4 ต.ค. 2021 เวลา 12:08 • หนังสือ
พร "สวรรค์" แค่มาส่งที่ริมถนน
1.
อยากก้าวหน้าในชีวิต อย่าถามตัวเองว่า "สิ่งนี้ที่ฉันจะทำ มันยากมั้ย?" แต่ให้ถามตัวเองว่า "สิ่งนี้ที่ฉันจะทำ มันคุ้มมั้ย?" เพราะเราไม่ได้เกิดทำแต่เรื่องง่าย ๆ แต่เรามีชีวิตไว้เพื่อทำสิ่งที่คุ้มค่า...แม้ว่ามันจะยากก็ตาม
1
ภาพถ่ายโดย Sharefaith จาก Pexels
ถ้ามันยาก แต่คุ้ม จงทำ ถ้ามันง่าย แต่ไม่คุ้ม ...ก็อย่าไปทำมันเลย
1
2.
เมื่อก่อนฟังก์ชั่นมือถือ อย่างเช่น เล่นเกม ถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ เหล่านี้คือสุดยอดของความตื่นเต้น แต่เดี๋ยวนี้เป็นเรื่องธรรมดา มือถือไม่กี่พันบาทก็ทำสิ่งที่ว่านี้ได้ทั้งหมด ...คิดไปก็คล้ายคน เมื่อก่อนปริญญาตรีคือความหรู แต่เดี๋ยวนี้ดูสิดู ปริญญาโทเดินชนกันเต็มไปหมด
ขนาดโทรศัพท์มือถือยังต้องถีบตัวเอง หาจุดต่าง เพื่อสร้างจุดขาย ใครคนไหนยังทำตัวธรรมดา ๆ คุณสมบัติงั้น ๆ หาได้ทั่วไป ไม่มีความสามารถพิเศษเลย ค่าตัวก็จะตกลงเรื่อย เพราะตกรุ่น
ที่โชคร้ายก็คือ มือถือตกรุ่นบางอันก็ยังคลาสสิก เช่น โนเกีย 3310 แต่ "คนตกรุ่น" ไม่น่าจะมีใครบอกว่าคลาสสิก
1
จะซื้อมือถือแต่ละที ยังถามนั่นถามนี่ ฟังก์ชั่นนั้นนี้มีมั้ย? ทำไรได้บ้าง? จะให้เขารับเข้าทำงานทั้งที แต่คุณสมบัติเราน้อย ไม่มีชิ้นดี แบบนั้นมันน่าตีมือมั้ยเล่า?
เกิดเป็นมือถือ ยังพัฒนา เกิดเป็นคน จะไม่พัฒนาตนได้อย่างไร?
1
3.
คุณกำลังทำร้ายสมองอยู่หรือเปล่า? การทำร้ายสมองไม่ใช่ทุบตีสมอง แต่คือไม่ยอมใช้งานให้สมที่เกิดเป็นสมอง ผมคิดว่า3 ข้อต่อไปนี้คือสิ่งที่ทำร้ายสมองแบบค่อยเป็นค่อยไป รู้ตัวอีกที สมองก็ฝ่อ คิดอะไรไม่ออก หรือไม่ก็ไม่อยากคิดอะไรอีกแล้ว และคนที่ไม่คิดอะไรอีกแล้ว ก็คือคนที่ตายแล้ว เพียงแต่ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการเท่านั้นเอง
2
หนึ่ง ทำงานเดิม ซ้ำซาก ใช้ความสามารถเดิม ๆ จนหลับตาทำก็ยังได้
1
สอง เลือกทำแต่เรื่องง่ายเสมอ ถ้ายาก จะหยุดคิด เปลี่ยนเรื่องทันที
1
สาม ไม่เคยใส่เรื่องใหม่ให้สมอง ทำแต่ที่สิ่งชอบ ซึ่งซ้ำซาก ไม่ชอบความแตกต่าง
1
ลองฝึกทักษะใหม่ ๆ ทำเรื่องยากบ้าง คบคนที่แตกต่างจากเรา อ่านดูฟังเรื่องที่เราไม่เคยคิดว่าจะสนใจ สมองจะแตกกอต่อกิ่ง ไอเดียจะปิ๊งขึ้นมาเองครับ
4.
