4 ต.ค. 2021 เวลา 02:43 • ธุรกิจ
รู้จักบริษัท Foxconn กระดูกสันหลังของ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก
5
ทุกวันนี้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก สมาร์ตโฟน
หรือแม้แต่พวกหูฟัง หรือสมาร์ตวอตช์ นับเป็นอุปกรณ์สำคัญ ที่เราแทบขาดไม่ได้
2
และแม้ว่าแบรนด์ผู้พัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะมีอยู่มากมาย เช่น Apple, Sony, Nintendo และ Samsung แต่รู้หรือไม่ว่าอุปกรณ์เหล่านี้ เกือบครึ่งหนึ่งบนโลก กลับถูกผลิตขึ้นโดยบริษัทเดียวกัน ที่ชื่อว่า “Foxconn Technology”
3
แล้วเรื่องราวของ Foxconn Technology เป็นอย่างไร ?
ทำไมแบรนด์ระดับโลกถึงต้องจ้างบริษัทแห่งนี้ เป็นผู้ผลิตสินค้าให้
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
1
เรามาเริ่มกันที่ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ความสำเร็จของบริษัทแห่งนี้ ที่มีชื่อว่า “Terry Gou”
Terry Gou เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1950 หรือราว 71 ปีก่อน ที่เมือง Banqiao Township ประเทศไต้หวัน
โดยคุณพ่อของเขาเป็นทหารในสงครามกลางเมืองของจีน ในฝ่ายของเจียง ไคเชก
ซึ่งในปี ค.ศ. 1949 เจียง ไคเชก เป็นฝ่ายแพ้สงคราม ทำให้พ่อของเขาต้องพาครอบครัวอพยพจากประเทศจีน มาอยู่ที่ไต้หวัน
1
หลังจากนั้น 1 ปี Terry Gou ก็ลืมตาขึ้นมาบนโลกนี้..
เนื่องจากการเป็นผู้แพ้สงครามและเป็นผู้อพยพ ครอบครัวของเขาจึงมีฐานะค่อนข้างยากจน
ทำให้เขาและพี่น้องอีก 3 คน เติบโตมาด้วยความยากลำบาก
1
ด้วยเหตุนี้ทำให้คุณ Terry Gou มีชีวิตในวัยเด็กที่ต้องทำงานและเรียนไปพร้อมกัน แต่นั่นทำให้เขาได้มีโอกาสในการลองทำงานในหลากหลายด้าน เช่น ทำงานในโรงงานผลิตยา และโรงงานใบหินเจียร
1
ในขณะเดียวกัน เขาก็สามารถเข้าเรียนที่ Taipei College of Maritime Technology ได้สำเร็จ
หลังจากจบการศึกษา คุณ Terry Gou ได้เข้าทำงานเป็นเสมียนอยู่ที่บริษัทส่งออกแห่งหนึ่งในไต้หวัน
ที่นั่น เขาก็สังเกตเห็นว่าการส่งออกของไต้หวันมีแนวโน้มที่เติบโตมากขึ้น
4
ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไต้หวัน ซึ่งทำให้เศรษฐกิจ
เติบโตอย่างรวดเร็ว ในชนิดที่ว่าช่วงนั้น ถูกเรียกกันว่า “Taiwan Miracle”
2
เศรษฐกิจของไต้หวันตั้งแต่ปี ค.ศ. 1952 ถึงปี ค.ศ. 1982 เติบโตเฉลี่ยสูงถึง 8.7% ต่อปี
โดยหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจเติบโต คือ การส่งออก ซึ่งในปี ค.ศ. 1986 มูลค่าการส่งออกของไต้หวันคิดเป็น 2% จากมูลค่าการส่งออกของทั่วโลกเลยทีเดียว
3
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ส่งผลให้คุณ Terry Gou ในวัยเพียง 24 ปี ได้ตัดสินใจก่อตั้งบริษัท “Hon Hai Plastics”
โดยมีทุนเริ่มต้นเพียง 250,000 บาท ซึ่งเป็นการยืมเงินมาจากคุณแม่ของเขา
4
ในช่วงเริ่มต้นนั้นบริษัท Hon Hai Plastics ยังไม่ได้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความซับซ้อนมากนัก
โดยเริ่มจากชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับ ทีวีภาพขาวดำ
2
หลังจากนั้นไม่นานคุณ Terry Gou เริ่มมองเห็นว่าอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในฝั่งตะวันตก
ทำให้ในเวลาต่อมา เขาได้ตัดสินใจขยายธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจรับจ้างผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “Hon Hai Industrial” เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางของบริษัทที่ทำมากกว่าพลาสติก
และแล้วจุดเปลี่ยนแรกของ Hon Hai Industrial ก็เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1980 เมื่อทาง Hon Hai ได้รับออร์เดอร์จากลูกค้ารายใหญ่อย่าง Atari ในการผลิตหัวต่อจอยสติกของเครื่องเล่นเกม
หลังจากนั้นคุณ Terry Gou ได้ทำการเปลี่ยนชื่อบริษัทอีกครั้ง
จาก Hon Hai Industrial มาเป็น “Foxconn Technology”
หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Foxconn เพื่อให้ชื่อมีความเป็นสากลมากขึ้น
4
พร้อมกับค่อย ๆ ขยายธุรกิจ ในการรับจ้างผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อื่นมากขึ้น
โดยหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ Foxconn โฟกัสเป็นหลัก คือ Connector หรือ ตัวเชื่อมต่อ
ซึ่งในตอนนั้นยังไม่มีคู่แข่งมากนัก เนื่องจากบริษัทอื่นเน้นไปที่การผลิตและพัฒนาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง ทำให้ Foxconn ของคุณ Terry Gou เป็นผู้เล่นเพียงไม่กี่รายในตลาด
1
แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายอย่างที่คุณ Terry Gou คิด เพราะแม้ทาง Foxconn จะสามารถผลิตตัวเชื่อมต่อ และ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่มีคุณภาพได้แล้ว
1
แต่ปัญหาคือ “ยังไม่มีลูกค้า” เนื่องจากในช่วงนั้น อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับ อิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่อยู่ที่สหรัฐอเมริกา
1
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คุณ Terry Gou จึงตัดสินใจเดินทางไปที่สหรัฐอเมริกา เพื่อไปตามหาลูกค้า
1
เขาใช้เวลา 11 เดือน ในการเดินทางไปทั้งหมด 32 รัฐ เพื่อไปที่สำนักงานของแต่ละบริษัท
ด้วยตัวของเขาเอง เพื่อติดต่อเสนอการรับจ้างผลิตตัวเชื่อมต่อให้แต่ละบริษัท
2
เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า มีหลายครั้งที่เขาโดนปฏิเสธจากเลขาฯ ของบริษัท หรือบางครั้งถึงกับโดนยามไล่ออกมา เนื่องจากเขาใช้วิธีเดินเข้าไปติดต่อโดยตรง โดยที่ไม่ได้มีการนัดหมายไว้ก่อน
2
ซึ่งหากนัดหมายล่วงหน้า อาจจะต้องใช้เวลาที่นาน
หรือที่แย่กว่านั้น อาจโดนปฏิเสธไม่ให้เข้าพบกับทีมผู้บริหาร
เนื่องจากในยุคนั้น Foxconn ยังไม่ได้มีชื่อเสียงและไม่ได้เป็นที่รู้จักเหมือนในปัจจุบัน
1
แม้จะโดนยามไล่ออกมาหลายครั้ง แต่ความพยายามของคุณ Terry Gou ก็เริ่มเห็นผล เพราะในเวลาต่อมา เขาก็สามารถไปปิดดีลกับบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง เช่น HP, Dell และ IBM ได้สำเร็จ
7
จากการที่ Foxconn ได้ลูกค้ามากขึ้น ทำให้บริษัทเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
จนทำให้ในปี ค.ศ. 1988 คุณ Terry Gou ได้ลงทุนสร้างโรงงานที่ใหญ่ที่สุดของ Foxconn
ในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน โดยโรงงานแห่งนี้มีพนักงานมากถึง 450,000 คน เลยทีเดียว
2
และด้วยการเติบโตนี้ ทำให้ในที่สุดคุณ Terry Gou สามารถพา Foxconn Technology
เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน (TWSE) ได้สำเร็จ ในปี ค.ศ. 1991
จากการที่เข้าตลาดหลักทรัพย์สำเร็จ ทำให้บริษัทยิ่งเป็นที่รู้จักมากขึ้น
Foxconn ในตอนนี้ไม่ได้เป็นแค่ผู้ผลิตตัวเชื่อมต่อแล้ว แต่ยังรวมไปถึงผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์
ยกตัวอย่างบริษัทที่เป็นลูกค้า เช่น Compaq บริษัทคอมพิวเตอร์ชื่อดังในยุคนั้น
1
จนจุดเปลี่ยนสำคัญของ Foxconn ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ในช่วงปี ค.ศ. 2000
1
เมื่อ iMac ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของทาง Apple ในตอนนั้นกลับขายดีอย่างคาดไม่ถึง
1
เดิมทีนั้น Apple ได้จ้าง LG Electronics หนึ่งในบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้ ในการผลิตชิ้นส่วนของ iMac
1
แต่เมื่อยอดขายเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ทาง Apple ต้องหาผู้ผลิตเพิ่ม ให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้งาน
1
โดยเงื่อนไขคือ ต้องการผู้ผลิตที่มีความสามารถมากพอในการผลิตชิ้นส่วนให้มีคุณภาพ และได้มาตรฐานระดับโลก ซึ่งคนที่รับผิดชอบในการหาผู้ผลิตสมัยนั้น ก็คือ “ทิม คุก” และเขาก็ได้เลือก Foxconn ให้มาเป็นผู้ผลิต
