2 ต.ค. 2021 เวลา 09:27 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
เรื่องที่สองในซีรี่ย์โรคจิตเวชในละครเกาหลี​ที่อยากหยิบมาพูดถึงคือเรื่องนี้ค่ะ​ You Are My Spring ทาง​ Netflix
3
You are My Spring | Netflix
เรื่องราวของจิตแพทย์ที่เช่าชั้นล่างของตึกในกรุงโซลเป็นคลินิคจิตแพทย์ ซึ่งด้านบนเป็นบ้านของหญิงสาวพนักงานโรงแรมผู้มีปมหนักจากวัยเด็กที่พ่อ abusive และเคยเห็นภาพแม่ถูกพ่อซ้อมเป็นประจำ
บอกตรงๆ ว่าถ้าพูดในแง่มุมของการเป็นละคร เรื่องนี้ก็ไม่แย่แต่จะแนะนำว่าสนุกก็พูดไม่ได้เต็มปาก ฮ่าๆๆๆ เพราะการดำเนินเรื่องบางอย่างแปลกๆ และเนือยๆ ออกน่าเบื่อ แต่ที่ยกเรื่องนี้มาไว้ตั้งแต่ตรงนี้เพราะ... เมื่อเป็นซีนที่เกี่ยวกับผู้ป่วยจิตเวช โดยเฉพาะการรับมือและคำพูดกับผู้ป่วย... ดีมากนะคะ ดีแบบ... โอ้โห... พอมาดามดูเรื่องนี้ บางประโยคที่ได้ยินนี่ร้องไห้เลย เพราะเพิ่งรู้ตัวว่าเป็นคำที่อยากได้ยินมาตลอด และยังเอาวิธีการพูดไปปรับใช้ในชีวิตจริงเมื่อเจอเคสซึมเศร้าหรือเคสผู้ดูแลเลยค่ะ
ซีนที่ประทับใจมากๆ มีอยู่หลายซีนเลย แต่จะขอยกมาแค่ 2 ซีนแล้วกัน เดี๋ยวจะยาวเกิ๊นนน 555
ซีนแรกคือซีนระหว่าง Seo Hyun-Jin ที่รับบท Kang Da-Jeong ซึ่งเคยเห็นภาพแม่ตัวเองถูกพ่อทุบตี และ Kim Dong-Wook ซึ่งรับบทจิตแพทย์ Ju Yeong Du ในซีนนี้เกิดขึ้นเมื่อจูยองโดเห็นว่าคังดาจองกำลังมีประเด็นไม่สบายใจ จึงส่งข้อความไปบอกเธอว่าเขาทำงานอยู่ข้างล่างนะ งานเยอะ น่าจะอยู่ถึงดึกเลย...
การที่พระเอกส่งสัญญาณบอกนางเอกว่า “ฉันอยู่ตรงนี้นะถ้าเธอต้องการใครสักคน” อย่างไม่กดดันนั้นโคตรดีและโคตรถูกต้อง ใช้วิธีส่งข้อความไปทิ้งไว้ ให้นางเอกมีทางเลือก​และควบคุมสถานการณ์ของตัวเองได้​ว่าจะอ่านหรือไม่อ่าน ถ้าเป็นการโทรไปมันคือการบอกว่า “ฉันจะคุยกับเธอตอนนี้ รับสิ คุยสิ” ซึ่งมันไม่เหมาะกับใจนางเอกในตอนนั้น​ คำว่า​ "ทำงานข้างล่างนะ" แทนที่จะบอกว่า​ "อยู่รอเธอนะ" ก็โคตรดี...
