็ตกหลุมรักจือหนี่ว์ทันที และขอนางแต่งงาน
ทั้งสองแต่งงาน มีลูกชายหนึ่งหญิงหนึ่ง อยู่ด้วยกันอย่าง happy แต่แล้วเจ้าแม่หวังหมู่ ผู้ปกครองสวรรค์ รู้เรื่องก็มีน้ำโหมาก เพราะกฎสวรรค์ห้ามนางฟ้ารักกับมนุษย์ เจ้าแม่พาตัวจือหนี่ว์กลับสวรรค์
ต่อมาเจ้าวัวได้ป่วยลง ก่อนตายมันบอกหนิวหลางว่าให้ใช้หนังของมันคลุมไหล่เหาะไปตามหาภรรยาบนสวรรค์ หนิวหลางหอบลูกน้อยทั้งสองไปตามหา
จือหนี่ว์บนสวรรค์
แต่ถูกเจ้าแม่หวังหมู่ใช้ปิ่นเงินขีดเส้นบนฟ้า กลายเป็นมหานทีขว้างกั้นไม่ให้ หนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้าได้พบกัน
ต่อมา เหล่านกสี่เช่วบนสวรรค์เห็นใจในความรักของทั้งสอง ในทุกวันขึ้น 7 ค่ำ เดือน 7 ของทุกปี พวกนกจึงต่อปีกกันเพื่อสร้างเป็นสะพานให้หนิวหลางและ
จือหนี่ว์ข้ามมาพบกัน เมื่อเจ้าแม่หวังหมู่ทรงทราบก็สงสาร และยินยอมให้ทั้งคู่พบกัน
วันทานาบาตะ 🎋 🎎
วันทานาบาตะ : เขียนคำอธิษฐานลงบนกระดาษแผ่นเล็กๆแล้วนำไปแขวนกับกิ่งไผ่ เพื่อขอพรจากดวงดาว
วันที่ 7 กรกฎาคม คือวันแห่งเทศกาล " ทานาบาตะ " ผู้คนจะเขียนคำอธิษฐานลงบนกระดาษแผ่นเล็กๆที่เรียกว่า " ทังซะกุ " แล้วนำไปแขวนไว้กับกิ่งไผ่เพื่ออธิษฐานขอพรจากดวงดาว
" วันทานาบาตะ " ของประเทศญี่ปุ่น ได้รับอิทธิพลมาจาก " วันซีซี " ของประเทศจีน เรื่องข้างบนโน้นแหละค่ะ ☝️ ☝️ ☝️
นางฟ้าโอริฮิเมะ ลูกสาวของกษัตริย์แห่งท้องฟ้า ทำหน้าที่ทอผ้าอยู่ที่แม่น้ำอามาโนกาวะ เธอทอผ้าได้สวยถูกใจพ่อมาก แต่เธอไม่มีความสุข เพราะไม่ได้พบชายใด ในขณะที่เริ่มเข้าสู่วัยฮอร์โมนว้าวุ่น พ่อก็เลยนำ
ฮิโกโบชิ...ไม่ใช่ โกบุริ...นะคะ...มาพบกับธิดาสาว
ฮิโกโบชิ เป็นชายเลี้ยงวัวที่อยู่อีกฟากฝั่งของทางช้างเผือก เมื่อทั้งคู่พบกันก็ตกหลุมรักและแต่งงานกัน ทั้งคู่หลงรักกันอย่างมาก จนไม่เป็นอันทำมาหากิน
นางฟ้าไม่ยอมทอผ้า ชายหนุ่มไม่ยอมเลี้ยงวัว ท่านพ่อโกรธมาก จึงแยกทั้งสองออกจากกันด้วยทางช้างเผือก แต่สุดท้ายกษัตริย์แห่งท้องฟ้าก็พ่ายแพ้แก่น้ำตาบุตรี จึงยอมให้ทั้งคู่พบกันในวันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี โดยมีข้อแม้ว่า โอริฮิเมะ ต้องทอผ้าให้เสร็จเสียก่อน
แต่ทั้งคู่ก็ยังมีอุปสรรค ขาดสะพานที่จะทอดเชื่อมถึงกัน ฝูงนกกางเขนสงสารจึงใช้ปีกของมันสร้างสะพาน โอริฮิเมะกับฮิโกโบชิ จึงข้ามทางช้างเผือกมาพบกันได้
มีคนกล่าวว่าถ้า วันทานาบาตะ ปีไหนฝนตก นกกางเขนไม่มา สะพานที่ว่าก็สร้างไม่ได้ ทั้งคู่ก็ต้องรอจนกว่าจะถึง วันทานาบาตะ ปีหน้าจึงจะได้พบกันอีกครั้ง
ฉันจะรอเธอเรื่อยไป อยู่ปลายขอบฟ้า ณ ทางช้างเผือกแสนไกล รอชาติสุดท้ายที่เราได้เป็นคู่กัน
Reference :
gotoknow.org/posts/458734
th.wikipedia.org/wiki/ทานาบาตะ
bangkokbizenews.com/lifestyle
/9547733
บันทึก
8
2
8
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย