กลับมาอีกครั้งหลังจากหายไปนานนน ถ้าพูดถึงช่วงนี้ก็มีราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นไม่หยุดหย่อนสวนทางกับการคลายล็อกดาวน์ มาดูกันว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร แล้วถ้าราคาพุ่งไม่หยุดจะเกิดอะไรขึ้น ???
Photo by Colton Sturgeon on Unsplash
ก่อนจะพูดถึงราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นมาดูราคาน้ำมันของช่วงนี้ในปีที่แล้วกันครับ
1 ตุลาคม 2563
- GASOHOL95 E10 22.25 บาท
- GASOHOL91 21.98 บาท
- H-DIESEL 18.95 บาท
ราคาน้ำมันปัจจุบัน
1 ตุลาคม 2564
- GASOHOL95 E10 31.15 บาท
- GASOHOL91 30.88 บาท
- H-DIESEL 28.29 บาท
จากตัวเลขเทียบกับปีที่แล้วจะเห็นได้ว่าราคาเพิ่มมาประมาณเกือบ "10 บาท ต่อลิตร" ถือว่าปรับขึ้นเยอะมากภายใน 1 ปีดังนั้นก่อนจะไปดูสาเหตุที่ราคาปรับขึ้น ต้องขอเล่าให้ทุกคนเห็นภาพก่อนว่ากว่าจะได้ราคาน้ำมันที่ขายตามปั้มผ่านอะไรมาบ้าง
- ถ้าวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ผมสามารถไปขอซื้อน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 จากโรงกลั่นในราคาต้นทุนละก็ผมจะได้มาในราคา 19.3488 บาทต่อลิตรเท่านั้น แต่ราคาตามปั๊มเป็นตามรูปด้านล่าง
ราคาน้ำมันวันที่ 1/10/2564
- ซึ่งแน่นอนมันเป็นไปไม่ได้ที่จะไปขอซื้อจากโรงกลั่นในราคาต้นทุน ฉนั้นเมื่อซื้อจากปั๊มสิ่งแรกที่บวกคือภาษีสรรพสามิต 5.85 บาทจากรัฐบาล ถัดมามีภาษีจากเทศบาลเพื่อดูแลโรงกลั่นในพื้นที่นั้นๆจำนวน 0.585 บาท
- นอกจากนี้ประเทศของเรายังมีกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็นเงินกองทุนสำรองไว้ใช้ตอนราคาน้ำมันผันผวนซึ่งก็เก็บเพิ่มอีก 0.62บาท แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ยังมีอีก 1 กองทุนคือกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานที่ต้องเก็บ 0.1 บาท เพื่อนำเงินไปส่งเสริมพลังงานทดแทนมาจนถึงตอนนี้ราคาน้ำมันจะกลายเป็น 26.5038 บาทต่อลิตร บางคนอาจบอกว่าบวกเพิ่มเยอะเกินไปไหม ตะตะตะแต่.... ยังคงไม่หมดเพียงเท่านี้
- จากราคาที่บวกภาษีและกองทุนก่อนจะไปขายก็ยังมีภาษี VAT 7% สำหรับการขายส่งที่ต้องบวกเพิ่มเข้าไปทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มมาเป็น 28.3590125 บาทซึ่งมาถึงขั้นนี้เพิ่งได้แค่ราคาขายส่งเท่านั้น แน่นอนเวลาปั้มน้ำมันจะมาขายให้เราได้ใช้ก็มีบวกค่าการตลาด 2.6084 บาทซึ่งราคานี้ทำให้แต่ละปั๊มอาจขายน้ำมันราคาไม่เท่ากันและสุดท้ายก็ยังคงมีภาษี VAT สำหรับขายปลีกมาบวกเพิ่มอีกทำให้เราต้องซื้อน้ำมันในราคา 31.15 บาทททททททททท (กว่าจะได้ราคาขายปลีกบวกเยอะจนเหงื่อตก --")
Photo by Ben Hershey on Unsplash
- สรุปที่มาราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 อีกรอบ