เห็นมั้ยคะ ทั้งหมดทั้งมวลคือการส่งสัญญาณว่าเป็นห่วงนะ เธอไม่ได้อยู่คนเดียวนะ แต่ไม่มีความกดดันใดๆ เลย
ดาจองตัดสินใจมาหายองโดที่ออฟฟิศ บทสนทนาจึงเริ่มจากเรื่องง่ายๆ ทั่วไป เมื่อรู้สึกปลอดภัยเพียงพอ เธอจึงเริ่มเปิดใจเล่าเรื่องราวในอดีตของตัวเองให้อีกฝ่ายฟัง... ในระหว่างที่พูด ดาจองพยายามกดข่มอารมณ์ตัวเอง แต่ในที่สุดก็เก็บไม่ได้ เธอค่อยๆ หลับตาลงเพราะภาพที่ฝังใจปรากฏชัดในหัว เธอเริ่มร้องไห้และมือเธอเริ่มสั่น เธอเริ่มดิ่งลงไปในความทรงจำนั้นด้วยความรู้สึกผิดที่ช่วยอะไรแม่ไม่ได้ และร้องไห้แรงขึ้นจนตัวโยน... ตรงนี้ซอฮยอนจินเล่นดีมากเลย ถ่ายทอดอารมณ์ของคนที่กำลังพยายามเล่าเรื่องฝังใจที่ไม่เคยพูดออกมาเป็นคำๆ ได้ดีเลย
ยองโดเข้าไปกอดปลอบโยนจนมือเกร็งแข็งของดาจองค่อยๆ คลายลง แล้วเขาจึงคำพูดที่อีกฝ่ายพูดออกมา... เยียวยามากจนทำให้ฝ่ายที่เล่าเรื่องรู้สึกปลดล๊อคปมในอดีต จนตัวละครค่อยๆ พัฒนาคาแรคเตอร์ที่สว่างขึ้นจากฉากนั้น...
ซีนนี้บอกเล่าวิธีการรับมือและคำพูดที่ช่วยปลอบโยนผู้ป่วยที่มีบาดแผลและกำลังดิ่งจมกับเรื่องในอดีตได้ดีมากเลยค่ะ ถ้าอยากศึกษา ลองไปดูใน EP 9 ได้นะคะ ซีนเริ่มนาทีที่ 9.45
อีกซีนที่... รักมาก.... ไม่แพ้ซีนระหว่างนางเอกและพระเอก คือใน EP 7 เป็นซีนของภรรยาเก่าของพระเอกค่ะ Nam Gyu-Ri แสดงเป็น Ahn Ga-Yeong ดาราชื่อดังที่ทุกคนมองว่าตลกและดูถูกว่าเป็นพวกประหลาดเพราะสุดโต่ง แต่ที่จริงเป็น suicidal คือเป็นคนที่ขาดความเชื่อมั่นในตัวเองสูง เหนื่อยกับการใช้ชีวิตที่รู้สึกไร้ค่า และ (เคย) พยายามฆ่าตัวตาย ซีนนี้เกิดขึ้นบนดาดฟ้าหน้าบ้านของดาจอง​ ซึ่งกลายเป็นสถานที่ปลอดภัยของอันกายองไปแล้ว เธอเปิดใจและเล่าเรื่องในอดีตของตัวเองให้เพื่อนของเธอฟัง โดยปิดท้ายด้วยการพูดเหมือนตัวเองเข้มแข็งแล้ว กลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริง..
ในซีนนี้ ดาจองนั้น... เมื่อได้ฟังเรื่องราวของเธอ... นอกจากจะไม่ได้หัวเราะเจื่อนๆ กลบเพื่อเปลี่ยนเรื่องหรือเงียบงันทำตัวไม่ถูก แบบที่คนทั่วไปชอบทำเมื่อได้ฟังเรื่องราวน่าอึดอัดที่ไม่รู้จะรับมืออย่างไร... เธอกลับเห็นใจกายอง เธอร้องไห้ไปกับเพื่อน ก่อนที่จะพูดถ้อยคำที่แสนอ่อนโยน เข้าอกเข้าใจ และเยียวยา... ถ้อยคำที่แม้แต่มาดามเองก็เพิ่งรู้ตัวว่าอยากได้ยินมาตลอด และรู้สึกเหมือนถูกปลอบประโลมไปพร้อมกับตัวละครในเรื่องเลยทีเดียว
“ตอนนี้ คุณไม่เป็นไรแล้วใช่ไหมคะ ที่คุณเคยเจ็บปวด มันคงลำบากมากจริงๆ ฉันหวังว่าตอนนี้คุณจะลำบากน้อยลงแล้ว”
ละครแปลให้ฟังเพิ่มอีกว่า ถ้อยคำเหล่านี้มีความหมายว่า “แม้จะโอบกอดคุณในวันนั้นที่คุณสั่นเทาไม่ได้ แต่ก็อยากกอดคุณในตอนนี้ที่ฝ่าฟันช่วงเวลานั้นมาได้”
ติดตา​มเรื่องราวเกี่ยวกับจิตเวชในซีรี่ย์เกาหลีได้ในเพจมาดามเลยค่ะ​ จะค่อยๆ​ ทยอยลงให้อ่านกันค่าา​ 💕

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา