3 ต.ค. 2021 เวลา 02:59 • ครอบครัว & เด็ก
ไม่จริง สมาธิไม่ได้สร้างปัญญา แต่เป็นเหตุของกันและกัน
สมาธิกับปัญญาเป็นคนละสิ่ง ไม่ได้สร้างกันและกัน แต่เป็นเหตุของกันและกัน
สมาธิกับปัญญาเป็นคนละสิ่งกัน สมาธิไม่ได้เติบโตขึ้นไปเป็นปัญญา ปัญญาก็ไม่ได้มีวัยเด็กเป็นสมาธิ เหมือนน้ำกับต้นไม้เป็นคนละอย่างกัน น้ำไม่ได้เติบโตเป็นต้นไม้ แต่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ต้นไม้เติบโต ต้นไม้ก็เป็นสาเหตุในวงจรที่ทำให้เกิดน้ำ ทั้งสองอย่างนี้เป็น state คนละ state กัน และมีอยู่แล้วในทุกคน
เพียงแต่ไม่ใช่ทุกคนที่จูนเครื่องรับตัวเองไปเจอช่องของมันได้พอดี
สมาธิเป็นเพียงเหตุหนึ่งให้ปัญญาเผยตัวออกมา มีชื่อเรียกในศาสนาพุทธด้วยว่าภาวนามยปัญญา แต่นอกจากสมาธิแล้ว การฟัง การพินิจคิดต่อ ก็เผยตัวปัญญาออกมาได้เช่นกัน พุทธก็มีชื่อเรียกอีกเช่นกัน ว่า สุตมยปัญญา กับ จินตมยปัญญา ปัญญาเหล่านี้แค่ได้ยินได้ฟังปัญญาก็โพล่งขึ้นมาได้ หรือได้ยินแล้วยังไม่โพล่ง แต่พอนึกต่อคิดต่อแล้วปัญญาก็เผยตัวโพล่งออกมาได้ ไม่ต้องใช้สมาธิ
บางครั้งเรานั่งแก้ปัญหามาครึ่งค่อนวันยังแก้ไม่ได้ แต่พอได้ยินใครบางคนพูดอะไรออกมา มันก็ปิ๊งขึ้นมาทันที นั่นเป็นปัญญาที่เผยตัวออกมาจากการได้ยินได้ฟังหรือการคิดต่อนั่นเอง
ที่ว่ามานั้นคือภาวนาสมาธิที่เป็นเหตุให้เผยปัญญาออกมา ส่วนปัญญาที่ทำให้สมาธิตั้งมั่นก็ได้แก่การเอะใจ และการตื่นรู้
ยังไม่ต้องพูดถึงการตื่นรู้ระดับหลุดพ้น เอาแค่การเอะใจว่าแฟนคุณไปมีคนอื่นรึเปล่า ทุกอย่างตรงหน้าก็แทบจะดับหมด คงเหลือคุณล้วนๆ เด่นเป็นสง่ากับความคิดที่คุณกำลังจับอยู่ จากนั้นคุณจะมีสมาธิเพื่อคงอยู่กับความคิดตรงนี้หรือจะทำอะไรกับมันต่อก็แล้วแต่ แว่บนั้นนั่นแหล่ะคือการตั้งมั่นของสมาธิจากปัญญาเล็กน้อยของการเอะใจ
ในระดับหลุดพ้น เป็นปัญญาของการเอะใจที่สร้างผลกระทบยิ่งใหญ่จนเป็นการตื่นรู้ นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ขอบคุณสำหรับคำถามครับ
โฆษณา