1. ราคาโรงกลั่น 19.3488 บาท
2. ภาษีสรรพสามิต 5.85 บาท (ขึ้นอยู่กับชนิดน้ำมัน)
3. ภาษีจากเทศบาล 0.585 บาท (ขึ้นอยู่กับชนิดน้ำมัน)
4. กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 0.62 บาท (ขึ้นอยู่กับชนิดน้ำมัน)
5. กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 0.1 บาท
6. ภาษี VAT สำหรับราคาขายส่ง 1.8553 บาท
7. ค่าการตลาด 2.6084 บาท (แต่ละปั๊มอาจบวกเพิ่มไม่เท่ากัน)
8. ภาษี VAT สำหรับราคาขายปลีก 0.1846 บาท
รวมแล้วจากราคา 19.3488 -> 31.15 บาทต่อลิตรในที่สุด
- เพิ่มเติมกรมสรรพสามิตเก็บภาษีจากน้ำมันสูงสุดประมาณ 40 % ของภาษีทั้งหมดที่เก็บจากรมสรรสามิต
ภาษี 6 อันดับแรกของกรมสรรพสามิตปี 2563
- มาจนถึงตอนนี้เชื่อว่าหลายคนก็อาจคิดว่าที่น้ำมันแพงเพราะรัฐบาลเก็บภาษีและกองทุนเพื่อหารายได้เข้ารัฐเพิ่มขึ้นแน่ๆใช่ไหม???
- แต่ถ้าเปรียบเทียบราคาจากโรงกลั่น การเก็บภาษีและกองทุนเทียบกับปีที่แล้วปรากฎว่ามีเพียงราคาจากโรงกลั่นเท่านั้นที่เพิ่มขึ้นส่วนการจัดเก็บอื่นๆยังคงเท่าเดิมหรือใกล้เคียงกับของเดิม
ราคาน้ำมัน 1 ตุลาคม ปี 2563
ราคาน้ำมัน 1 ตุลาคม ปี 2564
- เมื่อเป็นดังนี้ก็ต้องไปดูอะไรทำให้ต้นทุนราคาน้ำมันเพิ่มซึ่งถ้าตามข่าวหลายประเทศเริ่มมีการฉีดวัคซีนเยอะขึ้นและเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติทำให้น้ำมันมีแนวโน้มมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งการผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติในอ่าวเม็กซิโก หยุดดำเนินการผลิตกว่า 39% จากภัยธรรมชาติ ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันโลกเพิ่มขึ้น แน่นอนราคาน้ำมันบ้านเราก็มีการอิงกับราคาน้ำมันโรคเช่นกัน
- ซึ่งแนวโน้มราคาน้ำมันก็มีการคาดการณ์ว่าราคาจะกลับมาถูกลง ถ้าการผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติในอ่าวเม็กซิโกสามารถกลับมาผลิตได้ตามปกติ
Photo by Zbynek Burival on Unsplash
สุดท้ายนี้ถ้าเทียบราคาน้ำมันกับประเทศเพื่อนบ้านจะเห็นว่ามีบางประเทศได้ใช้น้ำมันที่ถูกก็เนื่องมาจากนโยบายของรัฐบาลประเทศนั้น ๆ ที่ช่วยอุดหนุนหรือไม่เก็บภาษีน้ำมันเพื่อให้ประชาชนได้ใช้น้ำมันในราคาที่ถูก ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายและวิสัยทัศน์ของแต่ละประเทศ ซึ่งสำหรับประเทศไทยเรานั้นก็ยังพอมีข่าวดีอยู่บ้างที่มีกองทุนที่จะต้องออกมาช่วยเมื่อราคาน้ำมันแพงเกินไปแต่คำถามคือต้องรอให้แพงถึงเท่าไหร่ที่จะสามารถนำเงินออกมาช่วยในสถานการณ์ที่ต้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลังโควิด19...........สวัสดี
EppoThailand
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