1
ensurecommunication
จากเหตุการณ์นี้ ทำให้ Foxconn ได้ทำสัญญากับทาง Apple ในการผลิตชิ้นส่วนของ iMac
และนับเป็นการเริ่มความสัมพันธ์ระหว่าง Apple กับ Foxconn นับตั้งแต่นั้นมา
ด้วยคุณภาพการผลิตที่ได้มาตรฐานและกำลังการผลิตที่มากเพียงพอของ Foxconn
ทำให้ Apple เลือก Foxconn ให้เป็นผู้ผลิตหลักของ Apple ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ตามมาหลังจากนั้น
เช่น iPhone, iPad มาจนถึง iPhone 13 ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา
3
นอกจาก Apple แล้ว Foxconn ยังรับจ้างผลิตชิ้นส่วนของผลิตภัณฑ์อื่นอีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่น เครื่องคอนโซลเกม ทั้ง Sony PlayStation และ Microsoft Xbox
รวมไปถึงเครื่องเล่นเกมอย่าง Nintendo Switch
1
ปัจจุบัน Foxconn ถือเป็นหนึ่งในบริษัทผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งบริษัทมีฐานการผลิตกระจายอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา, อินเดีย, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, ญี่ปุ่น และบราซิล
2
โดยในปี 2020 Foxconn มีรายได้ 6.4 ล้านล้านบาท กำไร 1.2 แสนล้านบาท และมีส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจรับจ้างผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อยู่ที่ 41% หรือเรียกได้ว่าเกือบครึ่งหนึ่งของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ถูกผลิตโดย Foxconn
ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าอยู่ที่ 1.8 ล้านล้านบาท ซึ่งก็ได้ทำให้คุณ Terry Gou ที่เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวความสำเร็จทั้งหมดนี้ มีทรัพย์สินราว 2.1 แสนล้านบาท จัดเป็นเศรษฐีอันดับ 6 ของไต้หวัน
2
แล้วเราได้อะไรจากเรื่องนี้ ?
ข้อคิดที่เราได้จากคุณ Terry Gou อาจสรุปได้เป็น 2 ข้อด้วยกัน
1. เขาไม่รอคอยโอกาส แต่สร้างโอกาสให้ตัวเอง
เริ่มตั้งแต่สมัยที่เป็นพนักงาน ที่มองเห็นโอกาสและการเติบโตของยอดส่งออก
ซึ่งก็นับเป็นจุดเริ่มต้นในการก่อตั้งธุรกิจรับจ้างผลิต จนกลายมาเป็น Foxconn
5
รวมถึงสมัยที่ ออกเดินทางไปสหรัฐอเมริกา เพื่อไปตามหาลูกค้าด้วยตัวของเขาเอง
แม้จะโดนปฏิเสธอยู่หลายครั้ง แต่เขาก็พยายามจนสำเร็จ
6
2. ไม่หยุดที่จะพัฒนาธุรกิจของเขาต่อไปเรื่อย ๆ
เราจะสังเกตเห็นว่า คุณ Terry Gou จะคอยมองหาช่องทางในการขยายธุรกิจอยู่เสมอ
ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มขยายจากการผลิตชิ้นส่วนพลาสติก ไปสู่ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในตอนแรก
หรือการลงทุนสร้างโรงงานใหม่ เพื่อผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความซับซ้อนมากและมาตรฐานที่สูงขึ้น
3
นอกจากนี้ Foxconn เอง กำลังรุกเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยเช่นกัน
ปัจจุบัน ทางบริษัท กำลังพัฒนา​​เทคโนโลยีในการผลิตตัวถังของรถยนต์ไฟฟ้า
ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ก็เพิ่งมีข่าวความร่วมมือกับ ปตท. บริษัทในประเทศไทย ที่ทั้ง 2 บริษัทจะร่วมกันศึกษาโอกาสในการพัฒนาฐานการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ในประเทศไทย
1
รวมไปถึงการพัฒนาแพลตฟอร์ม “MIH” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และซอฟต์แวร์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก เพื่อให้ผู้พัฒนาใช้ในการออกแบบรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเอง
3
ด้วยคุณสมบัติของผู้นำอย่างคุณ Terry Gou ก็ไม่แปลกใจเลยว่า
ทำไมบริษัทที่มีจุดเริ่มต้นมาจากผู้อพยพอย่าง Foxconn
จึงกลายมาเป็นหนึ่งในกระดูกสันหลังของ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วทุกมุมโลก ในเวลานี้..
โฆษณา