3 ต.ค. 2021 เวลา 04:41 • หนังสือ
#วันหนึ่งฉันเจอเพนกวิน นวนิยายน่ารักสไตล์ญี่ปุ่น แฝงความเป็นไซไฟนิดๆ ปรัชญาเน้นๆ จากสำนักพิมพ์ Bibli เรื่องนี้เคยถูกนำมาทำเป็น animation แล้วด้วย ปกหนังสือน่ารักมาก โทนสีคือละมุน อ่านจบแล้วเดี๋ยวต้องไปดู animation ต่อละแหละ 😍
เนื้อหาเล่าถึง “อาโอยามะ” เด็กประถมยอดอัจฉริยะที่รักการจดบันทึกมาก อาโอยามะพยายามจะเป็นคนที่ฉลาดขึ้นในทุกวัน ทำให้เขาสังเกตทุกอย่างรอบตัว ชอบออกสำรวจ ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองสนใจ แล้วก็จดลงในสมุดบันทึก 📖 อาโอยามะมีเพื่อนคนพิเศษคือ “พี่สาว” ที่คลินิกทำฟัน วันหนึ่งในเมืองของพวกเขาก็เกิดเหตุการณ์ประหลาด มีเพนกวินปรากฏตัวออกมาอย่างลึกลับแบบที่ไม่น่าเป็นไปได้ อาโอยามะจึงทำงานวิจัย “เพนกวินไฮเวย์” 🐧 เพื่อหาคำตอบให้กับปรากฏการณ์นี้ แต่ยิ่งวิจัยมากขึ้นเขาก็ยิ่งพบกับปริศนามากมาย เหตุการณ์ประหลาดอื่นๆทยอยเกิดขึ้นในเมืองของพวกเขา และดูเหมือนว่าพี่สาวจะเป็นจุดศูนย์กลางของเรื่องทั้งหมดนี้
เอาจริงๆไม่คิดว่าเนื้อหาจะเป็นแบบนี้ คิดว่าจะออกแนวน่ารักกรุบกริบ เด็กน้อยผจญภัย มิตรภาพฟันน้ำนมอะไรประมาณนั้น แต่นี่คือล้ำมาก เป็นหนังสือที่มีความเป็นผู้ใหญ่สูงมาก พอเดินเรื่องมาถึงจุดหักเหก็คือโทนเรื่องเปลี่ยนไปเลย สนุกดี
ส่วนตัวอ่านจบแล้วชอบนะ อาโอยามะเป็นเด็กที่น่ารักดี แก๊งเพื่อนๆก็น่ารัก เป็นเรื่องราวที่ชวนให้นึกถึงชีวิตวัยเด็กที่มีแต่เรื่องสนุกน่าตื่นเต้นเต็มไปหมด แต่สารที่อยู่ในเรื่องนี้คือลึกล้ำมาก ทั้งในเรื่องเชิงวิทยาศาสตร์แบบล้ำๆ และในเชิงปรัชญา เราอ่านจบตั้งแต่เมื่อคืน แต่ตอนนี้ก็ยังตีความไม่ออกว่าผู้เขียนจะสื่ออะไร ทำไมต้องให้จบแบบนั้น มันคือสัญลักษณ์ของอะไรกันแน่ แต่โดยส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้รู้สึกค้างคาอะไรนักกับตอนจบ ถือว่าจบได้ค่อนข้างดีทีเดียว
อีกตัวละครที่ชอบมากๆคือ “อุจิดะ” เพื่อนซี้ของอาโอยามะ อุจิดะเป็นเด็กขี้กลัว ไม่สู้คน ไม่มั่นใจในตัวเอง แต่จริงๆแล้วก็ฉลาด และมีมุมมองต่อเรื่องราวต่างๆในชีวิตค่อนข้างละเอียดเลยทีเดียว อาโอยามะอาจจะเป็นนักวิทยาศาสตร์จ๋า แต่อุจิดะเป็นคนที่เข้าใจความเป็นไปของชีวิตได้อย่างลึกซึ้งกว่า จากตอนแรกที่ดูเหมือนเป็นเด็กที่เป็นลูกไล่คนอื่นตลอด แต่พอเขาเริ่มสนใจอะไรจริงจัง เริ่มลองจดบันทึกเหมือนเพื่อนๆบ้าง ก็มีไอเดียบางอย่างที่คมคายสุดๆโผล่ขึ้นมาให้ประทับใจเหมือนกัน
พี่สาวกับปริศนาของเธอคือสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในเรื่อง เป็นสัญลักษณ์ของอะไรสักอย่างที่ตอนนี้เราก็ยังตีไม่แตก แค่รู้สึกว่ามันลึกล้ำมาก ลึกเกินกว่าที่จะเป็นนิยายสำหรับเด็ก สงสัยถ้าเราอยากรู้เราคงต้องทำแบบอาโอยามะบ้างแล้วล่ะ เผื่อจะมีจังหวะ “ยูเรก้า” เกิดขึ้นมาบ้าง 🤣 แต่ก็เหมือนที่เด็กชายตัวเอกของเรื่องบอกไว้ “การวิจัยนี้ต้องใช้เวลาอีกนาน ตอนนี้ยังสรุปอะไรไม่ได้”
เพราะสำหรับเรื่องบางเรื่อง เราก็ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่เกินความเพียรพยายามของเราหรอก เนอะ 😁
โฆษณา