"อย่าทำงานเพื่อเงิน แต่จงทำงานเพื่องาน แล้วงานจะทำเงินเพื่อเรา" ประโยคนี้ลึกซึ้ง เมื่อก่อนผมไม่เข้าใจ มีที่ไหน อย่าทำงานเพื่อเงิน? ทุกคนก็ทำงานเพื่อเงินทั้งนั้น
กาลต่อมาผมจึงเข้าใจแล้วว่า ถ้าเราใช้เงินนำ ทำอะไรก็ได้ ขอให้ได้เงิน เมื่อนั้นเราจะหลงทางเพราะใช้เงินนำทาง กลายไปทำในสิ่งที่ไม่รัก เพราะหวังว่าเงินจะชดเชยความเจ็บปวดจากการทำงานที่ไม่รักได้
2
แต่เงินนั้นเป็นสิ่งสมมติ เมื่อวันที่ไม่ค่อยมีเงิน เราจะอยากได้มาก ๆ แต่เมื่อวันที่มีเงินมากแล้ว เรากลับรู้สึกเฉย ๆ เราจะเฝ้าถามตัวเองว่า...แล้วยังไงต่อ?
แต่ถ้าเราทำงานเพื่องาน แปลว่าจิตจดจ่ออยู่กับงาน งานที่เรารัก งานที่เราหลุดไหลเข้าไปอยู่ในงาน ไม่รู้กี่โมงกี่ยาม ไม่ถามว่าเลิกงานเมื่อไหร่ เมื่อนั้นนั่นล่ะ...เราทำงานเพื่องาน
1
งานที่เราทำจึงดีขึ้นและดีขึ้น และโลกนี้ขาดแคลนคนที่ทำงานดี ผลตอบแทนจึงหลั่งไหลมาหาเราท่วมท้น ทั้งที่เราไม่ได้เอาจิตไปจับเรื่องเงิน แต่โลกจะตอบแทนอย่างสาสม...นั่นคือจุดที่งานทำเงินเพื่อเรา
4
ที่น่าทึ่งก็คือ ใครก็ตามที่มาถึงจุดนั้นแล้ว เขาจะไม่ได้สนุกกับการใช้เงิน แต่กลับสนุกกับการหาเงิน...ไม่ใช่สิ สนุกกับการทำงานต่างหาก แล้วเงินจะตามมาเอง เงินที่มีอยู่แล้ว จึงยิ่งมีมากขึ้นไปอีก
อย่าทำงานเพื่อเงิน แต่จงทำงานเพื่องาน แล้วงานจะทำเงินเพื่อเรา ...นี่เรื่องจริง
5.
ความเก่งไม่เคยเป็นเรื่องฟลุก ถ้าฟลุกอย่างมากก็เก่งได้แค่ครั้งเดียว แต่ถ้าเก่งได้อย่างยืนระยะ แบบนั้นนั่นเรียกฝีมือ ฝีมือมาจากฝึกหนัก หลายคนทักว่าพรสวรรค์มั้ง? แต่เปล่าเลย ฝึกหนักทั้งนั้น เรียนรู้ทุกอย่าง อ่านเยอะ ดูเยอะ เจอเยอะ เจ็บเยอะ ทั้งหมดนั่นล่ะที่ทำให้คนเก่งนั้นเก่ง
2
พรสวรรค์มีจริงหรือเปล่า? ตอบว่ามีจริงครับ แต่พรสวรรค์แค่ทำให้เราชอบบางเรื่อง...ชอบอย่างไม่มีสาเหตุ แต่จากนั้นล้วนเป็นเรื่องที่ต้องฝึกหนัก พร "สวรรค์" แค่มาส่งที่ริมถนน จากนั้นเป็นเรื่องของ "คน" ...ที่ต้อง "แสวง" เดินไปถนนเส้นนั้นเอง
ฝึกหนักก็ได้ไปต่อ ฝึกน้อยก็ถอยไปเลย อย่าบ่นว่าสวรรค์ลำเอียง เพราะเรามัน "อ่อน" เองต่างหาก ความเก่งไม่เคยเป็นเรื่องฟลุก อย่าได้สงสัยว่าทำไมคนเก่งจึงเก่ง เพราะคำตอบมีแค่หนึ่งเดียว
1
เพราะ "เขาฝึกหนัก" นั่นเอง.
1
โฆษณา